|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธุรกิจสปาเฟื่อง ปีนี้คาดโต 80% “เซนส์ ออฟ จอย” สยายปีกทุ่ม 20 ล้าน เกาะติดแคลิฟลอเนียร์ ฟิตเนส ผุดสาขาที่ 2 ที่เอสพละนาด เชื่อคุ้มทุนใน 18 เดือน มั่นใจรายได้สิ้นปีแตะ 60 ล้านบาท ส่วนปีหน้าเตรียมเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา จากงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
นางวราลักษณ์ วาณิชย์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซนส์ ออฟ จอย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้าน สปา แอนด์ เวลเนส เซ็นเตอร์ ภายใต้ชื่อ เซนส์ ออฟ จอย เปิดเผยว่า ธุรกิจสปาเมืองไทยมูลค่า 40,000 ล้านบาทปีนี้มองว่าจะมีการเติบโตถึง 80% เนื่องจากการกระตุ้นจากทางภาครัฐ อีกส่วนหนึ่งมาจากเป็นการเติบโตที่มาจากกลุ่มสปาที่อยู่ในระดับเชนใหญ่ตามโรงแรมและรีสอร์ตต่างๆถึงแม้ว่ากลุ่มเจนเนอรัลสปาอาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพเศรษฐกิจก็ตาม
ขณะที่ธุรกิจสปาของบริษัท ภายใต้ชื่อ เซนส์ ออฟ จอย ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มระดับเอขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างสูง ที่สนใจดูแลตัวเองและสุขภาพ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยกว่า 20% ยังเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย ส่งผลให้ขณะนี้การเปิดให้บริการ เซนส์ ออฟ จอย สาขาแรกที่สุขุมวิท 23 ระยะเวลากว่า 2 ปีตั้งแต่เปิดให้บริการ ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า หรือมีฐานสมาชิกกว่า 5,000 ราย
ล่าสุดทางบริษัทฯได้จัดสรรงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ในการขยายสาขาที่ 2 เพิ่มขึ้นตามแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีแรก ณ ศูนย์การค้าเอสพละนาด สำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับเอขึ้นไปในย่านดังกล่าว โดยยังคงเป็นทำเลที่ติดไปกับฟิตเนสอย่าง แคลิฟอร์เนียร์ อยู่ ซึ่งมองว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน และจะช่วยให้บริการสปาของเซนส์ ออฟ จอย มีความแตกต่างจากที่อื่นๆ เช่นเดียวกับในสาขาแรก ซึ่งมีลูกค้าจากทางศูนย์ออกกำลังกายดังกล่าวเข้ามาใช้บริการกว่า 70% ส่วนในสาขานี้คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการมากว่า 1-2 เดือน ขณะนี้มีฐานสมาชิกแล้วกว่า 1,000 ราย
นางวราลักษณ์ กล่าวว่า ผลประกอบการของธุรกิจสปาค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ โดยในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา สาขาแรกที่สุขุมวิท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเดือน 25% จากเฉลี่ยต่อวัน 30-40 ราย และในเสาร์อาทิตย์ที่ 60-70 ราย ซึ่งเมื่อรวมกับสาขาที่ 2 ที่เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการมาได้ระยะหนึ่ง คาดว่าสิ้นปีนี้บริษัทฯน่าจะมีรายได้ที่ 60 ล้านบาท ขณะที่สาขาแห่งที่ 2 เชื่อมั่นว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 18 เดือนหรือเร็วกว่านั้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังได้มีการรีโนเวตสาขาแรกภายใต้งบประมาณอีกกว่า 5 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณวันที่ 7 พ.ย.ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง ใช้งบอีก 40 ล้านบาท หรือ 20 ล้านบาทต่อสาขา โดยอยู่ในขั้นตอนของการหาทำเล ซึ่งหนึ่งในนั้นคาดว่าจะเป็นย่านถนนสุขุมวิท โดยยังคงเน้นการเปิดสาขาที่อยู่ในหรือใกล้ๆกับฟิตเนสเพื่อที่จะได้มีลูกค้าไหลเวียนเข้ามาใช้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯยังเปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจเข้าร่วมลงทุนในการทำธุรกิจร่วมกันด้วย ทั้งในลักษณะของแฟรนไชส์หรือการร่วมทุนในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงการเข้าไปขยายสาขาในต่างประเทศด้วย ซึ่งมองไว้ว่าน่าจะเป็นเวียดนามหรืออินเดียภายในระยะ 3 ปีหลังจากนี้
|
|
|
|
|