"เขาเป็นคนสุขุม แต่ว่าช้าหน่อย นุ่มนวล เข้ากับคนได้ดี" เลื่อน
กฤษณกรี รองผู้ว่าการ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ด้านปฏิบัติการก๊าซธรรมชาติกล่าวถึง
พละ สุขเวช รองผู้ว่าการปตท. ด้านวิชาการและวางแผนไว้อย่างนั้น
พละเป็นอีกคนหนึ่งที่กลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งเมื่อครั้งที่เป็นช่วงต่อของการเลือกสรรผู้ว่าการปตท.
คนใหม่แทนดร.ทองฉัตร หงศ์ลดารมภ์เมื่อกว่าสองปีที่ผ่านมา
เขากลายเป็นคู่ขับเคี่ยวประกบกับเลื่อน
แต่กระแสความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับตัวเขาค่อนข้างจะสงบเงียบกวาเลื่อน เนื่องด้วยบุคลิกและบทบาทที่ต่างกัน
หากสำคัญไม่น้อยกว่ากัน
ก่อนหน้านี้ ขณะที่เลื่อนเป็นรองผู้ว่าการด้านการตลาด พละได้รับผิดชอบในตำแหน่งรองผู้ว่าการด้านจัดหาและกลั่นน้ำมันและจากตำแหน่งนี้เอง
พละได้รับมอบหมายให้ศึกษาเกี่ยวกับโครงการปิโตรเคมี-2 มาแต่ต้น
เค้าโครงของโครงการปิโตรเคมี-2 ประกอบด้วยโรงโอเลฟินส์ในลักษณะเดียวกับโครงการโอเลฟินส์ที่ดำเนินการโดยบริษัทปิโตรเคมีแห่งชาติ
จำกัด ในขณะนี้ ซึ่งจะผลิตก๊าซเอทธิลีนและไพรไพลีนให้แก่กลุ่มอุตสาหกรรมดาวน์สตรีม
เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกพีพี พีอี วีซีเอ็มและพีวีซี อันเกป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกชนิดต่าง
ๆ ที่ใช้กันอย่างหลากหลายในปัจจุบัน
โดยโรงงานโอเลฟินส์ในปิโตรเคมี-2 จะผลิตก๊าซเอทธิลีน 350,000 ตันต่อปี
ก๊าซโพรไพลีน 170,000 ตันต่อปี
ส่วนอีกโรงงานหนึ่งจะเป็นโรงอะโรเมติกส์ จะผลิตเบนซินโทลูอีน และไซลีน
ซึ่งจัดเป็นอุตสาหกรรมอัพสตรีมขั้นต้นและจะเป็นวัตถุดิบใช้ในการผลิตพีทีเอ
วัตถุดิบสำคัญของเส้นใยสังเคราะห์และวัตถุดิบอื่น ๆ อีกหลายชนิด
เกี่ยวกับโรงอะโรเมติกส์นั้น ได้มีการจัดตั้งขึ้นเป็นบริษัทจำกัดแล้ว เรียกกันว่าทีเอซี
(TAC) มีเลื่อนเป็นตัวเต็งที่จะไปนั่งเป็นกรรมการผู้จัดการ
สำหรับโรงโอเลฟินส์ ได้ตั้งขึ้นเป็นบริษัท ไทยโอเลฟินส์ (ทีโอซี) จำกัด
(TOC) ด้วยทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาทมี ปตท. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 40% บริษัท
ปิโตรเคมีแห่งชาติจำกัด 11% และกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้แก่บริษัท
บางกอกโพลีเอทิลีน จำกัด (บีพีอี) 11.7% บริษัทสยามสไตรีนโมโนเมอร์ จำกัด
3.82% บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (ทีพีไอ) 6.86% บริษัท วินิไทย
จำกัด 5.29% บริษัทที่จะผลิตสารซี-4 อีก 8% และบริษัท บีเอ็มทีไกรคอล จำกัด
13.33%
ทีโอซีมีปตท.เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ต่างกับทีเอซี ซึ่งมีไทยออยล์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ทีโอซีกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ทีโอซีได้คัดเลือกกลุ่มบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาเพื่อออกแบบก่อสร้างและจัดประมูล
รวมไปถึงการกำหนดสเป็กของโรงงานไว้ 4 ราย
สามรายแรกมาจากสหรัฐอเมริกา คือ บริษัท ฟอสเตอร์ วีลเลอร์ จำกัด บริษัท
ฟูลออลแดเนียล และบริาท เบคเทล ส่วนอีกรายหนึ่งคือ บริษัทเลอกี้ ไทรเค็ม
แห่งเยอรมนีตะวันตก พละเปิดเผยถึงแผนของโครงการว่า จะออกเอกสารประมูลได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์
2533 และต้นปีถัดไป จะคัดเลือกผู้ประมูลได้เรียบร้อยโดยกำหนดก่อสร้างโรงงานเสร็จและเริ่มดำเนินการในราวกลางปี
2536
มองเผิน ๆ โรงโอเลฟินส์ของทีโอซี ไม่น่าจะมีอะไรยุ่งยาก เพราะเรามีโรงโอเลฟินส์เกิดขึ้นโดยการบริหารของบริษัทปิโตรเคมีแห่งชาติ
จำกัด อยู่แล้ว
แต่ข้อเท็จจริง โรงโอเลฟินส์ที่เกิดขึ้นใหม่นี้ ต่างกับโรงโอเลฟินส์โรงแรก
โรงแรกใช้วัตถุดิบ คือ ก๊าซโพรเพน และอีเธนจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ เพียงสายเดียว
แต่โรงโอเลฟินส์ของทีโอซีจะใช้วัตถุดิบ 2 สายด้วยกัน
"ใช้ทั้งลายน์ที่มาจากก๊าซธรรมชาติจากโรงแยก และรับแนปธ่าจากโรงกลั่น
เพราะฉะนั้นตรงนี้จึงต้องดูให้ดี ให้แต่ละส่วนไปได้ดี ต้องมองอย่างครบวงจร
การเกิดขึ้นของโรงโอเลฟินส์แห่งใหม่จะต้องไม่กระทบต่อโรงแรก" พละกล่าวกับ
"ผู้จัดการ"
การกำหนดใช้วัตถุดิบในการผลิตโพรไพลีนและเอทธิลีนของโรงโอเลฟินส์ใหม่ จึงจำเป็นต้องวางแผนการจัดหาได้ดี
"การใช้วัตถุดิบต้องยืดหยุ่นอาจจะใช้ทั้งแนปธ่าจากน้ำมันใช้คอนเดนเสท
ก๊าซ หรือแม้แต่อีเธน ซึ่งจะนำมาใช้ด้วยหรือไม่ต้องศึกษาดูก่อน"
ขณะที่โรงโอเลฟินส์ที่สหรัฐฯ มีกำลังผลิตขนาด 500,000 ตันต่อปี เขาจะใช้อีเธน
ใช้แอลพีจี และแนปธ่าเป็นวัตถุดิบ
พละย่ำว่าในการบริหาร จะต้องให้ความสำคัญในสองเรื่องใหญ่ด้วยกัน
เรื่องที่หนึ่ง วัตถุดิบต้องยืดหยุ่นได้ และเรื่องที่สอง ผลิตแล้วจะต้องแข่งกับราคาในตลาดโลกได้
"เราใช้คอนเซ็ปท์เดียวกับไต้หวัน คือ เริ่มต้น่จากด้านดาวน์สตรีมก่อน
เป็นแบบแบคเวิร์ค (BACKWARD) เราผลิตเม็ดพลาสติกก่อน แล้วจึงผลิตวัตถุดิบที่ใช้ย้อนไปถึงวัตถุดิบตัวแรกที่ต้องใช้"
พละเปรียบเทียบโรงโอเลฟินส์ของไทยกับไต้หวันและเกาหลีว่า "เมื่อเขาทำได้
เราก็น่าที่จะทำได้ ไต้หวันมี 4-5 คอมเพล็กซ์ เกาหลีมี 5-6 คอมเพล็กซ์ เรามี
2 คอมเพล็กซ์ แม้จะมีความชำนาญน้อยกว่าแต่ทุกคนก็ได้พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด"
โดยเฉพาะเรื่องราคาเอทธิลีนที่ผลิตออกมานั้น แม้พละจะเน้นว่า จะต้องไม่กระเทือนต่อโรงโอเลฟินส์โรงแรก
ต้องทำให้โรงงานกลุ่มดาวน์สตรีมไปได้และสอดคล้องกับราคาตลาดโลกด้วยนั้น โดยส่วนตัวแล้วพละเองยอมรับว่าเป็นเรื่องที่หนักใจอยู่
"แม้บางครั้งราคาน้ำมันลดลง แนปธ่าซึ่งมาจากน้ำมันถูกลง แต่ราคาเอทธิลีนก็ยังสูงอยู่เพราะเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางด้านดีมานต์ด้วยว่ามีการใช้มากขนาดไหน"
อย่างไรก็ตามพละย้ำอย่างมั่นใจว่า เราทำได้ เพราะเอทธิลีน ถ้านำเข้าต้องเสียค่าขนส่งประมาณ
50 เหรียญสหรัฐ ต่อตัน ส่วนนี้จะช่วยประหยัดต้นทุนไปได้ และนี่เป็นเงื่อนไขแรกที่เราจะต้องผ่านให้ได้โดยต้องดูเรื่องระยะยาวพร้อมกันไปด้วย"
ขณะเดียวกัน ความร่วมมือที่ได้จากกลุ่มดาวน์สตรีม พละบอกว่า "ดีมาก"
เพราะโรงโอเลฟินส์แห่งใหม่จะมีไพน์แก๊สซึ่งเป็นน้ำมันที่เกิดจากการสลายตัวป้อนเข้าสู่โรงอะโรเมติกส์
และมีแรฟฟินเนทที่เหลือจากการสกัดในโรงอะโรเมติกสื ป้อนเข้าเป็นวัตถุดิบให้แก่โรงโอเลฟินส์
ทั้งโรงโอเลฟินส์และโรงอะโรเมติกส์จึงสัมพันะกันอย่างแยกไม่ออก
ฉะนั้น หากส่วนหนึ่งส่วนใดของระบบการผลิตสะดุดลงทุนส่วนก็จะพลอยรับชะตามกรรมร่วมกันอย่างแน่นอน
ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น
การประสานงาน จึงเป็นหัวใจของการทำงานดังที่เขาบอก
หลายคนในวงการจึงพูดกันว่า สไตล์นุ่มโดยบุคลิกของพละ จะช่วยเขาได้มาก