Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 ตุลาคม 2550
ลีเวอร์โบ้ยปรับราคาสินค้าทุ่ม500ล.ขยายฐานพอนด์ส             
 


   
www resources

โฮมเพจ ยูนิลีเวอร์

   
search resources

ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง, บจก.
วรรณิภา ภักดีบุตร
Commercial and business




ยูนิลีเวอร์ สงวนท่าทีปรับราคาสินค้า แต่ในอนาคตต้องพิจารณาต้นทุนผลิตพุ่งหรือไม่ หากกัดฟันแบกรับภาระไม่ไหว อัดฉีด 500 ล้านบาท ส่งพอนด์ส ฟลอเลส ไวท์ ขยายเซกเมนต์แมสทีจติดลมบน หลังตลาดโต 33%

นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนและเครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า กรณีที่ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น ผลพวงจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ตลอดจนการปล่อยลอยตัวก๊าซหุงต้ม ทำให้มีกลุ่มผู้ประกอบการยื่นต่อกรมการค้าภายในขอปรับราคาสินค้าขึ้นนั้น ขณะนี้โครงสร้างราคาของบริษัทฯยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่การปรับราคาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับต้นทุนการผลิต การปรับราคาขึ้นจะเป็นทางเลือกสุดท้าย

ทั้งนี้ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคมีการแข่งขันสูง ผู้บริโภคมีสินค้าให้เลือกมาก การขึ้นราคาอาจมีผลทำให้ผู้บริโภคไปซื้อสินค้าคู่แข่งที่ถูกกว่า ดังนั้นกลไกตลาดควบคุมในตัวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในสถานการณ์นี้ผู้ประกอบการ ประสบกับภาวะต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเหมือนกันหมด สิ่งที่สำคัญต่อภาวะนี้ คือ การบริหารธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่ากรณีว่าบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง มีการยื่นต่อกรมการค้าภายในเพื่อขอปรับราคาขึ้นหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ผู้บริหารไม่ขอตอบ ส่วนการนำโมเดลลดปริมาณแต่จำหน่ายราคาเท่าเดิมมาใช้หรือไม่ บริษัทฯก็ไม่ขอตอบเช่นกัน แม้ว่าต้นทุนการผลิตกลุ่มผงซักฟอก สบู่ แชมพู จะเพิ่มขึ้นก็ตาม

อัด500ล.ขยายเซกเมนต์แมสทีจ

นางวรรณิภา กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเซกเมนต์แมสทีจ หรือระดับแมส-พรีเมียม ในช่วงที่ผ่านมาเติบโตสูงทั้งกลุ่มไวท์เทนนิ่งและลดเลือนริ้วรอย สำหรับปีนี้ตลาดลดเลือนริ้วรอยในเซกเมนต์แมสทีจมูลค่า 650 ล้านบาท เติบโต 30% เมื่อเทียบกับตลาดลดเลือนริ้วรอยระดับแมสมูลค่า 1,638 ล้านบาท เติบโต 22% ส่วนตลาดรวมลดเลือนริ้วรอยมูลค่า 2,600 ล้านบาท เติบโต 14%

ขณะที่ตลาดไวท์เทนนิ่งแมสทีจเติบโต 33% จากมูลค่า 1,333 ล้านบาท ระดับแมสมูลค่า 1,395 ล้านบาท โต 7% ส่วนตลาดรวมไวท์เทนนิ่งมูลค่า 3,100 ล้านบาท โต 10% สำหรับตลาดรวมบำรุงผิวหน้ามูลค่า 6,400 ล้านบาท เติบโต 12%

“ปัจจัยที่ทำให้กลุ่มแมสทีจมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เพราะพฤติกรรมของผู้หญิงต้องการใช้สินค้าที่ตอบสนองความต้องการเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความซับซ้อนมากขึ้น แต่ปัจจุบันผู้หญิงไทยใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเฉลี่ย 2 ชิ้นเท่านั้น”

กลุ่มผลิตภัณฑ์พอนด์ส จะขยายตลาดแมสทีจมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้เปิดตัวพอนด์ส เอจ มิราเคิล ลงตลาดลดเลือนริ้วรอยแมสทีจ เพื่อให้ครบวงจรได้เปิดตัวพอนด์ส ฟลอเลส ไวท์ ส่วนผสมของวาโอบีทรี ลงสู่ตลาดแมสทีจ ราคาสูงกว่าระดับแมส 40-50% เจาะกลุ่มผู้หญิงอายุ 18-30 ปีระดับซีบวกถึงเอ

สำหรับงบตลาดพอนด์ส ฟลอเลส ไวท์ ตั้งไว้ 500 ล้านบาท นับว่าเป็นงบการตลาดที่มากที่สุดตั้งแต่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ เตรียมกลยุทธ์โฆษณาชุด 7 Days To Day Love 7 วัน เพื่อรักแท้ โฆษณาในอีก 5 ประเทศในเอเชีย พร้อมทั้งนำรูปคู่รักคนดังจากวงการบันเทิง ได้แก่ เอ๊ะ-ศศิกานต์ และเจมส์ เรืองศักดิ์,ลิเดีย – แมทธิว และแอน อลิชา และภูริ หิรัญพฤกษ์ เป็นต้น มาอวดโฉมทรู เลิฟ แกลอรี่ การแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 5 แสนชิ้น

“การเปิดตัวในครั้งนี้เพื่อรักษาการเติบโตและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดกลุ่มบำรุงผิวหน้าครองแชร์ 22% จากมูลค่า 6,400 ล้านบาท ส่วนอันดับ 2 โอเลย์ 21% ส่วนไวท์เทนนิ่ง พอนด์ส สิ้นปีตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 29.7% จากมูลค่า 3,100 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเพราะการแข่งขันมีความรุนแรง มีสินค้าคู่แข่งมากมาย ตลาดเติบโตเร็ว ดังนั้นการเปิดตัวสินค้าใหม่ควบคู่กับการจัดกิจกรรมเพื่อให้แบรนด์มีความแข็งแกร่ง”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us