Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 ตุลาคม 2550
เมเจอร์ฯดึงAIGตั้งบ.ร่วมทุนผุดคอนโดมิเนียมหรูมูลค่า600ล.             
 


   
search resources

เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.
สุริยนต์ พูลวรลักษณ์
Real Estate




“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ดึงทุนนอก “เอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท” ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหรู ระดับซูปเปอร์ลักชัวรี่ ระบุต้องการยกระดับเป็นบริษัทอินเตอร์ ประเดิมโครงการแรกที่สุขุมวิท 31 ราคาขายเฉลี่ย 1.5 แสนบาท/ตร.ม. ส่วนแผนกระจายหุ้นในตลาดคาดสรุปได้ในเดือน พ.ย.

นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็มเจดี เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัทเอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท อินเวสเมนต์ บริษัทในเครือเอไอจี โฮลดิ้งส์ จากสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมมลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ด้วยการจัดตั้งบริษัทเอ็มไอจี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด โดยเมแจอร์ฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และเอไอจีถือหุ้น 49% สำหรับเงินลงทุนเบื้องต้นนั้นคาดว่าจะใช้ประมาณ 600 ล้านบาท

ทั้งนี้ การร่วมทุนดังกล่าว จะเป็นลักษณะโครงการต่อโครงการ โดยจะเน้นไปที่การพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับซูปเปอร์ลักชัวรี่ โดยโครงการแรกบนถนนสุขุมวิท 31 เนื้อที่ขนาด 3 ไร่ครึ่ง คาดว่าจะพัฒนาเป็นอาคารสูง 2 อาคารพื้นที่ประมาณ 25,000 ตร.ม. ราคาขายเฉลี่ย 150,000 บาทต่อตร.ม. มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเปิดตัวได้ในต้นปี 2551

“แม้ว่าเมเจอร์ฯ จะมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาตึกสูงและเป็นโครงการหรู แต่บริษัทต้องการเป็นบริษัทระดับอินเตอร์ ต้องมีเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี่ ดังนั้น จึงเลือกที่จะร่วมทุนกับบริษัทที่มีความเป็นอินเตอร์ มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างเอไอจีฯ ” นายสุริยนกล่าว

สำหรับแผนการนำหุ้นของบริษัทเข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่ประเทศไทยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟล์ลิ่ง)ต่อคณะกรรมการกำกับและดูแลตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะกระจายหุ้นจำนวน 200 ล้านหุ้น ส่วนราคานั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยจะทำการเปิดขายให้แก่นักลงทุนสถาบันก่อน หลังจากนั้นบริษัทจะทำการโรดโชว์แก่นักลงทุนในต่างประเทศต่อไป ทั้งนี้การกระจายหุ้นดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนลงจากเดิมอยู่ที่ระดับ 2:1 มาอยู่ที่ระดับ 1.2 : 1

“ยอมรับว่าการร่วมทุนกับเอไอจีฯ จะส่งผลดีต่อราคาหุ้นของบริษัท ส่วนกลุ่มเอไอจีฯจะเข้ามาถือหุ้นเมเจอร์ในอนาคตหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้”

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้อยู่ในมือจำนวน 13,800 ล้านบาท โดยจะเริ่มทะยอยรับรู้ภายใน 2 ปีข้างหน้า แบ่งเป็นรับรู้รายได้จาก 3 โครงการในปี 2551 จำนวน 6,000 ล้านบาท และในปี 2552 จาก 5 โครงการ จำนวน 7,800 ล้านบาท

อนึ่ง ทางบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการตามเมืองท่องเที่ยว โดยจะไปลงทุนโครงการบริเวณหาดจอมเทียนพัทยา 1 คอนโดมิเนียม 2 อาคาร ลูกค้านักธุรกิจและชาวต่างชาติระดับเอ ขึ้นไป มูลค่าโครงการประมาณ 3,300 ล้านบาท ระยะเวลาเริ่มดำเนินการประมาณ ไตรมาส 2 ปี 51 และโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณหาดจอมเทียน พัทยา 2 เน้นลูกค้านักธุรกิจและชาวต่างชาติระดับเอขึ้นไป มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท เริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณ ไตรมาส 2 ปี 52   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us