Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 ตุลาคม 2550
“ดุสิต”จัดทัพรุกสยายปีกเอเชียเป้าใน3ปี50แห่ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ ดุสิตธานี

   
search resources

ดุสิตธานี, บมจ.
Hotels & Lodgings




นายชนินท์ โทณวนิก กรรมการบริหาร บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงแรมในเครือดุสิต กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างการทำงานขององค์กรใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น“ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล” เพื่อมุ่งสู่ความเป็นสากล เน้นขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยงานหลักจะมุ่งในเรื่องการรับบริหารจัดการโรงแรมภายใต้แบรนด์ที่อยู่ในเครือดุสิต ซึ่งมีทั้งหมด 5 แบรนด์ ได้แก่ ดุสิตธานี, ดุสิตเทวารัณย์, ดุสิต ดีทู , ดุสิต ปริ๊สเซส และ ดุสิตเรสซิเดนท์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์

ปรับแผนบริษัทเน้นรับบริหาร

โดยในระยะ 3 ปี นับจากนี้ไป ดุสิตจะมุ่งขยายตลาดไปในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลางเป็นหลัก ตั้งเป้าหมายใน 3 ปี จะมีโรงแรมในเครือดุสิตในภูมิภาคนี้รวมกว่า 50 แห่ง โดยจะเป็นโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่บริษัทลงทุนและเป็นเจ้าของเองประมาณ 10 แห่ง ตั้งอยู่ในประเทศไทยเป็นหลัก ส่วนที่เหลือหว่า 40 แห่ง จะเป็นโรงแรมที่บริษัทรับบริหารจัดการและตั้งในต่างประเทศเป็นหลัก จากปัจจุบันซึ่งมีอยู่ประมาณ 22 แห่ง โดยบริษัทเป็นเจ้าของเองเพียง 9 แห่ง

ซึ่งหากธุรกิจขยายออกไปมากกว่านี้ การลงทุนเองของบริษัทจะอยู่ในสัดส่วน 10 ต่อ 1 คือ บริหาร 10 แห่ง ลงทุนเอง 1 แห่ง ซึ่งในการเข้าไปบริหาร บริษัทจะใช้เงินเข้าไปลงทุนไม่เกิน 10%

“เมื่อ 4 ปีก่อน เคยคิดว่าดุสิตจะลงทุนและเติบโตด้วยตัวเอง แต่เมื่อเข้ามาทดลองในธุรกิจรับบริหารจัดการ จึงทำให้รู้ว่า เป็นวิธีที่ดีกว่าหากเราต้องการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว จึงใช้เวลาศึกษาโครงสร้างแบรนด์อยู่ 2-3 ปี และตัดสินใจปรับแผนจากที่จะลงทุนเอง มาเป็นรับบริหาร เพราะจุดประสงค์ของเราคือต้องการชนกับคู่แข่งที่เป็นเชนโรงแรมในระดับอินเตอร์ทั้งหมด โดยชูจุดขายด้านบริการแบบไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติทั่วโลก เบื้องต้นจะตั้งออฟฟิศ 4 แห่ง ที่ไทย ดูไบ อินเดีย และ จีน เพื่อดูแลงานด้านรับบริหารจัดการ”

ด้านสัดส่วนรายได้ใน 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนที่มาจากกิจการของบริษัทเองจะมีประมาณ 70% อีก 30% เป็นรายได้จากรับบริหารจัดการ จากปัจจุบัน รายได้ 90% มาจากกิจการของบริษัทเอง ซึ่งสัดส่วนนี้จะปรับเปลี่ยนให้มีรายได้จากการรับบริการจัดการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆต่อไปในอนาคต

“เราวางตำแหน่งเป็นพรีเมียมแบรนด์ ซึ่งโรงแรมที่อยู่ในเครือดุสิตทั้งหมดเป็นระดับ 4-6 ดาว แต่ละแบรนด์มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป ตอบสนองคอนเซปต์ของลูกค้า และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวได้ทุกรูปแบบ”

สำหรับในต่างประเทศตลาดที่จะขยายออกไป ได้แก่ เวียดนาม ,จีน ,อินเดีย ,บาหลี และ มัลดีฟ ล่าสุดเซ็นสัญญากับกลุ่มธุรกิจโรงแรม Bird Hospitality Services(BHS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเบิร์ดกรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวรายใหญ่ของอินเดีย การเซ็นสัญญาร่วมทุนครั้งนี้ เพื่อให้บริการโรงแรมในอินเดียรวม 6 แห่งโดยจะทยอยเปิดตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ส่วนที่จีนขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะสรุปและเซ็นสัญญาได้ในไตรมาสแรกปีหน้า และประเทศต่อไปคือเวียดนาม , ออสเตรเลีย , บาหลี และ มัลดีฟ เป็นต้น

ปัจจุบันดุสิตมีโรงแรมที่ลงทุนเอง และที่รับบริหารจัดการรวมถึงเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ อยู่ในตะวันออกกลางกว่า 4 แห่ง ที่เมือง ไคโร ดูไบ และ อาบูดาบี

ซื้อกิจการสร้างธุรกิจ

ส่วนตลาดในประเทศสำหรับในกรุงเทพมหานคร กำลังดูทำเลเพื่อเปิดโรงแรมดุสิตดีทู และ ดุสิตเรสซิเดนท์ ซึ่งเราจะใช้วิธีเทกโอเวอร์อาคารเก่ามาปรับปรุง เพื่อความรวดเร็วของการทำธุรกิจ ซึ่งต่างจากเดิมที่เราใช้วิธีก่อสร้างจากที่ดินที่มีอยู่ซึ่งจะเสียเวลา

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ลงทุนกว่า 300 ล้านบาท พัฒนาระบบไอที เพื่อรองรับการเติบโตของกิจการ โดยจัดวางระบบสำรองห้องพัก ระบบข้อมูลลูกค้า ระบบการจองห้องพักผ่านเว็บไซต์ และระบบการขายห้องพัก ผ่านเครือข่ายที่มีอยู่กว่า 200 แห่งทั่วโลก เป็นบริการที่เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us