นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้าอยู่ 3 ประเทศ คือไทย อินโดนีเซีย และจีน ทั้งนี้แผนการดำเนินงานระยะยาวตั้งแต่ปี 2552 ถึง 2556 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า มีแผนที่จะไปธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้าอีก 1 ประเทศ โดยเล็งไว้ที่เวียดนามกับอินเดีย ซึ่งคาดว่าอินเดียจะมีความเป็นไปได้มากกว่า เนื่องจากขณะนี้มีการเจรจาไว้ระดับหนึ่งแล้ว และปีหน้าจะรู้ผลความชัดเจนมากขึ้น

สำหรับธุรกิจในจีนนั้น บริษัทมีแผนใช้งบประมาณในธุรกิจไฟฟ้า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ และอีก 120 ล้านเหรียญจะใช้ทำธุรกิจถ่านหิน โดยเป็นการใช้งบระหว่างปี ปัจจุบันในจีนนั้น บ้านปูมีโรงไฟฟ้า 3 แห่งคือโรงไฟฟ้าเจิ้งติ้ง โรงไฟฟ้าล่วนหนาน และโรงไฟฟ้าโจวผิง ทั้งนี้ ที่เจิ้งติ้งปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 48 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำ 180 ตันต่อชั่วโมง ที่ล่วนหนานมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำ 180 ตันต่อชั่วโมง และโจวผิงมีกำลังผลิตไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำ 490 ตันต่อชั่วโมง

นายชนินท์ กล่าวว่า ในปีหน้าทางบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังไฟฟ้าที่เจิ้งติ้ง และโจวผิงอีก 50 เมกกะวัตต์ เนื่องจากปัจจุบันการใช้ไฟฟ้าในประเทศมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบางพื้นที่ในจีนยังขาดการใช้ไฟฟ้าอยู่บ้าง นอกจากนี้รัฐบาลก็มีนโยบายให้โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เตรียมย้ายเข้าเมืองเจิ้งติ้งภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วโรงงานที่จะย้ายเข้ามาจะเป็นโรงงานทอผ้า ย้อมผ้า ซึ่งจะทำให้การใช้ไฟฟ้าในอนาคตเพิ่มมากขึ้นอีก

นอกจากนี้ จีนยังมีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนให้ลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่แทนโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ ให้มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 600 เมกกะวัตต์ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้ามาลงทุนในจีน ปัจจุบันจีนมีโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดโดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,000 เมกกะวัต

อย่างไรก็ตามการเข้ามาลงทุนในจีน ต้องคิดให้รอบคอบ เนื่องจากการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจะมีอายุ 20 – 25 ปี แต่เป็นการทำสัญญาที่ไม่แน่นอน ซึ่งจะต่างจาก ไทยที่มีการธุรกิจดังกล่าวจะมีการกำหนดสัญญาไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าในจีนสร้างรายได้ให้กับบ้านปูในครึ่งปีแรก 1,700 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ตลอดทั้งปีไว้ประมาณ 100 ล้านเหรียญ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 3,500 ล้านบาท หรือโตประมาณ 15%

สำหรับโรงไฟฟ้าหงสาที่ลาวนั้น ขณะนี้ทางบริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนระหว่างมีการเจรจาทำการซื้อขายค่าไฟกับทาง ก.ฟ.ผ. และในส่วนของผู้ร่วมทุนนั้นอาจจะเป็นการร่วมมือไทยกับต่างชาติ ซึ่งเล็งไว้คือจีนหรือญี่ปุ่น