|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“แสนสิริ”พลิกกลยุทธ์หลังกำลังซื้อบ้านแพงหดตัว เตรียมปรับลดไซส์บ้านนาราสิริ สาทร-วงแหวน เพื่อลดราคาขาย เร่งทำการตลาดทำเลฝั่งธนสร้างยอดขาย หลังพบเป็นทำเลใหม่ ลูกค้าในพื้นที่ไม่คุ้นเคย พร้อมลุยคอนโดมิเนียมหัวหิน-บ้านพักตากอากาศขายต่างชาติต่อเนื่อง หลังยอดขายฉลุยติดลมบน
ความพยายามที่จะรุกอสังหาริมทรัพย์ให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ของแสนสิริในปีนี้เริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น หลังจากตั้งบริษัทลูก คือ เรด โลตัส พร็อพเพอร์ตี้ เข้าไปลงทุนโครงการบ้านพักตากอากาศในย่านหัวหิน เจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ ได้แก่ โครงการสีดา ทรอปิคอล วิลล่า บนพื้นที่ 7 ไร่ ซ.หัวหิน 112-116 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์คอนเท็มโพรารี่ พื้นที่ 80 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม. รวม 22 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5.4 ล้านบาท, โครงการบุษบา พูล วิลล่า บนพื้นที่ 9 ไร่ ซ.หัวหิน 112-116 เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว พื้นที่ 100 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ 80 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 211 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำส่วนตัว รวม 23 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท และโครงการมายา ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม. ซึ่งทุกโครงการอยู่ในรูปแบบสร้างเสร็จก่อนขาย และได้รับการตอบรับจากตลาดค่อนข้างดี
ทำเลดังกล่าวที่เรด โลตัสฯเข้าไปลงทุนถือเป็นชุมชนขนาดใหญ่ของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในหัวหิน ได้แก่ เยอรมัน และสแกนดิเนเวีย ส่วนใหญ่เป็นวัยเกษียณที่ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 ไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ โครงการที่เข้ามาพัฒนาก่อนหน้านี้เป็นการพัฒนาโดยดีเวลลอปเปอร์ท้องถิ่นที่เป็นชาวต่างชาติร่วมทุนกับคนไทย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากกำลังซื้อชาวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บวกกับเครือข่ายลูกค้าที่มีดีเวลลอปเปอร์มีอยู่แล้วในมือ ทำให้โครงการประสบความสำเร็จได้ไม่ยากนัก
แม้เรด โลตัสฯ จะเป็นบริษัทในเครือของแสนสิริที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาแล้วหลายโครงการในกรุงเทพฯ แต่เข้าไปในตลาดหัวหินและเป็นการทำตลาดกับกลุ่มชาวต่างชาติในท้องถิ่นที่แสนสิริไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน จึงถือได้ว่ายังอยู่ในฐานะที่เป็นรองดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆ อยู่บ้าง ในแง่ของฐานลูกค้า การรับรู้แบรนด์ ซึ่งชาวต่างชาติยังไม่รู้จัก ในขณะที่แบรนด์แสนสิริเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนไทยอยู่แล้ว
ดังนั้นเรด โลตัสฯ จึงเน้นการทำตลาดผ่านทุกช่องทาง เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มชาวต่างชาติ โดยสื่อสารว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือของแสนสิริ ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือ พร้อมทั้งชูจุดขายเรื่องคุณภาพและบริการหลังการขายที่จะไม่ละทิ้งลูกค้าเมื่อจบโครงการเหมือนกับดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆ ในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการดึงนายหน้าในท้องถิ่นกว่า 10 รายที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีเข้ามาช่วยในการขายโครงการด้วย ซึ่งในอนาคตแสนสิริจะรุกตลาดพัทยา และภูเก็ตด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาตลาด
นอกจากการรุกตลาดใหม่ในหัวหิน แสนสิริก็ยังไม่ทิ้งคอนโดมิเนียมตากอากาศ ตลาดเดิมที่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายเป็นอย่างดี สามารถปิดยอดขายได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยในปีนี้สามารถปิดการขายได้ 2 โครงการ คือ บ้านแสนดาว ที่พัฒนาให้บริษัท เจแอนด์ดับบลิว ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และกลุ่มเดคคอร์มาร์ท ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของแสนสิริ โดยใช้ระยะเวลาการขายเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น และบ้านแสนปลื้ม ที่สามารถปิดยอดขายได้ภายใน 3 วัน ซึ่งยอดขายของทั้งสองโครงการมาจากลูกค้าคนไทยเป็นหลัก และเป็นลูกค้าเก่าของแสนสิริถึง 70% แสดงให้เห็นว่าลูกค้ายังมีดีมานด์ และความเชื่อมั่นในแบรนด์เป็นอย่างมาก
อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) กล่าวว่า จากการตอบรับของตลาดที่ดีต่อคอนโดมิเนียมตากอากาศที่หัวหิน แสนสิริจึงเปิดตัวโครงการบ้านนับคลื่น คอนโดมิเนียมตากอากาศรูปแบบ Coastal Village หรือหมู่บ้านชาวประมง บริเวณเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 1,200 ล้านบาท ราคา 2.7 ล้านบาท พื้นที่ 58-280 ตร.ม. ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 10% ในช่วงพรีเซล 1 สัปดาห์
สมัชชา พรหมศิริ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ตลาดคอนโดมิเนียมหัวหินส่วนใหญ่มีลูกค้าเป็นคนไทย จึงประสบความสำเร็จในการขายอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากที่ดินบริเวณชายหาดหัวหินเริ่มหาได้ยาก และมีราคาแพงขึ้น จึงขยับทำเลมาที่เขาเต่า ซึ่งมีความเงียบสงบ โดยเขาเต่ายังเป็นทำเลใหม่ที่ลูกค้ายังไม่ค่อยรู้จักแตกต่างจากโครงการเก่าที่อยู่ในบริเวณหัวหินที่ลูกค้ารู้จักเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงต้องนำกลยุทธ์ Localize Marketing มาใช้ในการโปรโมทโครงการเฉพาะในพื้นที่หัวหิน เช่น การจัดขบวนคาราวานรถจักรยานตามจุดต่างๆ ทั่วตัวเมืองหัวหิน เพื่อเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายเข้าชมโครงการ, การสร้าง Window Display สะท้อนจุดขายของบ้านนับคลื่น พร้อมจัดงานเปิดตัวในวันที่ 20-23 ต.ค. นี้
ด้านโครงการอื่นๆ ของแสนสิริ สมัชชา กล่าวว่า จะมีการปรับสินค้าบ้านราคาแพงในโครงการนาราสิริ สาทร-วงแหวน และพัฒนาการให้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเล็กลงเหลือประมาณ 100 ตร.ม. ซึ่งจะทำให้ราคาขายลดลงจากเดิม 30 ล้านบาทเป็น 20 ล้านบาท เพื่อให้เหมาะกับกำลังซื้อในขณะนี้ อีกทั้งยังจะเร่งปรับการทำตลาด เพื่อสร้างยอดขายของโครงการในทำเลฝั่งธนบุรี หลังจากพบว่าลูกค้ายังไม่คุ้นเคย เนื่องจากเป็นผู้เล่นรายใหม่ในทำเล
|
|
|
|
|