|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เศรษฐกิจทรุด ส่งผลดีสู่ตลาดอีเว้นต์มาร์เก็ตติ้ง คาดสิ้นปีโตถึง 10 % “อินเด็กซ์ อีเว้นท์” เป็นปลื้ม ปีนี้รายได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้กว่า 1,000 ล้านบาท เป็นครั้งแรก เหตุไตรมาส2 และ 3 ลูกค้าหันมาใช้สื่ออีเว้นต์มากขึ้น บวกปัจจัยเสริมด้านต่างๆเช่น การเลือกตั้ง เชื่อว่าจะมีเม็ดเงินอัดฉีดมายังอีเว้นต์มากกว่าทุกครั้ง โชคดีชั้น 2 ถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งในธุรกิจอีเว้นต์ที่มีรายได้เป็นอันดับที่ 13 ของโลก จาก 50 บริษัท ที่ทางนิตยสารสเปเชี่ยล อีเว้นต์ ได้จัดทำขึ้น
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่สภาพเศรษฐกิจของไทยยังคงทรงตัวอยู่ กลับมองว่าจะทำให้ภาพรวมธุรกิจอีเว้นต์ ปีนี้จะเติบโตขึ้นได้ถึง 10% โดยเฉพาะไตรมาสสองจนถึงไตรมาสสามที่ผ่านมา ลูกค้าเริ่มกลับมาใช้อีเว้นต์เพื่อทำการตลาดมากยิ่งขึ้น แม้ว่าตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จนถึงช่วงไตรมาสหนึ่งของปีนี้ ธุรกิจอีเว้นต์จะซบเซาลงไปบ้าง
ทั้งนี้เชื่อว่าไตรมาสสี่ของปีนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจอีเว้นต์ คาดว่าลูกค้าจะหันมาจัดกิจกรรม หรืออีเว้นต์ อย่างมากมาย เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ขณะเดียวกันยังพบว่าช่วงเวลาดังกล่าว มีปัจจัยบวกมากมาย ที่ผลักดันให้ธุรกิจอีเว้นต์เติบโตได้เป็นอย่างดี เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาต่างๆ เช่น ซีเกมส์ กีฬามหาวิทยาลัยโลก หรือแม้แต่การกำหนดวันเลือกตั้งมาอยู่ในช่วงเวลานี้ ยังถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่มองว่าหลังจากการเมืองนิ่งแล้ว พรรคการเมืองต่างๆจะเริ่มหันมาใช้สื่ออีเว้นต์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในแต่พื้นที่ต่อไป ข
ณะที่ในปัจจุบันกลุ่มการเมืองยังไม่มีการใช้สื่ออีเว้นต์สักราย โดยส่วนใหญ่ยังเป็นการใช้สื่อแมส มีเดียเป็นหลัก กับการใช้เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์พรรค ขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ช่วงเวลาของการเลือกตั้งครั้งนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
สำหรับบริษัทเอง ขณะนี้ยังไม่มีลูกค้าที่เป็นกลุ่มนักการเมืองแต่อย่างไร แต่จะมีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ กับลูกค้าหลักในเครือพลัส พร๊อพเพอร์ตี้ ที่มีการใช้เงินสูงเป็นอันดับที่ 3 รองจากกลุ่มรถยนต์ และภาครัฐ ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเติบโตขึ้น 35% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ากว่า 587 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปีเชื่อว่าจะมีรายได้กว่า 1,022 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 78% ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของการทำธุรกิจ กับรายได้ที่ขึ้นสู่ 1,000 ล้านบาท ที่ตั้งเป้าทำให้ได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัทฯยังได้รับการจัดอันดับจากทางนิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจอีเว้นต์ ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ที่ชื่อ สเปเชี่ยล อีเว้นท์ จัดให้อินเด็กซ์ อีเว้นท์ มีรายได้ในปีนี้อยู่ในอันดับที่ 13 หรือกว่า 26 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการสำรวจใน 50 บริษัททั่วโลก แต่จากแผนการดำเนินงานในไตรมาสสี่ที่เหลือนี้ คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,022 ล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทฯก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 11 ต่อไป กับรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 29.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายเกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจอีเว้นต์ มองว่าค่อนข้างจะไม่มีความแน่นอน การเติบโตแต่ละปีจะขึ้นๆลงๆ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ควรเป็นดังนั้นในปีหน้าบริษัทฯเตรียมที่จะขยายแผนธุรกิจ จากเดิมที่เป็นผู้จัดทำอีเว้นต์ มาเป็นเจ้าของอีเว้นต์อีกทางหนึ่งด้วย คาดว่าปีหน้าจะมี 3-4 อีเว้นต์ มั่นใจว่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจได้ทางหนึ่ง รวมถึงจะส่งผลให้รายได้ในแต่ละปีมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามปกติที่ 10% ทุกๆปีด้วย
|
|
|
|
|