Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2535
"รีเทล แบงกิง หัวใจสำคัญอยู่ที่เทคโนโลยี"             
 


   
search resources

ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.
วิชิต อมรวิรัตนสกุล
Retail Banking
Electronic Banking
ธนาคารไทยพาณิชย์




แบงก์ไทยพาณิชย์เคยเป็นผู้จุดชนวนความตื่นตัวขึ้นในตลาดการเงินการธนาคารมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ในสมัยที่เป็นเจ้าแรกที่นำเอาเครื่องเอทีเอ็มเข้ามาในเมืองไทย เพราะครั้งนั้นไม่เพียงแต่ทำให้ไทยพาณิชย์สามารถเพิ่มมาร์เกตแชร์ลูกค้าด้านรีเทลล์ แบงกิงถึง 3 เท่าภายใน 2 ปี ยังเป็นการเปิดแนวรบด้านใหม่ คือการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างแบงก์พาณิชย์ด้วยกันเอง เพื่อดึงฐานลูกค้าของตัวเองกลับมา

9 ปีต่อมาไทยพาณิชย์เขย่าตลาดนี้อีกครั้ง ด้วยการเปิดศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศพร้อมประกาศตัวเป็น "ต้นแบบ" แห่งเทคโนโลยีธนาคาร

วิชิต อมรวิรัตนสกุล ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายระบบสารสนเทศธุรกิจและบริการของไทยพาณิชย์ ให้เหตุผลการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในธุรกิจบริการเช่นธนาคารว่า เดิมทีธุรกิจบริการลูกค้ารายใหญ่ (WHOLE SALE BANKING) จะเป็นตัวบริการที่สร้างรายได้ให้กับแบงก์มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับธุรกิจลูกค้ารายย่อย (RETAIL BANKING) แต่ปัจจุบันสัดส่วนตรงนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง

เพราะแนวโน้มก็คือวิถีชีวิตของคนในสังคมจะยอมรับและต้องการความสะดวกในการติดต่อสื่อสารที่สูงยิ่งขึ้น กรณีอย่างบัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเครดิตเป็นสิ่งที่ชี้ชัดได้ดีถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค จากเดิมที่เคยชินกับการใช้บริการแบงก์โดยผ่านพนักงานตามสาขามาใช้ "บริการเงินด่วน" แทน โดยใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองไม่นาน

ดังนั้นบริการตัวใหม่ ๆ อย่างบริการโอนเงินทางอิเลคทรอนิกส์ ณ จุดขาย (ELECTRONIC FUNDS TRANSFER AT POINT OF SALE หรือ EPT/POS) ที่ผู้ถือบัตรสามารถชำระค่าสินค้าบริการด้วยบัตรเอทีเอ็มแก่ร้านค้าที่มีเครื่องโทรธนกิจตั้งอยู่

หรือบริการธนาคารทางโทรศัพท์ (TELE-BANK) ที่เป็นบริการข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจ การเงินการธนาคารออนไลน์ระหว่างลูกค้ากับทางแบงก์โดยผ่านเครื่องโทรศัพท์ หรืออินโฟ-แบงกิง (INFORMATION BANKING) หรือธนาคารข้อมูลที่บริการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างแบงก์องค์กรธุรกิจ รัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินที่สะดวกและรวดเร็ว วิชิตมีความเห็นว่าน่าจะได้รับการตอบสนองที่ดีจากตลาดไม่แพ้กัน

อีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อใดก็ตามที่พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มีผลบังคับใช้ ธุรกิจรายใหญ่ด้านโฮลเซล แบงกิงมีแนวโน้มสูงมากกว่าจะลดการพึ่งเงินกู้จากแบงก์ เพราะผู้ลงทุนจะสามารถออกตราสารใหม่ ๆ เพื่อระดมทุนได้เอง หรือเงินที่เคยถูกนำฝากในปริมาณมาก ๆ ก็จะหันไปสนใจที่จะซื้อตราสาร หรือพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

จึงมีความเป็นไปได้ว่าต่อไปลูกค้าด้านโฮลเซล แบงก์กิงจะลดน้อยและอาจหายไปในที่สุด ดังนั้นรีเทล แบงกิง จึงเป็นตลาดที่ไทยพาณิชย์หันมาให้ความสำคัญอย่างจริงจังเป็นแบงก์แรก !
ตลาดรีเทล แบงกิง เป็นตลาดที่พูดถึงฐานลูกค้ารายย่อยจำนวนมาก และกระจัดกระจายกันอยู่ ปกติจะทำการฝาก/ถอน หรือใช้จ่ายแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินไม่สูงมากมีการกระจายใช้บริการตลอดทั้งเดือน และจะใช้มากที่สุดในช่วงสิ้นเดือน

ระบบบริการที่สามารถรองรับได้ดีกับพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าดังกล่าว จะต้องคำนึงมิติของระยะทางและเวลาเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจุดให้บริการ เวลาให้บริการ บริการตัวใหม่ ๆ ที่จะเพิ่มความหลากหลายและสะดวกสบายสำหรับลูกค้า

"ถ้าไม่มีเทคโนโลยีรีเทลแบงกิงมันก็ทำอะไรไม่ได้มากนักมันไม่ทันการณ์" ในความเห็นของวิชิตแล้วหลักการของระบบบริการรีเทล แบงกิงที่ดีมิใช่ว่าจะสามารถสร้างขึ้นได้โดยง่าย หรือภายในระยะเวลาอันสั้น หากสิ่งสำคัญคือ

หนึ่ง ฮาร์ดแวร์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สนับสนุนทุกด้านจะต้องมีประสิทธิภาพสูง สามารถรับการใช้บริการของลูกค้าจำนวนมาก ๆ ได้ สามารถให้บริการตลอด 24 ชม.

สอง ระบบซอฟท์แวร์ต้องมีความคล่องตัว สามารถอัพเกรดไปสู่บริการใหม่ ๆ ที่ทันต่อความต้องการของตลาดอยู่ตลอดเวลา

สาม ระบบการสื่อสารที่ดี ครอบคลุมหรือข่ายทุกจุดทั่วประเทศ ง่ายต่อการติดตั้งควบคุม หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วทุกจุดได้โดยสะดวกรวดเร็ว

สี่ ระบบ BACK UP ที่สามารถทำงานทำแทนในทุกส่วนที่กล่าวมา

และ ห้า บุคลากร

จากหลักการดังกล่าวมาประจวบกับการที่แบงก์ชาติออกข้อกำหนดมาว่าให้ทุกแบงก์มีศูนย์สำรองคอมพิวเตอร์ เพื่อทำงานทดแทนในยามที่ศูนย์คอมพิวเตอร์หลักของแต่ละแบงก์ขัดข้อง ซึ่งในตอนนั้นไทยพาณิชย์ได้ยืนยันมาตลอดว่ารูปแบบที่ถูกต้องที่สุดของศูนย์สำรองคอมพิวเตอร์ก็คือ ศูนย์สำรองที่ใช้บริการทางธุรกิจของธนาคารควบคู่กันไปด้วย

นั่นคือศูนย์สำรองนี้จะทำงานอิสระแยกจากศูนย์หลักโดยในภาวะที่ไม่มีปัญหาเครื่องขัดข้องใด ๆ ทั้งศูนย์สำรองและศูนย์หลักก็จะแบ่งกันรับผิดชอบดำเนินงานของตัวเองควบคู่กันไป แต่เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาระบบขัดข้องในศูนย์ใดศูนย์หนึ่ง ศูนย์คอมพิวเตอร์ทั้ง 2 แห่งจะเป็น BACK UP ซึ่งกันและกันได้ทันที

และความคิดต่อมาของบอร์ดไทยพาณิชย์ก็คือ ไหน ๆ จะลงทุนสร้างศูนย์สำรองคอมพิวเตอร์ที่แยกออกมาจากหน่วยงานอื่น ๆ ของแบงก์ทั้งทีก็น่าจะทำให้สมบูรณ์ที่สุดเพื่อเป็นพื้นฐานรองรับการขยายตัวของแบงก์ไปด้วยพร้อม ๆ กัน

ด้วยเงินลงทุนจำนวน 1,500 ล้านบาท บนเนื้อที่ 15 ไร่ 1 งาน 30 ตารางวาบนถนนแจ้งวัฒนะ นนทบุรี ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศของไทยพาณิชย์จึงเป็นตัวแทนความคิด ที่ผสมผสานกันในตอนนั้น

ภายในศูนย์ฯ แห่งนี้ประกอบไปด้วยระบบงานย่อยภายใน 6 ศูนย์ด้วยกัน ได้แก่ ศูนย์คอมพิวเตอร์ปฏิบัติการขนาดใหญ่ที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง SUPER COMPUTER รุ่น ES/9000 โมเดล 660 ที่สามารถรับคำสั่งด้วยความเร็ว 88 ล้านคำสั่งต่อวินาที (MIPS)

ศูนย์โทรคมนาคม ทำหน้าที่รับ-ส่งข่าวสารข้อมูลของแบงก์ทั้งในและต่างประเทศโดยการผ่านสัญญาณดาวเทียมระหว่างศูนย์คอมพิวเตอร์ที่แจ้งวัฒนะ กับศูนย์หลักที่สำนักงานใหญ่ชิดลม และผ่านต่อไปยัง 25 สาขาทั่วประเทศโดยสายโทรศัพท์ (LEASED LINE)

การสื่อสารผ่านดาวเทียมนี้หากมีกรณีขัดข้องใด ๆ เกิดขึ้นระบบ BACK UP ที่สำรองไว้ไม่ว่าจะเป็นระบบไมโครเวฟหรือเคเบิลใยแก้วใต้น้ำก็จะทำงานทดแทนกันทันที

ศูนย์คลังข้อมูล ทำหน้าที่จัดเก็บและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดโดยแบ่งออกเป็นตัวระบบ (DATA BASE SYSTEM) และตัวข้อมูล (DATA BANK) ทั้งของลูกค้าและของแบงก์เอง

ศูนย์บริการข้อมูลอิเล็คทรอนิกส์ เป็นศูนย์ควบคุมการบริการข้อมูล และบริการต่าง ๆ เพื่อการบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชม. ใน 7 วัน


ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีด้านการเงิน เป็นศูนย์ฯ การศึกษาวิจัยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาการทางเทคโนโลยีต่อไป

และสุดท้ายศูนย์สำรองคอมพิวเตอร์ โดยหลักแล้วจะทำหน้าที่รองรับระบบงานบริการด้านรีเทล แบงกิง อันได้แก่ระบบบริการขอสินเชื่อ ระบบเงินฝาก ระบบบัตรเครดิต ระบบบริการโอนเงินในประเทศระบบบริการธนาคารทางโทรศัพท์ ระบบบริการเอทีเอ็ม

ส่วนระบบงานบริการด้านโฮลเซล แบงกิง (เช่นระบบสินเชื่อต่างประเทศ ระบบบริการโอนเงินระหว่างประเทศ) และระบบงานภายในของแบงก์เอง (CORPORATE INFORMATION) เช่น ระบบข้อมูลลูกค้า ระบบข้อมูลบุคคล ระบบงานข้อมูลธนาคาร ระบบข้อมูลเพื่อการบริหาร ระบบข้อมูลพนักงานจะเป็นหน้าที่ของศูนย์คอมพิวเตอร์ที่สำนักงานใหญ่ ชิดลม

เมื่อใดก็ตามที่มีปัญหาเกิดขึ้นกับศูนย์ที่แจ้งวัฒนะหรือที่ชิดลม เช่นไฟไหม้ แบงก์จะสามารถใช้ข้อมูล BACK UP ที่สำรองไว้ที่ชิดลม หรือแจ้งวัฒนะทำงานต่อไปได้ทันที

อย่างไรก็ดีเมื่อถามถึงความคุ้มค่าในการลงทุนแล้ววิชิตไม่เห็นด้วยเลยกับการนำวิธีคิดแบบประหยัดต้นทุน (COST SAVING) มาใช้กับกรณีนี้ "ที่ถูกต้องที่สุดก็คือต้องคิดในแง่ที่เป็นกลยุทธ์ คือถ้านำเทคโนโลยีมาใช้แล้วเราจะได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างไร จะสามารถฉีกแนวจากคู่แข่งขันของเราไปได้อย่างไร"

"อย่างเอทีเอ็มที่อีก 2 แบงก์ซึ่งเขาก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากกว่าเราในตอนนั้น เขาไม่ทำเพราะเขาก็คิดแบบนี้ว่าต้นทุนมันตั้งหลายล้าน แต่เราทำเพราะเมื่อเรามีบริการใหม่ ๆในลักษณะนี้เราจะสามารถดึงลูกค้ามาได้ เราได้ส่วนแบ่งการตลาดมา คนอื่นตามไม่ทันเราได้ประโยชน์มหาศาล"

แม้ว่าวิธีคิดนี้จะได้รับการพิสูจน์แล้วโดยประสบการณ์ของไทยพาณิชย์ และมาร์เกตแชร์ของตลาดรีเทล แบงกิงก็เป็นแรงดึงดูดใจที่ดี แต่ก็ยังมีแบงก์จำนวนน้อยรายที่ยินดีลงทุนระยะยาวในลักษณะนี้ เพราะความเสี่ยงในระยะเริ่มต้น การสร้างความยอมรับให้เกิดแก่ลูกค้า หรือที่ร้ายก็คือการต้องหนีให้ทันการลอกเลียนแบบของคู่แข่ง เป็นจุดที่ทำให้แบงก์พาณิชย์ต้องคิดแล้วคิดอีก

"เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอกับการเดินรอยตามอย่างเอทีเอ็มที่เราทำกันพอแบงก์อื่นเขาเห็นเราประสบความสำเร็จเขาเอาตามบ้าง" วิชิต เปิดเผย

"เรารู้สึกภูมิใจเหมือนกันว่าเป็นผู้ริเริ่มอะไรใหม่ ๆ แต่ก็พยายามด้วยว่า เมื่อนำเทคโนโลยีมาใช้แล้วทำอย่างไรที่จะให้เจ้าอื่นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งถึงจะตามเราทัน ซึ่งมันเป็นเรื่องยาก"

ยกตัวอย่างระบบเทคเลโฟนแบงกิ้ง เราไปจ้างบริษัทที่อเมริกาทำให้ทำสัญญาสุภาพบุรุษว่าจะไม่ขายให้แบงก์อื่นในเมืองไทย แต่พอทางคุณบัญชาเขาติดต่อไปว่าจะขอใช้ระบบนี้ที่เราไปจ้างเขาทำ บริษัทเขาก็ขายให้ ทางโน้นก็เลยตามเราทันและอาจได้เปรียบเราไม่ต้องลงทุนอะไรได้มาก็หาบริการตัวใหม่เพิ่มเข้าไปไม่ต้องคิดอะไรมาก

ตราบใดที่ยังต้องไปจ้างคนอื่นทำก็คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ทำนองนี้ ดูเหมือนว่าไทยพาณิชย์จะเข้าใจและตระหนักได้ดี ถึงจอนนี้ทางออกก็คือหาทีมงานเพื่อวิจัยและพัฒนาขึ้นมาบางส่วนจากแต่เดิมที่จ้างบริษัทอื่นทำทั้งกระบวนการ

ทิศทางของแบงก์ไทยพาณิชย์ในวันนี้ คือความพยายามสร้างและรักษาภาพความเป็นผู้นำในตลาดด้านรีเทลแบงกิง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ไทยพาณิชย์กำลังเจอกับการรุกกลับของ 2 แบงก์ที่เคยแต่ตั้งรับและเดินรอยตามมาตลอดนั้นคือแบงก์กสิกรและแบงก์กรุงเทพซึ่งมาคราวนี้จับมือกันเงียบ ๆ เพียง 2 รายเป็นตัวตั้งตัวตีในการรวมพูลเอทีเอ็มที่ไทยพาณิชย์บอกได้คำเดียวว่าไม่ร่วมด้วยเด็ดขาด

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us