DCC ประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 25 สตางค์ แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้กำไรตก เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยลดลง แม้ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น ขณะที่การปรับวิธีลงบันชีใหม่ ส่งผลต่อกำไรสะสมลดลงและส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ ลดลง 676 ล้านบาท

นายรุ่งโรจน์ แสงศาสตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดนาสตี้ เซรามิค จำกัด (มหาชน) (DCC) ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 2 งวด เมษายน - มิถุนายน 2550 ของงบการเงินรวมก่อนการสอบทานจากผู้สอบบัญชีฯในอัตราหุ้นละ 0.25 บาทจากจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 408.0 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินรวมในการจ่ายเงินปันผล ระหว่างกาลครั้งนี้ทั้งสิ้น 102 ล้านบาทตามรายชื่อผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2550 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวในวันที่ 24 สิงหาคม 2550

ขณะที่บริษัทแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ สิ้นสุด 30 มิถุนายน 50 ว่าบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 148.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 134.08 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิลดลง 10.77%

โดยบริษัทมีรายได้รวม 1,142.8 ล้านบาท ลดลง เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยลดลงจากปีก่อนถึงแม้ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ผลจากบริษัทได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตมาโดยตลอดทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 36.3 % เป็น 39.5 % และในงวดครึ่งปีแรกมีการทะยอยใช้คืนเงินกู้ยืมระยะสั้นลดลงกว่า 400 ล้านบาท สามารถประหยัดดอกเบี้ยจ่ายลงได้ ทำให้กำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของบริษัทและบริษัทในเครือฯ 148.5 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน

จากการที่บริษัทฯและบริษัทย่อย ได้เปลี่ยนนโยบายบัญชีการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการ จากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุนเดิม (Historical Cost) ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2550 เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดใหม่ของมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 44 โดยบริษัทและบริษัทย่อยได้ปรับปรุงย้อนหลังงบการเงินที่แสดงเปรียบเทียบด้วย

ทั้งนี้ เงินลงทุนในบริษัทย่อยที่แสดงอยู่ใน งบการเงินเฉพาะบริษัทฯนั้น บันทึกโดยใช้วิธีราคาทุน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวทำให้กำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯไม่เท่ากับกำไรสุทธิในงบการเงินรวม

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานการทำธุรกิจของบริษัทฯและบริษัทย่อยแต่อย่างใดส่วนผลกระทบต่อรายการอื่นในงบการเงินเฉพาะกิจการ นอกจากผลการดำเนินการคือ มูลค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อย กำไรสะสมลดลงและส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ ลดลง 676 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ DCC ยังแจ้งอีกว่าบอร์ดมีมติอนุมัติปรับปรุงขอบเขตุการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยคณะกรรมการตรวจสอบยังคงเป็นชุดเดิม ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2550 เป็นต้นไป