|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ปีนี้ หรือปีหน้า เศรษฐกิจของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร" คำถามยอดฮิตในแวดวงการตลาด ที่ผู้ตอบคำถามส่วนใหญ่่ก็ยังมึนงง ไม่กล้าฟันธงว่า หลังการเลือกตั้งในปลายเดือนธันวาคมนี้แล้ว เศรษฐกิจของประเทศจะเดินไปทางไหน ธุรกิจของตนจะรุกหรือต้องถอยยังตัดสินใจไม่ได้
แต่สำหรับบริษัทโฆษณาจากสหรัฐอเมริกาที่มีประสบการณ์ผ่านรูปแบบเศรษฐกิจหลากหลายจากทั่วโลกมากว่าศตวรรษ ในชื่อ แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป กลับมั่นใจประกาศทุ่มงบประมาณ 180 ล้านบาท ย้ายสำนักงานศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากประเทศที่ได้ชื่อว่าเจริญสูงสุดในย่านนี้อย่างสิงคโปร์ มาตั้งตระหง่านอยู่ในกรุงเทพมหานคร เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา
มาร์ค อินโกรอิลล์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แมคแคนฯ จับตาดูสถานการณ์ทางการเมือง และสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่อย่างต่อเนื่อง หลังจากมีแนวคิดจะย้ายสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอยู่ที่ประเทศไทย แม้วันนี้การเมืองไทยยังไม่ชัดเจน และเศรษฐกิจโดยรวมไม่มีการเติบโต แต่เมื่อมองไปในอนาคตก็ยังเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีอยู่
"สิงคโปร์แม้เป็นประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจมั่นคงแข็งแกร่ง แต่ก็เป็นเพียงประเทศเล็ก ๆ ที่มีประชาชนกลุ่มใหญ่เป็นผู้มีรายได้ดี การวางแนวคิดการโฆษณาส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ต้องตอบสนองคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะต่างไปจากแนวคิดสากล จึงไม่สามารถนำไปใช้ในประเทศอื่น ๆ ต่างจากประเทศไทยที่ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ ผู้บริโภคมีความหลากหลาย ต่างกันไปทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ล้วนให้ความสำคัญกับการทำตลาดที่นี่เป็นอย่างมาก เพราะมีฐานกลุ่มเป้าหมายค่อนเข้างใหญ่ ประกอบกับวันนี้โครงสร้างการสื่อสารคมนาคมของประเทศไทยก้าวหน้าไปมาก อาทิ อินเทอร์เนตความเร็วสูงที่มีการลงทุนขยายบรอดแบนด์กันอย่างมาก เพิ่มศักยภาพการสื่อสารไร้สายของไทยให้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ แม้จะมีปัญหาในรายละเอียดอยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพศูนย์กลางของธุรกิจให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี"
ประธานกรรมการบริหาร แมคแคนฯ(ประเทศไทย) กล่าวว่า นอกเหนือจากศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นปัจจัยให้ผู้บริหารของแมคแคนฯ เลือกย้ายสำนักงานศูนย์กลางมาตั้งที่นี่แล้ว ในด้านผลงาน ความสำเร็จของแมคแคนฯ(ประเทศไทย) ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ขณะที่สภาพอุตสาหกรรมโฆษณาในประเทศไทยอยู่ในภาวะทรงตัว มีการเติบโตในระดับ 3-4% ต่อปี แต่แมคแคนฯ(ประเทศไทย) กลับสร้างผลงานเติบโตได้สูงถึง 21% ทำบิลลิ่งในปีที่ผ่านมาได้ 170 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลักดันให้อันดับบริษัทโฆษณาขยับจากปลายทอปเทน ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 และในปีนี้ขณะที่การเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณาลงไปอยู่ที่ระดับ 2.7% แต่การเติบโตของแมคแคนฯ(ประเทศไทย) ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 18.5% แล้ว ซึ่งตนก็คาดว่าบริษัทฯจะสามารถรักษาระดับการเติบโตในระดับนี้ได้จนถึงสิ้นปี
ความสำเร็จของแมคแคนฯ(ประเทศไทย) ในช่วง 2 ปี ที่นำมาซึ่งการเติบโตที่เหนือกว่าเหล่าเอเยนซี่ยอดฝีมือน้อยใหญ่ในประเทศไทย มีผลงานเข้าถึงรอบสุดท้ายในการประกวดออสการ์ของวงการโฆษณา "คานส์อวอร์ด" ปีล่าสุดถึง 16 ชิ้นงาน รวมไปถึงการได้รับการยอมรับจากนานาประเทศก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค มาร์ค อินโกรอิลล์ กล่าวว่า เป็นผลที่มาจากการปรับกลยุทธการสื่อสารการตลาดเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่บริษัทฯ นำเสนอให้กับลูกค้า ได้อย่างเหมาะสม ทั้งการเติบโตของดิจิตอลมีเดีย ที่เริ่มเข้ามามีบทบาททดแทนเทรดดิชั่นแนลมีเดีย ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ ปัจจุบันแมคแคนฯ(ประเทศไทย) มีบุคลากรด้านสื่อดิจิตอลมากถึง 33 คน ทำหน้าที่วางแผนการสื่อสารในสื่อใหม่ ๆ โดยในวันนี้ยังทำหน้าที่บริหารเว็บไซต์ให้กับลูกค้าอยู่ถึง 700 เว็บไซต์ รวมถึงการสื่อสารการตลาดในลักษณะ เอ็กซ์พรีเรียน มาร์เก็ตติ้ง อันเป็นรูปแบบการตลาดที่มุ่งสร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างตัวสินค้ากับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในยุคสมัยนี้ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้น แมคแคนฯ(ประเทศไทย) ยังมีการตั้งบริษัทย่อยที่ให้บริการด้านการตลาดเฉพาะด้านอย่างแมคแคน เฮลท์แคร์ ดูแลลูกค้าในกลุ่มสินค้าอาหาร ยา สุขภาพ โดยเฉพาะ มีนักโภชนาการเข้ามาร่วมอยู่ในทีมคิดแผนงาน เป็นจุดเด่นที่ไม่มีเอเยนซี่ใดเคยมี ทำให้แมคแคนฯ(ประเทศไทย) มีความแข็งแกร่งในกลุ่มสินค้าประเภทนี้ และได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของสินค้าในกลุ่มนี้หลายราย ขณะที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็มีการตั้งบริษัทรีเทล โมเมนตัม ทำหน้าที่ศึกษาพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ณ จุดขาย รวมถึงบริษัทในเครือที่ให้บริการงานด้านสื่อสารการตลาดครบวงจร อาทิ แมคแคน แอริคสัน ให้บริการด้านงานโฆษณา เวเบอร์ แชนด์วิค ให้บริการด้านการประชาสัมพันธ์ ยูนิเวอร์แซล แมคแคน ให้บริการซื้อสื่อโฆษณา แมคแคน ดีไซน์ ให้บริการด้านการออกแบบภาพลักษณ์สำหรับองค์กร และเอ็มอาร์เอ็ม เวิลด์ไวด์ ให้บริการด้านสื่อดิจิตอล ฯลฯ
"เราทำงานโดยมองไปที่ตัวผู้บริโภคเป็นหลัก มองหากลุ่มเป้าหมายของสินค้าแต่ละแบรนด์ว่าเขารับสื่อรูปแบบใด เราต้องหาสื่อนั้นมารองรับ เพื่อให้แบรนด์ของลูกค้าพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายให้ได้ วันนี้พบว่า การวางแผนสื่อส่วนใหญ่เป็นการผสมผสานระหว่างสื่อหลักเก่า ๆ เช่น ทีวี วิทยุ เข้ากับสื่อใหม่ ที่แมคแคนฯ(ประเทศไทย) มีช่องทางอยู่พร้อม"
ปัจจุบัน แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป(ประเทศไทย) บริหารงานสื่อสารการตลาดให้กับลูกค้า 57 ราย มีสัดส่วนเป็นลูกค้าภายในประเทศ 65% และลูกค้าจากต่างประเทศ 35% อาทิ กลุ่มพลังงานเอ็กซอน เนสท์เล่ ยูนิลีเวอร์ จีเอ็ม เชพโรเลต กู๊ดเยียร์ เอเชียซอฟท์ แคทเบอร์รี่ อดัมส์ ฯลฯ
ซึ่งแม้ความสำเร็จในด้านผลการดำเนินงานของแมคแคนฯ(ประเทศไทย) จะชัดเจนเช่นนี้ แต่มาร์ค อินโกรอิลล์ เห็นว่า คงมิใช่เรื่องของบิลลิ่งที่ทำให้แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป เลือกประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะยังมีฟิลิปปินส์ที่มีบิลลิ่งสูงกว่า อีกทั้งสิงคโปร์ก็ยังมีการเติบโตที่น่าพอใจ หากแต่เป็นเรื่องของความน่าเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี ที่เห็นสอดคล้องกันทั้งบริษัทฯ และลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัท ความมั่นคงและความพร้อมของตลาดในประเทศ ประกอบกับทรัพยากร ด้านบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ล้วนเป็นความมั่นใจที่ทำให้แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป ไม่หยุดที่จะเดินหน้าลงทุนในประเทศไทย
|
|
|
|
|