|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จับจังหวะเก็บหุ้นโรงแรมรอรับอานิสงค์โดดเด่นรับไฮซีซั่นปลายปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้า หลังครึ่งปีแรกตัวเลขหด โบรกฯคาด ERAWAN - MINT - CENTEL มีราศี แผนธุรกิจชัดเจนรับซัพพลายลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
โดยปกติแล้วช่วงไตรมาส 4 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1ของอีกปี จะถือได้ว่าเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั้งยุโรปและอเมริกาหลั่งไหลเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก บวกกับมีเทศกาลวันหยุดทั้งที่เป็นคริสต์มาส และปีใหม่ อีก ส่งผลให้โรงแรมสามารถจะทำรายได้และเติบโตได้ดีในช่วงดังกล่าว ทั้งจากส่วนที่เป็นที่พักและส่วนที่เป็นอาหาร
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กรุงศรีอยุธยา มองว่าหุ้นในกลุ่มโรงแรมน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงปลายปีนี้รับการท่องเที่ยวในประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวเนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวหลัก ประกอบกับปัจจัยการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งทั่วไปมีทิศทางที่จะดีขึ้นสามารถเริ่มเรียกความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติกลับคืน และด้วยศักยภาพการท่องเที่ยว-งานบริการของไทยยังครองความโดดเด่นในระดับโลกเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านและในภูมิภาค
"แนวโน้มปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เพราะจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ส่วนครึ่งปีแรกที่ทรงตัวสืบเนื่องจากสถานการณ์ในไตรมาส 1/2550 ที่ผ่านมา สถานการณ์ทางการเมืองดูเหมือนยังไม่สงบดีนัก ส่วนผลประกอบการ 2/2550ก็น่าจะเป็นไตรมาสที่แย่ยที่สุดของปี จึงฉุดปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงทำให้มีตัวเลขต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ก็คาดว่าผลประกอบการของกลุ่มจะเริ่มมีทิศทางที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาส 4/2550 เป็นต้นไป"
ทั้งนี้มองว่าการท่องเที่ยวจะเริ่มกลับขึ้นมาฟื้นตัวที่ดีในปี 2551 เนื่องจากทางภาครัฐเริ่มมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวมากขึ้น และปีนี้ถือเป็นปีที่ย่ำแย่ ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้าได้
สำหรับหุ้นที่แนะนำซื้อลงทุน คงแนะนำหุ้นของ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERAWAN) โดยให้ราคาเหมาะสม 4.91 บาท เนื่องจากคาดว่าช่วงปลายปีธุรกิจโรงแรมจะมีการฟื้นตัวตามภาพรวมอุตสาหกรรมโดยรวม โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2550 ซึ่งเป็นช่วงไฮ ซีซั่น ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ เจดับบลิว แมริออท เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างถูก โดยเฉพาะหากราคาปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 3.90 บาทถือเป็นจังหวะซื้อที่ดีมาก
ทั้งนี้ผลจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2550 ด้วยการโอนสินทรัพย์โรงแรมเจดับบลิว แมริออท (JW Marriott), เพลินจิตเซ็นเตอร์ และ The Erawan Bangkok ให้แก่ ERAWAN ซึ่งแต่เดิมเป็น Holding Company จะช่วยให้ERAWAN มีผลประโยชน์ทางภาษีหรือ Tax shield ไปจนถึงปี 2556
นอกจากนี้ในปี 2551 ERAWANจะเปิดดำเนินการโรงแรมระดับ 2 ดาว ภายใต้แบรนด์ Ibisจำนวน 5 แห่งซึ่งมุ่งกลุ่มตลาดฯ เฉพาะสำหรับฐานนักท่องเที่ยวเน้นไปที่ตลาดกลาง-ล่าง เช่น จีนและอินเดีย ด้วยความชัดเจนของ ERAWAN ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม และเน้นการลงทุนทางตรง ซึ่งจะเป็นต้องอาศัยระยะเวลาในการสร้างผลตอบแทนการลงทุน
อย่างไรก็ดีหากปีหน้าการท่องเที่ยวในไทยมีการฟื้นตัวขึ้นจริง เชื่อว่าจะส่งผลดีแก่ ERAWAN อย่างแน่นอน เพราะธุรกิจโรงแรมมีบริการที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกระดับ ถือเป็นจุดแข็งที่ดีหากเทียบกับผู้ประกอบการเช่นเดียวกันอย่าง บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ธุรกิจโรงแรมให้บริการมุ่งกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับไฮ เอน ส่วน บมจ.โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา(CENTEL) จะรองรับลูกค้าระดับ 4 ดาว
ทั้งนี้แนะนำ ซื้อลงทุนระยะยาวสำหรับ หุ้น MINT เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการหลักด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 57% และธุรกิจรองคือ โรงแรม 34% ของรายได้รวม ที่เหลือคือธุรกิจเพิ่มฐาน MINT มีอัตราการเติบโตโดดเด่นใน 2 ธุรกิจหลัก มีนโยบายเน้นการเติบโตของธุรกิจและการลงทุนที่สูงด้วยแผนการลงทุนที่ชัดเจนไปในระยะกลาง-ยาว 3-5 ปีข้างหน้าเน้นรายได้เติบโตเฉลี่ย 10-12% (กำไรสุทธิเติบโต 15-20%) ในปีนี้ และ 10-12% ต่อปี (กำไรสุทธิเติบโต 20-25% ) ในปี 2551-2553
|
|
|
|
|