สตาร์บัคส์ไม่เป็นเพียงแค่ร้านจำหน่ายกาแฟเท่านั้น แต่ยังเป็นร้านจำหน่ายความบันเทิงด้วย นับตั้งแต่ปี 1999 ที่สตาร์บัคส์เข้าซื้อกิจการ "Hear Music" ในซานฟรานซิสโก จากนั้น "Hear Music" กลายมาเป็นแบรนด์เนมใหม่ของร้านจำหน่ายหรือผลิต เสียงเพลง ภาพยนตร์ และหนังสือที่สนับสนุนแนวคิดเดียวกับสตาร์บัคส์คือ "เคารพสิ่งแวดล้อมและวิถีธรรมชาติแบบดั้งเดิม...ปฏิบัติต่อมวลมนุษยชาติอย่างให้เกียรติและโอกาสที่เท่าเทียมกัน..."

3 ปีก่อน สตาร์บัคส์เปิดตัวรายการวิทยุ "The Hear Music XM" ที่ช่อง 75 ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น "Starbucks XM Cafe" ที่ช่อง 45 กับ XM Radio เครือข่ายวิทยุผ่านดาวเทียมที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา ให้บริการเสียงเพลงตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังเปิดร้าน "Starbucks Hear Music Coffeehouse" เป็นสาขาแรกที่ซานตา โมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย และเปิดตัวมีเดียบาร์ (Media Bar) ที่สาขาในซีแอตเทิล มลรัฐวอชิงตัน และออสติน มลรัฐเทกซัส ให้คอกาแฟเลือกเบิร์นซีดีได้ตามใจชอบ ต่อมาในปี 2005 เปิด "Starbucks Hear Music Coffeehouse" ร้านที่ 2 ที่ซาน แอนโทนิโอ มลรัฐเทกซัส และปีที่แล้วเปิดร้านที่ 3 ที่ไมอามี มลรัฐฟลอริดา ส่วนร้านที่ 4 ล่าสุด อยู่ที่เบลล์วิลล์ มลรัฐวอชิงตัน

เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา สตาร์บัคส์เปิดค่ายเพลงใหม่ ชื่อว่า "The Hear Music Reccord Label" โดยมีศิลปินดัง Paul McCartney อดีตสมาชิก The Beatles ที่โดดข้ามค่าย EMI มาประเดิมเป็นรายแรก ตามมาด้วยศิลปินสาวชาวแคนาดา Joni Mitchell ที่เปิดตัว "Shine" เป็นอัลบัมแรกของเธอ เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา

วันนี้เพลงทุกเพลง ภาพยนตร์ทุกเรื่องใน "Starbucks Hear Music" บรรจุอยู่บน iTune โดยเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา สตาร์บัคส์จับมือกับ Apple ให้บริการดาวน์โหลดเพลง ภาพยนตร์ จาก iTune Music Store บนเครื่อง iPod Touch iPhone และเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งแมคอินทอชและพีซี ที่มีระบบ Wi-Fi อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อ โดยในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ สาขาในนิวยอร์กและซีแอตเทิล จะสามารถให้บริการนี้ได้เป็นแห่งแรก จากนั้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน อีก 350 สาขาในซานฟรานซิสโก เริ่มใช้บริการได้ ต่อมาอีก 500 สาขาในแอลเอ จะสามารถใช้ได้ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ถัดมามีนาคมเป็นคิวของชิคาโก และสาขาที่เหลือทั่วประเทศ คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ภายในสิ้นปีหน้า