|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ตุลาคม 2550
|
|
สำหรับสตาร์บัคส์ ร้านกาแฟร้านนี้ไม่ได้มีแค่พาร์ตเนอร์ที่มี "เลือดสีเขียว" แต่ยังมีลูกค้าบางคนที่เมื่อกรีดเลือดออกมาจะเห็น "เลือดสีเขียว" ทั้งที่เจ้าตัวก็อาจจะไม่รู้เนื้อรู้ตัว
สิริมน ณ นคร หรือ "น้ำ" อดีตบรรณาธิการหนังสือแพรวสุดสัปดาห์ ปัจจุบันเธอก็ยังคงทำงานในแวดวงนิตยสาร เธอเป็นคนหนึ่งที่มีร้านสตาร์บัคส์หลังสวนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันทุกวัน วันละ 2-3 รอบ ตลอด 365 วัน นับตั้งแต่วันแรกที่ร้านหลังสวนเปิด เธอก็กลายเป็นลูกค้าขาประจำ
"ส่วนมากก็มานั่งทำงานที่นี่ (สตาร์บัคส์ หลังสวน) บ่อยมากที่คิดงานได้จากร้านนี้ นัดเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน เวลานัดประชุมก็มาที่นี่ตลอด หรืออย่างตอนที่ยังไม่มีออฟฟิศ มันต้องมีคนมาส่งงานให้พี่ พี่ก็จะให้เขามาส่งให้พี่ที่นี่ น้องที่นี่เขาก็จะเก็บใส่ลิ้นชักไว้ให้ พี่ก็จะรู้ว่ามันอยู่ตรงไหนแล้ว พี่ก็จะมาเอา หรือบางทีก็มา drop ใส่ลิ้นชักไว้ แล้วเดี๋ยวคนรับเอกสารก็จะมาเอา หรือแม้แต่นัดคนสัมภาษณ์ก็ที่นี่"
แม้ว่าน้ำจะมีออฟฟิศของเธอแล้วอยู่ที่อาคารมณียา แต่เธอก็ยังพอใจที่จะใช้สตาร์บัคส์หลังสวนเป็นเสมือนห้องทำงานของเธอ
"ที่นี่เหมือนเป็นห้องรับแขก เหมือนเป็นหน้าเป็นตาของเรา" เธอกล่าว
บ้านของน้ำอยู่ในซอยหลังสวน แต่ทุกครั้งที่เธอขับรถมาที่ร้านสตาร์บัคส์ เธอต้องขับอ้อมเพื่อมาที่ร้าน และถ้าไม่มีที่จอดรถ เธอก็ต้องขับวนไปแล้วอ้อมกลับมาใหม่ แม้จะต้องใช้ความตั้งใจและความพยายามขนาดนั้น เธอก็เต็มใจทำทุกเช้า
"for here tall non-fat signature hot chocolate" เธอเรียกชื่อเครื่องดื่มโปรดของเธอ ซึ่งทุกครั้งแค่เธอเปิดประตูเข้ามา น้องพาร์ตเนอร์ที่ร้านหลังสวนก็เตรียมของชงให้เธอทันที พร้อมกับเคลียร์โต๊ะที่มุมห้อง หรือโต๊ะที่หน้าประตูเอาไว้รอหากไม่มีลูกค้านั่งอยู่ เพราะนั่นเป็นมุมโปรดที่เธอสามารถเสียบปลั๊กทำงานผ่านคอมพิวเตอร์และนั่งดูคนไปพร้อมกันได้
"เราผูกพันกับที่นี่มากกว่าที่อื่น เพราะมันจะมี story อยู่เบื้องหลังมากกว่า และเรารู้สึกเป็นตัวของเราเองมากกว่า จะสบายใจมากกว่า มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว"
น้ำยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญในชีวิตที่เกิดที่ร้านสตาร์บัคส์ เช่น คุยเปิดใจกับแฟนครั้งแรกก็ที่สตาร์บัคส์ ตอนท้องก็มากินช็อกโกแลตทุกวัน หรือลูกก็มาถอดรองเท้านอกบ้านได้ก็ที่สตาร์บัคส์ หลังสวน
"ลูกพี่เป็นคนรักความสะอาดมาก นอกจากที่บ้าน เขาเป็นคนสะอาดมาก อะไรเปื้อนเท้านิดเดียวก็ไม่ได้ เราเองก็อยากให้เขาได้ถอดรองเท้าเดินในที่อื่นบ้าง แต่เขาไม่ยอมเดินที่ไหนโดยไม่ใส่รองเท้า ขนาดสนามหญ้าก็ยังไม่ยอม แต่เขาก็มาถอดรองเท้าเดินเล่น วิ่งเล่นที่นี่ได้เป็นที่แรก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะขนาดท้องพี่ก็มาที่นี่ทุกวัน เขายังเล็กพี่ก็พามาวิ่งเล่น มานั่งกินน้ำแข็งเปล่าที่นี่ทุกวัน"
แม้จะเป็นเรื่องเล็กสำหรับคนอื่น แต่เรื่องนี้ความหมายสำหรับเธอและครอบครัวมาก
"หรืออย่างตอนเขาเข้าโรงเรียนอนุบาลแรกๆ แล้วเขาร้องไห้ เราก็ต้องบอกว่า เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วจะพาไปสตาร์บัคส์ เขาก็โอเค หรืออย่างเวลาขับรถไปหัวหิน แล้วเห็นป้ายโลโกแบบนี้ เขาก็จะร้องให้พาไปสตาร์บัคส์เลย แล้วเราก็ต้องไป"
ลูกของน้ำอาจจะได้รับถ่ายทอด "passion" ในสตาร์บัคส์ผ่านทาง "สายเลือดสีเขียว" จากเธอ
ความสนิทสนมกับน้องพาร์ตเนอร์ที่นี่ ยังทำให้น้ำคอยช่วยประหยัดวัสดุอะไรก็ตามที่เธอสามารถช่วยได้ เช่น ถาดหลุมสำหรับใส่แก้วในรถ ที่เธอจะเก็บมาคืนทางร้านทุกครั้ง คอยสังเกตร้านว่ามีแอร์รั่วตรงไหน แขกคนไหนหงุดหงุดเรื่องอะไร เธอก็จะคอยบอกพาร์ตเนอร์ ราวกับเป็นผู้จัดการเขตเลยทีเดียว และบ่อยครั้งเธอมักจะนำของมาให้พาร์ตเนอร์ในร้าน
ด้วยความรักน้องพาร์ตเนอร์ในร้านนี้ น้ำเชื่อว่า น้องร้านนี้มี service mind มากกว่าทุกร้าน
ข้ามมายังฝั่งธนฯ ณ ร้านสตาร์บัคส์สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า มีชายคนหนึ่งที่คลั่งไคล้สตาร์บัคส์อย่างมากไม่แพ้กัน เขาสะสม merchandise ของสตาร์บัคส์ มากกว่าที่ร้านสาขามีไว้บนตู้โชว์เสียอีก คำนวณคร่าวๆ สินค้าที่มีโลโกสตาร์บัคส์ของเขา อาจมีมูลค่ารวมกันหลายแสนบาท
แต่เทียบไม่ได้กับ "มูลค่าทางใจ" ของกฤษกร จันทรกุล หรือ "ลม"
"ผมชอบช่วงเวลาในสตาร์บัคส์เกือบทุกช่วงเวลา แต่ช่วงที่ประทับใจและรอคอยมากที่สุดก็คือ ช่วงคริสต์มาส เพราะนอกจากร้านสตาร์บัคส์จะตกแต่งอย่างมีสีสัน ผมยังสะสมเก็บเงินมาทั้งปี เพื่อรอซื้อ merchandise ของเขาในช่วงนี้ ทุกปีผมจะให้ความสำคัญมาก" ลมกล่าวด้วยความคลั่งไคล้
ไม่ได้แค่สะสม merchandise ลมยังจัดมุมหนึ่งของห้องให้เหมือนกับตู้โชว์ของร้านสตาร์บัคส์ ทุกเช้า เขาจะชงกาแฟ สตาร์บัคส์ ในแก้วสตาร์บัคส์ นั่งอยู่ ณ มุมสตาร์บัคส์ในห้องของเขา ก่อนจะมาดื่มอีกอย่างน้อยวันละแก้วที่ร้านประจำ
ของตกแต่งและของสะสมโลโกสตาร์บัคส์หลายชิ้น หาซื้อไม่ได้ เพราะทางร้านไม่ขาย แต่ลมก็ใช้วิธีขอและ "ตื๊อ" จากน้อง ไม่ว่าจะเป็นขวดไซรัป ป้ายโปสเตอร์ เสื้อกีฬาสีภายในของสตาร์บัคส์ หรือกระทั่ง green apron ของพาร์ตเนอร์
ลมไม่ได้ทำแค่สะสม merchandise เขายังคลั่งไคล้กับการได้มีส่วนร่วมในอีเวนต์ต่างๆ ที่สตาร์บัคส์จัด เช่น เปิดตัวเครื่องดื่ม หรือเปิดสาขาใหม่ ถึงแม้จะจัดพร้อมกันวันละ 2-3 สาขา เขาจะหยุดงานและหาทางไปให้ได้ทุกสาขาที่มีกิจกรรม
โดยที่พาร์ตเนอร์ของฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กรก็ไม่เคยลืมที่จะอีเมลบอกเขา
ครั้งหนึ่งลมเคยคิดอยากจะทำงานที่ร้านสตาร์บัคส์ แต่พอคิดว่าจะได้อยู่กับสตาร์บัคส์แค่สาขาใดสาขาหนึ่ง เขาก็คิดว่า เขากลับมาเป็น "ลูกค้าเลือดสีเขียวเข้ม" อย่างนี้ ชีวิตเขาก็มีความสุขแล้ว
|
|
|
|
|