Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน1 ตุลาคม 2550
ดัชนีธุรกิจส.ค.เริ่มฟื้นตัว             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Economics




ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 43.4 จากเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 40.7 เนื่องจากการผลิตปรับดีขึ้นตามคำสั่งซื้อในประเทศ และต้นทุนการผลิตปรับลดลง ทำให้ผลประกอบการทางธุรกิจดีขึ้น นอกจากนี้ สถานการณ์การเมืองเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น จากประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้การลงทุนปรับตัวดี

ขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และคาดว่าจะดีขึ้นในระยะต่อไป โดยผู้ประกอบการที่เชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ ได้แก่ สาขาสาธารณูปโภคและสาขาการเงิน ขณะที่ความเชื่อมั่นของสาขาอุตสาหกรรมก่อสร้าง และสาขาบริการ ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจใน 3 เดือนข้างหน้า ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 48.9 ในเดือนกรกฎาคม เป็น 50.2 เนื่องจากการปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกองค์ประกอบ ยกเว้นการจ้างงาน ซึ่งเป็นระดับที่มีความเชื่อมั่นสูงกว่า 50 เป็นเดือนแรกในรอบ 6 เดือน โดยผู้ประกอบการสาขาสาธารณูปโภค ขนส่งและคลังสินค้า การเงินและบริการ มีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ รวมทั้งสาขาอุตสาหกรรมและการค้า ส่วนการจ้างงานและการปรับอัตราค่าจ้าง แม้ว่าผู้ประกอบการยังคงรักษาระดับการจ้างงานไว้ในระดับเดิม แต่จำนวนชั่วโมงทำงานล่วงเวลาต่อวันมีแนวโน้มลดลง โดยสัดส่วนผู้ประกอบการที่ไม่มีการทำงานล่วงเวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก 36.1% ในเดือนกรกฎาคม เป็น 37.6% ในเดือนสิงหาคม ขณะที่ราคาสินค้า ผู้ประกอบการทั้งในสาขาอุตสาหกรรมและการค้าส่วนใหญ่คาดว่าราคาสินค้าในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะยังไม่เปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเห็นว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้า มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย โดยสัดส่วนของผู้ประกอบการที่เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์อยู่ในช่วง 2-4 % เพิ่มขึ้นจาก 64.7 % ในเดือนกรกฎาคม เป็น 65.6% ในเดือนสิงหาคม โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ ได้แก่ ราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิตและอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่า เงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะทรงตัวมากขึ้น เนื่องจากมาตรการผ่อนคลายระเบียบการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินในเดือนกรกฎาคม โดยสัดส่วนผู้ประกอบการที่เห็นว่าค่าเงินบาททรงตัว เพิ่มขึ้นจาก35 %ในเดือนกรกฎาคม เป็น 53.4% ในเดือนสิงหาคมนี้

ขณะที่ภาระดอกเบี้ยและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเริ่มทรงตัว โดยสัดส่วนผู้ประกอบการที่ภาระดอกเบี้ยและอัตราดอกเบี้ยในอีก 3 เดือนข้างหน้า ทรงตัว เพิ่มขึ้นจาก 66.7 % เดือนกรกฎาคม เป็น 71.7 % ในเดือนสิงหาคม และจาก 46.5% เป็น 63 % ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม ส่วนหนึ่งเป็นผลของยอดจำหน่ายและการค้าที่เพิ่มขึ้น แต่ยังกังวลต่อสภาพคล่องในอีก 3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากได้ให้สินเชื่อแก่ลูกค้ามากขึ้น แต่สินเชื่อที่ได้รับจากสถาบันการเงินอยู่ในระดับทรงตัว ส่วนข้อจำกัดในการประกอบธุรกิจที่สำคัญยังคงเป็นปัจจัยเดิม คือ การปรับราคาสินค้าทำได้ยาก และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us