Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน1 ตุลาคม 2550
อีเว้นต์รอเลือกตั้งฟื้นเศรษฐกิจสิ้นปี ซีเอ็มพร้อมรบ-คาด4ปีรายได้ตปท.35%             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์, บมจ.
เสริมคุณ คุณาวงศ์
Organizer




ยักษ์ออร์กาไนซ์ ชี้การเลือกตั้งในปลายปีนี้ จะเป็นกระแสที่ช่วยสร้างความหวังและเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคเศรษฐกิจกลับมาอีกครั้ง รวมถึงธุรกิจรับจัดงาน คาดได้อานิสงส์ จากเหล่านักการตลาด ที่เชื่อว่าเตรียมเทกระเป๋าจัดงานส่งท้ายปีไว้หลายงาน "ซีเอ็ม" คุยโค้งสุดท้ายมีอีเว้นต์ใหญ่จ่อคิว 4 งาน ส่วนแผนแยกแผนกงานออกมา พร้อมสร้างแบรนด์สู่ธุรกิจรับจัดงานที่มีความเฉพาะมากขึ้น ล่าสุดแยกมาแล้ว 5 แบรนด์ มั่นใจลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ เชื่อว่าจะเป็นกระแสต่อภาพรวมของสังคม ในแง่ของความหวังและความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับมาทำให้เศรษฐกิจจะดีขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจรับจัดงาน คาดว่าจะได้รับอานิสงส์เช่นเดียวกัน โดยมองว่าเหล่านักการตลาด จะเริ่มใช้เงินเพื่อการจัดงานอีเว้นต์ในหลายๆอุตสาหกรรม อาทิ เช่น งานมอเตอร์เอ็กซ์โป ของอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นรายได้ไม่มากก็น้อย หลังจากตลาดรถยนต์ไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้ในไตรมาส 4 ธุรกิจอีเว้นต์น่าจะดีขึ้น

สำหรับซีเอ็ม ในไตรมาสสุดท้ายมีอีเว้นต์ใหญ่ที่จะจัดขึ้นทั้งหมด 4งาน ได้แก่ 1.งานไลท์แอนด์ซาวด์ “The Legend of Angkor Wat" ระหว่างเดือนพ.ย. 2550- ม.ค. 2551 ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะมีการแถลงข่าวการจัดงานอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้ ที่ประเทศกัมพูชาด้วย คาดมีรายได้ในการจัดงานครั้งนี้ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.งานของสำนักศิลปาชีพนานาชาติ หรือ สสป. ซึ่งเป็นการจัดงานในลักษณะเป็นแคมเปญต่อเนื่อง ภายใต้งบประมาณการจัดงานอย่างน้อย 20 ล้านบาท 3.บูทต่างๆในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป และ4. อีเว้นต์ ลีมูซีน ไลฟ์สไตล์ วีค

ทั้งนี้งานต่างๆที่เข้ามาทั้งหมด เกิดจากการที่ปีนี้บริษัทฯมีการปรับองค์กรภายใน โดย แยกแผนกต่างๆออกมาเป็นลักษณะบริษัทลูก โดยแต่ละบริษัทฯจะมีการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในแต่ละลักษณะของการรับจัดงานที่มีความหลากหลาย และเพื่อขยายธุรกิจสู่อีเว้นต์ใหม่ๆ

ล่าสุดขณะนี้แยกออกมาแล้ว 5 บริษัท คือ 1. ดรีมบอกซ์ ซีเอ็ม เอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นลักษณะกิจการร่วมค้ากับบริษัท ดรีมบอกซ์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านละครเวที มุ่งเน้นการจัดงานธุรกิจด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ กับการทำละครเวที 3 เรื่องคือ “คู่กรรมเดอะมิวสิคัล” ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่โรงละครกรุงเทพเมโทรโพลิส และอีก 2 เรื่อง ที่กำลังจะจัดขึ้น คือ “แม่นาค เดอะมิวสิคัล” และ “สามเกลอ เดอะมิวสิคัล” รวมถึงการจัดงาน “สดใสอวอร์ดครั้งที่ 11”อีกงานหนึ่งด้วย

2. C-Mex หรือ ซีเอ็ม เอ็กซ์ซิบิชั่น จับตลาดนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ และการแต่งชอปต่างๆ 3.ซีเอ็ม อีเว้นต์ เน้นงานที่มุ่งสร้างแบรนด์ในองค์กรในลักษณะ ปาร์ตี้อีเว้นต์ หรือสเปเชี่ยลโปรเจ็กต์ต่างๆ 4.ซีเอ็ม อาร์ต และ5. ซีเอ็ม พีอาร์ นอกจากนี้ยังมีบริษัท บายอนซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนในประเทศกัมพูชากับการทำธุรกิจอีเว้นต์ในต่างประเทศ อีกส่วนหนึ่ง

นายเสริมคุณ กล่าวต่อว่า ทางบริษัทฯจะเข้าไปก่อตั้งออฟฟิศในประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียนให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยเชื่อว่าจะส่งผลให้ธุรกิจรับจัดงาน โดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าที่มีรีจีนอล ออฟฟิศในไทย สนใจที่จะใช้บริการในการจัดงานต่างๆพร้อมกันทั้งในไทยและในประเทศต่างๆในอาเซียนต่อไป

โดยทางบริษัทฯได้วางสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศที่จะเริ่มรับรู้ได้ในปีหน้าไว้ที่ 10% และในประเทศ 90% และหลังจาก 4 ปีของการก่อตั้งออฟฟิศในประเทศในแถบอาเซียน เชื่อมั่นว่าสัดส่วนรายได้จากกลุ่มต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 35% ส่วนรายได้ในประเทศจะเหลือเพียง 65% ขณะที่ผลประกอบในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะใกล้เคียงกับที่ผ่านมา หรือประมาณ 470 ล้านบาท (ไม่นับรวมรายได้ที่ทับซ้อนกันอยู่)   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us