|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กสิกรไทยรับปล่อยสินเชื่อธุรกิจให้เข้าเป้าหมายที่ 15-16% เป็นเรื่องยาก แต่จะพยายามผลักดันให้ได้เลขสองหลัก แม้ปัจจุบันจะทำได้แค่ 5-6% ก็ยังพอใจเพราะโตกว่าตัวเลขของระบบ ส่วนเอ็นพีแอลสิ้นปีคาดอยู่ที่ 2-2.5% ยังเป็นระดับที่รับได้ ชี้ดอกเบี้ยนโยบายมีสิทธิ์ลงได้อีก 0.25-.050 %
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า การตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อธุรกิจของธนาคารในปีนี้ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงโดยอยู่ที่ 15-16 % หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 70,000 ล้านบาท โดย 8 เดือนที่ผ่านสินเชื่อดังกล่าวมีการขยายตัวเพียง 5-6% หรือเป็นเม็ดเงิน 20,000-30,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีการจะทำให้ถึงเป้าหมายคงเป็นเรื่องที่ยาก แต่ธนาคารได้พยายามผลักดันที่จะให้มีการขยายสินเชื่ออยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าในสิ้นปีตัวเลขการขยายตัวสินเชื่อดังกล่าวน่าจะขยับขึ้นไปอยู่ในตัวเลขสองหลักได้
ทั้งนี้ในส่วนของสินเชื่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) 8 เดือน ก็ทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยมีการขยายตัวอยู่ที่ 8% จากเป้าหมาย 18% และสินเชื่อรายใหญ่ (คอร์เปอร์เรท) ขยายตัวอยู่ที่ 2% จากเป้าหมาย 12% เป็นผลมาจากการชะลอตัวของการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เนื่องจากยังรอความชัดเจนในหลายปัจจัยเพื่อให้เกิดความมั่นใจก่อนจะลงทุน แต่คาดว่าในช่วงปลายปีความมั่นใจจะมีเพิ่มขึ้น จากปัจจัยด้านการเมืองที่มีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีการขยายกำลังการผลิตในช่วงดังกล่าวทันที โดยไม่รอถึงปีหน้า ส่วนรายได้จากดอกเบี้ยของสินเชื่อธุรกิจน่าจะได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 15,000 ล้านบาท แต่รายได้ค่าธรรมเนียมน่าจะได้ตามเป้าหมายที่ 8,000-10,000 ล้านบาท
"แม้ว่าสินเชื่อธุรกิจจะขยายตัวแค่ 5-6% เพราะสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อคอร์เปอร์เรทปล่อยได้ต่ำกว่าเป้าหมายนั้น ก็ยังถือว่าเป็นระดับที่เราพอใจ เนื่องจากสินเชื่อภาคธุรกิจของระบบมีการเติบโตที่ 0% จากปกติแล้วจะต้องโตประมาณ 1 เท่าครึ่งของตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ครึ่งปีหลักสินเชื่อดังกล่าวจะโตมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการขยายกำลังการผลิตจากความมั่นใจในการลงทุนสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่มองว่ายังมีศักยภาพ คือกลุ่มพลังงาน ออโต้ โมบิล และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น "
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีธนาคารจะยังคงมุ่งผลักดันให้มีการขยายสินเชื่อ โดยจะทำกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างความเข้าใจให้กับลูกค้า หาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม รวมถึงการบริหารความเสี่ยงที่จะช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น ส่วนของลูกค้าเอสเอ็มอีก็จะเน้นการให้ความรู้ ให้เพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิต ซึ่งเชื่อว่าการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจครึ่งปีหลังจะดีมากกว่าครึ่งแรกปีแรกจากการเบิกใช้ที่มากขึ้น
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อธุรกิจปัจจุบันอยู่ที่ไม่ถึง 2% โดยตัวเลขทั้งปีน่าจะขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2-2.5% ถือเป็นเรื่องปกติและไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด โดยตัวเลขดังกล่าวอยู่ในการคาดการณ์ของธนาคารอยู่แล้ว ซึ่งการเพิ่มขึ้นนั้นกระจายอยู่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่มีปัญหาเกี่ยวกับขีดความสามารถในการแข่งขัน
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยเมื่อเทียบกับสภาวะตลาดของต่างประเทศนั้นมีโอกาสจะปรับลงตามไปได้ในระดับ 0.25-0.50% ขึ้นอยู่กับภาวะดอกเบี้ยในตลาดขณะนั้น อีกทั้งปัจจัยภาคการบริโภคภายในประเทศยังคงชะลอตัว ซึ่งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ก็มีโอกาสที่จะปรับลดลงได้เช่นเดียวกัน ส่วนเศรษฐกิจปีนี้หากจะขยายตัวที่ 4.5% ก็มีความเป็นไปได้ เนื่องจากภาคการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงขยายตัวได้แม้จะเป็นอัตราที่ชะลอตัวจากช่วงครึ่งปีแรกก็ตาม และกรณีที่มีรัฐมนตรีบางรายลาออกนั้นคงไม่มีผลต่อความเชื่อมั่น เพราะสิ้นปีนี้จะมีการเลือกตั้ง ประกอบกับธนาคารโลกได้เพิ่มอันดับประเทศที่น่าลงทุนจากอันดับที่ 17 มาเป็นที่ 15
|
|
|
|
|