Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 กันยายน 2550
บ้านมือสองเร่งยอดก่อนสิ้นมาตรการ             
 


   
search resources

ทรงศักดิ์ เปรมสุข
Real Estate




โบรกเกอร์บ้านมือสองแห่จัดแคมเปญพิเศษกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี หวังเร่งยอดขาย ศูนย์ข้อมูลธอส.ระบุ สถาบันการเงินเตรียมอัดแคมเปญดอกเบี้ยระบายทรัพย์บ้านมือสองในพอร์ต หวั่นต้องตั้งสำรองทางบัญชีตามมาตรฐาน IAS39 ด้านผู้บริหารเรียลตี้เวิล์ดฯ ชี้ 3 เดือนสุดท้ายยอดขายตลาดรวมสูงถึง1ใน3 ของยอดขายทั้งปี หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 40,000ล้านบาท “บี.ซี.พี.” แจงราคาบ้านปี2550ต่ำสุดแล้ว จับตานักลงทุนไล่ชอปทรัพย์มือสองเก็บลงทุนระยะยาว หลังดอกเบี้ยเงินฝากยังลด

นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดบ้านมือสอง ในช่วง9 เดือนที่ผ่านมา( ม.ค.-ก.ย.2550) ว่า มีการชะลอตัวต่อเนื่องมาโดยตลอด จากผลกระทบภาวการณ์เมือง และเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามหลังจากไตรมาส3 ที่ผ่านมา ตลาดบ้านมือสองเริ่มขยายตัวดีขึ้นจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับผู้บริโภคเริ่มตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงในสิ้นปีนี้ จะสิ้นสุดมาตรการการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนเหลือ0.01%จาก1% และการจดจำนอง0.01% จาก2% นอกจากนี้ยังเป็นปีสุดท้ายที่มาตรการยกเว้นการจ่ายภาษีเงินได้ส่วนบุคคล สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านในช่วงปี2540 ที่เมื่อขายแล้วไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลจะหมดลง ส่วนมาตรการซื้อบ้านใหม่ขายบ้านเก่า จะยังคงใช้อยู่ต่อเนื่องเพราะเป็นมาตรการระยะยาว

“สำหรับปีนี้ โดยภาพรวมของตลาดบ้านมือสอง คาดว่ามูลค่าการซื้อขายจะมีประมาณ 130,000 ล้านบาท หรือประมาณ 60,000 หน่วย โดยราคาทรัพย์ที่ขายอยู่ในตลาดมีราคาเฉลี่ยต่อหน่วย2.2 ล้านบาท ซึ่งในช่วง3 ไตรมาสที่ผ่านมา คาดว่ายอดขายรวมในตลาดต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ 10% แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า3เดือนที่เหลือจากนี้ ยอดขายในตลาดรวมน่าจะปรับตัวสูงขึ้นโดยคาดว่าจะมียอดขายสูงถึง1ใน3ของยอดขายรวมทั้งปี หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงที่ใกล้หมดมาตรการ ประกอบกับการจัดแคมเปญของผู้ประกอบการ และการจัดกิจกรรมใหญ่ในช่วงปลายปีด้วย อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดโดยรวมในปีนี้น่าจะมียอดขายรวมต่ำกว่าเป้าประมาณ 10%หรือประมาณ 120,000 ล้านบาท”

ด้านนายสมศักดิ์ ชุติศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.ซี.พี. เฮ้าส์ซิ่ง กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจน การลงทุนจะเริ่มกลับมา อสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านมือสองที่คาดว่าจะได้รับความสนใจคือ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เพราะให้ผลตอบแทนสูง 6-7% ขณะที่ฝากเงินกับธนาคารได้อัตราดอกเบี้ยเพียง 2-3% เท่านั้น สังเกตได้จากพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าจากงานมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติครั้งที่ 2 ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายกว่า 40ล้านบาท โดยลูกค้าของบริษัทมีการซื้อเงินสดถึง 50% จากที่ปกติสัดส่วนการซื้อเงินสดจะอยู่ที่ 20% ส่วนอีก80% จากเป็นการใช้สินเชื่อสถาบันการเงินในการซื้อ

ทั้งนี้ ในช่วง3 ไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายรวม 600 ล้านบาทลดลงประมาณ 15% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี49 ในขณะที่ยอดขายเฉพาะไตรมาสที่ 3ของบริษัทมีการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยมียอดขายเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปี49ประมาณ 10% อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในช่วงต้นปีนี้ ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อเร็วขึ้นเพื่อให้ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนบ้านมือสองก่อนที่จะสิ้นสุดลงในเดือนธ.ค.นี้ เนื่องจากปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ราคาบ้านลดลงต่ำที่สุดแล้ว และในปี 2551 บ้านสร้างใหม่จะปรับราคาขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้นแน่นอน ดังนั้นการตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้จึงถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุด

นายสัมมา คีตศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า การสิ้นสุดของมาตรการสนันสนุนบ้านมือสอง ประกอบกับเป็นช่วงที่โบรกเกอร์บ้านมือสองเร่งสร้างยอดขาย และสถาบันการเงินต้องเร่งระบายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ออกไปเพื่อให้ลดภาระด้านบัญชี เนื่องจากหากมี NPA ติดมือมากจะทำให้ต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มตามมารฐานบัญชี IAS 39 ดังนั้น ในช่วง 3 เดือนที่เหลือนี้จึงคาดว่าการตัดสินใจซื้อของลูกค้าจะเร็วขึ้น

ส่วนในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยอดขายบ้านมือสองในตลาดรวมลดลงจากช่วงเดียวกันของปี2549ประมาณ20% แต่การจัดกิจกรรมและการหมดมาตรการสนับสนุนบ้านมือสองในช่วงเดือน ธ.ค. นี้จะทำให้ยอดขายสูงขึ้นอย่างมาก โดยในงานมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติครั้งที่3 ที่จะจัดขึ้นนี้คาดว่าจะมียอดการซื้อขายทั้งในงานและต่อเนื่องจากงานอีก1เดือนที่ 1,500 -2,000 ล้านบาท

สำหรับบ้านมือสองเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์รอขายอยู่ในตลาดเป็นจำนวนมากกว่า 3 แสนหน่วย กระจายอยู่ในมือของเจ้าของบ้านทั่วไป สถาบันการเงิน และนักลงทุน-เก็งกำไร ในขณะที่จำนวนทรัพย์มือสอง ฝากขายผ่านเว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีประมาณ 2 แสนรายการ ทั้งในส่วนของทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัย และที่ดินเปล่า โดยสามารถแบ่งเป็นทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 70,000รายการ ภาคกลาง 22,000รายการ ภาคเหนือ 26,000 รายการ ภาคใต้ 18,000 รายการ ภาคอีสาน 37,000รายการ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us