Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2535
"ชีวิตรันทดของอเมริกันที่ลุ่มน้ำฮัดสัน"             
 


   
search resources

Economics
United States




ในช่วงประวัติศาสตร์ของอเมริกายุคสมัยใหม่ มรสุมเศรษฐกิจปี 1992 ดูเหมือนจะรุนแรงเอามาก บริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็นแพนแอม, เจนเนอร์รัลมอเตอร์ ฯลฯ มีข่าวปรากฎตามหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวันว่า LAY OFF (ไล่ออกคน) งานจำนวนมาก

บางธุรกิจต้องยุบตัวเองไปเลยก็มี ยังไม่ต้องพูดถึงธุรกิจห้างร้านขนาดเล็กร้านอาหาร ภัตตาคาร ก็ต้องพลอยรับสภาพย่ำแย่ทางเศรษฐกิจในขณะนี้ไปด้วย

CHEF ซึ่งเป็นหัวหน้ากุ๊กต้องลดตัวเองลงมาล้างจาน ไม่เช่นนั้นตกงานแน่นอน คนที่ทำงานในโรงงานรอบเวลากลางวันบริษัทก็บีบให้มาทำรอบกลางคืนเพื่อให้พนักงานลาออก

ด้วยสภาพเช่นนี้ปรากฏว่าทำเอาสมาชิกในอพาร์ตเมนต์หัวใจวายตายไปสองคนหมอลงความเห็นว่า "หัวใจวาย" แต่สอบถามจากเพื่อนข้างห้องซึ่งเป็นชาวโคลัมเบีย เขาบอกว่าเปลี่ยนงานมาทำรอบดึกสภาพร่างกายปรับตัวไม่ทัน

NO JOB, NO WORK เป็นคำทักทายของบรรดาแรงงานชั้นต่ำของชาวอเมริกาใต้ที่ไหลเข้ามาทำงานในนิวยอร์กคนพวกนี้ส่วนใหญ่มาจากโคลัมเบีย, โดมินิกัน, เม็กซิโก จัดเป็นละตินที่พูดภาษาสเปน คล้าย ๆ แรงงานอีสานบ้านเรา

เมื่อไม่มีงาน, ไม่มีเงิน ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านซักรีดดูเหมือนจะลดความคึกคักลงไปคนที่แวะมาส่วนใหญ่จะถือกระดาษหนึ่งแผ่นเขียนคุณสมบัติ, ความสามารถของตัวเองพร้อมติดไว้ตามร้านซักรีด, ร้านขายของชำ

มีนามบัตรของอเมริกันชนนายหนึ่งชื่อ PAUL'S เดินแจกไปทั่ว JACKSON HEIGHTS เดินประกาศไปตามร้านค้าไปทั่วว่า PLEASE GIVE ME SOME JOB ให้งานทำกับฉันบ้างเถิดทำได้ทุกอย่าง ไม่มีงานอะไรทำไม่ได้ ชีวิตของนาย PAUL'S คนนี้ดูจะสะท้อนชีวิตภาวะเศรษฐกิจอเมริกันยามนี้ได้ดี

สภาพที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้มีงานทำ เพราะต้องอาศัยอาหารมากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าโทรศัพท์ ค่าอะไรอีกมากมายในสังคมทันสมัย ทำให้ชีวิตหยุดไม่ได้เสียแล้ว

ตกงานนั้นหมายถึงชีวิตต้องโดนกระหน่ำด้วยเงื่อนไขเหล่านี้แน่นอน คนในนิวยอร์กยามนี้ดูเหมือนจะดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหางานและเงิน

มีชาวอินเดียซึ่งมาอยู่นิวยอร์ก 15 ปี แล้วจูงภรรยาเดินออกจากบ้านไปติดป้ายโฆษณา เพื่อรับเลี้ยงเด็ก ไม่มีแม้กระทั่งเงินที่จะพิมพ์โฆษณาขายแรงงานของตัวเองเลยเอากระดาษมาเขียนเองแล้วมีหมายเลขโทรศัพท์ฉีกเป็นริ้ว ๆ หากใครต้องการติดต่อกลับมา

สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะสะท้อนการดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตอยู่ มีขนมปังกิน มีไส้กรอกให้ลูกกินไปโรงเรียนได้สะใจมาก ๆ

ตกงาน, ไม่มีงาน, ไม่มีเงิน อาชญากรรมเพิ่มขึ้นแน่นอนยิ่งนิวยอร์กแล้วไม่ต้องพูดถึงติดอันดับโลกอยู่แล้ว ปล้นชิงวิ่งราวท่ามกลางฝูงชนที่วิ่งบนถนนแมฮัตตันเลย เอากับมันซิ !

รถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคลที่จอดอยู่ตามถนน ต้องเขียนป้ายติดไว้ข้างรถเลยว่า NO RADIO ต้องบอกให้โจรพันธุ์นิวยอร์กรู้ว่ารถคันนี้ไม่มีวิทยุ ไม่ต้องมางัด

บางรายยิ่งกว่านั้นเขียนบอกโจรที่จะมางัดแงะเสียสุภาพเลยว่า NO RADIO PLEASE! เอากับมันซิ

คนอเมริกันตอนนี้ดูเหมือนจะพุ่งเป้าไปที่ทีมงานของบุช ที่แก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้ไม่ได้ บ้านตัวเองแท้ ๆ ยังมีคนอดอาหาร, มีคนไร้บ้าน มีขอทาน (HOMELESS) บนรถไฟขบวนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 คน

แต่ในมุมกลับกันข่าวตามทีวีที่ออกมามีเรื่องที่อเมริกาขนอาหารเต็มลำเรือส่งไปช่วยเหลือรัสเซีย

เห็นทีโรมันล่มสลายคราวนี้เป็นแน่! อเมริกันยอมไม่ได้กับการไม่รักษาหน้าตาในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ แต่อย่าให้ดูภายในประเทศเลยภาพการ์ตูนล้อเลียนที่ปรากฎในหนังสือพิมพ์ในนิวยอร์กรอบเช้าของวันที่ 10 ก.พ. 1992

เขียนล้อเลียนว่า "เป็นไงวันนี้ท่านยังสบายดีอยู่หรือ"

เกิดอะไรขึ้นกับอเมริกาหรือในขณะนี้ ? สองสามวันก่อนบุชไปญี่ปุ่นโดนคนญี่ปุ่นด่ากลับมาเสียหมดศักดิ์ศรีเลย หาว่า "คนอเมริกันขี้เกียจ ทำงานน้อย แต่อยากได้เงินมาก" หมดกันศักดิ์ศรีของมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ผู้กรำศึกมาจากทะเลทรายตะวันออกกลาง

เซลส์แมน ขายรถของอเมริกันที่ติดตามบุชไปโดยหวังว่าจะตีตลาดรถอเมริกันในญี่ปุ่น กลับบ้านมือเปล่า ขายไม่ออกสักคัน เอารถไปขายให้เขา แล้วดันไม่เปลี่ยนพวงมาลัยให้เขาด้วย

เฮ่อ! ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี OH MY GOD! GOD SAFE AMERICA!

บุชขายรถไม่ออก กลับจากญี่ปุ่น แถมเสียหน้าเสียมวยมาอีก กลับมาบ้านบริษัทใหญ่ ๆ ในอเมริกา รวมตัวกันเลยสนับสนุนให้คนอเมริกันหันมาใช้แต่รถของอเมริกาโดยลดภาษีให้, ให้สินเชื่อระยะยาว, คนงานของบริษัทคนไหนต้องการซื้อรถอเมริกาบริษัทจะให้กู้เงินระยะยาว

คราวนี้ก็หันมาปลุกเลือดชาตินิยมเข้าแล้วเพราะหมดทุกวิถีทางแล้วก็จะแก้ปัญหา

เดินฝ่าหนาวผ่านถนนผ่านแมนฮัตตัน แหงนหน้าขึ้นมองตึกสูง ๆ หวังจะชื่นชมกับสถาปัตยกรรมของยุโรปพันธ์อเมริกา

มองแล้วมองอีกด้วยความไม่แน่ใจนัก นึกว่าเดินอยู่ในโตเกียวหรือไม่ก็กรุงโซลเพราะแทนที่จะเขียนภาษาอังกฤษกำกับชื่อตึก แต่กลายเป็นว่าตัวหนังสือญี่ปุ่นตัวอักษรเกาหลีถูกเขียนกำกับไว้แทน สำเนียงพูดภาษาอังกฤษย่านแมนฮัตตันก็เริ่มเปลี่ยนสำเนียงแปร่ง ๆ

อาโน กูดมอนิ่ง, ฮาวอายูโด, เท้งคิวเด

เดินขึ้นรถไฟใต้ดินจะกลับมาบ้านฝั่งควีนส์ นึกภูมิใจอยู่ตลอด "ไม่มีขอทานในนิวยอร์กที่เป็นคนเอเชียเเลยครับ"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us