ปีนี้ธุรกิจวิทยุมีแต่ทรุด ทุกค่ายรายได้หดกันเป็นแถว เวอร์จิ้น เผย รายได้เหลือเพียง 475ล้านบาท จาก 520 ล้านบาทในปีก่อน ชี้ภาวะเศรษฐกิจไม่นิ่งแบบนี้ ต้องทำรีเสริ์ชเพื่อทำตลาดให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ชัดเจนมากขึ้น ของแจกไม่จำเป็นต้องราคาแพง เพียงอยู่ในกระแสความต้องการก็เพียงพอ

นายเชษฐ มังคโลดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวอร์จิ้น บีอีซี เทโร เรดิโอ ประเทศไทย จำกัด ดำเนินธุรกิจคลื่นวิทยุ 3คลื่น ได้แก่ 95.5 เวอร์จิ้นฮิต, 103 เวอร์จิ้น ซอฟท์ และ105.5อีซี่ เอฟเอ็ม เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธุรกิจวิทยุโดยรวมตกลงไปแล้วประมาณ 6% ตามที่ทางเอซีนีลเส็นคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้เนื่องจากสภาพการเมืองและเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง ทำให้หลายๆบริษัทชะลอแผนในการใช้จ่ายด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อวิทยุ อย่างไรก็ตามจากแนวโน้มในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่คาดว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น รวมถึงเป็นช่วงไฮซีซันของการใช้สื่อ คาดว่าจะทำให้สถานการณ์ของธุรกิจวิทยุดีขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้บริษัทฯได้มีการควบคุมค่าใช้จ่ายและทำการวิจัยเพื่อใช้สำหรับการทำตลาดค่อนข้างมากในปีนี้ ภายใต้งบประมาณทางการตลาดที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีแนวโน้มที่จะหันไปฟังคลื่นที่นำเสนอข่าวมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการทำตลาดจึงต้องตอบโจทย์ผู้ฟังต้องชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน โดยมองว่าการจัดแคมเปญแต่ละครั้ง ของรางวัลไม่เป็นต้องมีมูลค่าสูงก็ได้ แต่ควรเป็นสิ่งที่อยู่ในกระแสความต้องการ ณ เวลานั้น

ล่าสุดสำหรับคลื่น 103เวอร์จิ้น ซอฟท์ ที่มีฐานผู้ฟังตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ได้มีการจัดแคมเปญใหญ่ขึ้น คือ “เวอร์จิ้น ซอฟท์ 103 แจกสนั่น วันละคัน” โดยเป็นการแจกมอเตอร์ไซด์ ยามาฮ่า ฟีโน่ เอส ทั้งหมด 20 คัน รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 1 ล้านบาท ตลอดเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งทางบริษัทฯมองว่าการนำเอามอเตอร์ไซด์ ฟีโน่ ซึ่งอยู่ในกระแสความต้องการของผู้ฟังขณะนี้ มาเป็นรางวัล จะเป็นการทำตลาดที่ดี ที่น่าจะช่วยกระตุ้นรายได้ปีนี้เพิ่มมากขึ้น จากที่คาดการณ์ไว้ว่าปีนี้ บริษัทฯน่าจะมีรายได้เพียง 475ล้านบาท จากเดิมในปีที่ผ่านมา สามารถทำได้ถึง 520 ล้านบาท

“จากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังไม่นิ่ง มองว่าทั้งตลาดของธุรกิจวิทยุ ทุกรายต่างมีรายได้และกำไรที่ลดลงทั้งสิ้น ซึ่งแนวทางการทำการตลาดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ มองว่าควรที่จะพยายามเข้าถึงกลุ่มผู้ฟังให้ได้มากที่สุด การตลาดต้องมีความชัดเจน เน้นของรางวัลที่อยู่ในกระแสความต้องการและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย”

นายเชษฐ กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวยังมองว่าสถานการณ์แบบนี้ ยังไม่ควรที่จะมีการลงทุนใดๆ ดังนั้นจึงยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มคลื่นแต่อย่างไรเนื่องจากมองว่ามีความเสี่ยงสูง ต้องรอให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นเสียก่อน ขณะที่สิ้นปีนี้สำหรับคลื่นเวอร์จิ้น ฮิต กำลังจะหมดสัญญาสัมปทาน ทางบริษัทฯได้เตรียมยื่นเรื่องขอต่อสัญญาไว้แล้ว โดยมองว่าค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจะไม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างไร ภายใต้เศรษฐกิจทรงตัวแบบนี้ ส่วนอีกสองคลื่น ยังเหลือเวลาสัมปทานไปจนถึงสิ้นปีหน้า