คปภ.สรุปรายชื่อผู้เสียชีวิตเฉพาะคนไทยวัน ทูโก รับค่าสินไหมจากบริษัทเอกชนทั้งสิ้น 24 ราย ทายาทรับเงินประกันรวม 20 ล้านบาท ด้านเคทีซี-ทิพยฯ เตรียมจ่ายสินไหมลูกค้าที่ถือบัตรเคทีซี 2 รายวงเงินคุ้มครอง 21 ล้านบาท พร้อมตั้งกองทุนคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเก็บค่าต๋งจากบริษัทเอกชนเพื่อคุ้มครองกรมธรรม์หากบริษัทมีปัญหาด้านการเงิน ส่วนความคืบหน้าอุบัติเหตุวันทูโกบันทึกนักบินโต้ตอบหอ และพยานทางวิทยาศาตร์ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รอผลกล่องดำซึ่งจะสรุป 27 ก.ย. ส่งกลับไทย

นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คปภ.ได้ติดตามการจ่ายสินไหมชดเชยกรณีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินวันทูโก ไถลออกนอกรันเวย์ ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่คปภ.ที่จังหวัดภูเก็ตและสมาคมประกันชีวิตไทยได้รวมรวมรายชื่อผู้เสียชีวิตส่งให้กับทางคปภ.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ผู้โดยสารที่เสียชีวิตคนไทยที่ทำประกันชีวิตกับบริษัทเอกชนไทยมีทั้งสิ้นจำนวน 24 ราย วงเงินประกันที่มีการจ่ายให้กับทายาทแล้วทั้งสิ้นจำนวน 20,155,640.81 บาท โดยมีบริษัทประกันชีวิตที่ต้องชำระทุนชีวิตและทุนอุบัติเหตุทั้งสิ้น 11 บริษัท โดยมีรายละเอียดดังนี้ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด มีผู้รับความคุ้มครอง 1 รายคือ นางวรรณพร บุญสูง บริษัท มิลเลียไลฟ์อินชัวรันส์ จำกัด มีผู้รับความคุ้มครอง 1 รายคือ นายอภิชัย เรือทอง

บริษัท เอ.ไอ.เอ.มีผู้รับความคุ้มครอง 8 ราย ได้แก่ นางสาวพึ่งบุญ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายอภิชัย พรหมพิทักษ์กุล นางมัลลิกา โกยสิน ซึ่งมีประกันภัยกลุ่มด้วย นางสาวพัชรินทร์ สัตยาพงษ์ภรณ์ นางสมลักษณ์ อัญสกุล นายศิริกร อัญสกุล นางสาวสุภลักษณ์ เชื่ออิว และนายขจรศักดิ์ บุญมีมีไชย

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด มีผู้รับความคุ้มครอง จำนวน 5 รายคือ นายสินชัย ฉายอรุณ นายอภิชัย พรหมพิทักษ์กุล นางสาววันทนา มีแสง นายมนตรี กมลรัตนาชัย และนายราช รัตนพล บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด จำนวน 1 ราย คือ นางศิริพุทธ จิตต์จำนงค์ บริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต จำกัด จำนวน 2 รายคือ นายธีรยุทธ มนูรักษ์ชินากร นางสาวจิรานุช สุวรรณรัตน์

บมจ.ไทยพาณิชย์ นิวยอร์คไลฟ์ ประกันชีวิต จำนวน 2 ราย โดยนางสาวจิรนุช สุวรรณรัตน์ ถือกรมธรรม์คุ้มครองสินเชื่อ และนายจักรพล ชัยปิตินานนท์ บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด 1 ราย คือ นายสมโภชน์ สังขพงษ์ บริษัท แมกซ์ประกันชีวิต จำกัด จำนวน 1 ราย คือ นายเจษฎา เดชากุล บริษัท ไทยคาร์ดิฟประกันชีวิต จำกัด 1 ราย คือ นายราช รัตนพล และบมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต 1 รายคือ นายธีรยุทธ มนูรักษ์ชินากร

“เจ้าหน้าที่คปภ.ที่ภูเก็ตมีบทบาทในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในครั้งนี้สูงมาก โดยได้มีการติดตามรวบรวมรายชื่อและประสานงานกับบริษัทประกันชีวิต โดยเบื้องต้นได้มีการจ่ายค่าปลงศพรายละ 1 แสนบาทแล้วและบริษัท เพนรอยด์ อันเดอร์ไรท์เตอร์ จ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้นรายละ 50,000 บาทและจะมีการติดตามดูแลต่อไป และจะจ่ายสินไหมชดเชยให้แก่ผู้เสียชีวิตรายละ 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณรายละ 5 ล้านบาท” นายศุภรัตน์กล่าว

KTC-TIP จ่ายชดเชยลูกค้า 21 ล้านบาท

ด้านนายธวัชชัย ธิติศักดิ์สกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTC กล่าวว่า เคทีซีได้ประสานงานกับทางบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)TIP ในส่วนของค่าสินไหมทดแทน จากบริการคุ้มครองอุบัติเหตุการเดินทางสำหรับสมาชิกทั้ง 3 ราย ซึ่งในขณะนี้การตรวจสอบทุกอย่างแล้วเสร็จ และได้มีการกำหนดวันเวลาเพื่อมอบค่าสินไหมแก่ครอบครัวของสมาชิกบัตรในเบื้องต้นจำนวน 2 ราย ดังนี้1. ครอบครัวนายชวภณ บุญมีมีไชย สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า แพลทินัม วงเงินคุ้มครอง 20 ล้านบาท ในวันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน 2550 เวลา 15.00 น. ณ บ้านเลขที่ 3 หมู่ 7 ถนนเจ้าฟ้าฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

2. ครอบครัวนายธีรยุทธ์ มนูรักษ์ชินากร สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า คลาสสิค วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท ในวันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน 2550 เวลา 16.30 น. ณ บ้านเลขที่ 133/10 ซอย 131 ถนนปฎิพัทธิ์ ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

ตั้งกองทุนคุ้มครองผู้เอาประกันภัย

นายศุภรัตน์กล่าวว่า ทางคปภ.ได้เตรียมเสนอกฎหมายจัดตั้งกองทุนคุ้มครองผู้เอาประกันภัย(Policy Holder Protection Fund) โดยจะคุ้มครองทั้งผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยและประกันชีวิต โดยหลักการบริษัทประกันภัยและประกันวินาศภัยจะจ่ายเงินเข้าสู่กองทุนบนพื้นฐานของเบี้ยประกันภัยที่เรียกเก็บเพื่อสะสมเป็นเงินกองทุน ซึ่งหากบริษัทประกันมีปัญหาด้านการเงินถึงขั้นล้มละลายก็จะนำเงินส่วนนี้มาชำระให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์

“กองทุนที่ตั้งขึ้นนี้จะมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(FIDF) ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่คุ้มครองลูกค้าของธนาคารที่มีเงินฝาก แต่รูปแบบการดำเนินการจะมีลักษณะที่แตกต่างกันซึ่งหากบริษัทประกันภัยเจ๊งลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ทุกรายก็จะได้รับความคุ้มครองตามสัญญาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์” นายศุภรัตน์กล่าว

รอผลกล่องดำก่อนฟันธงสาเหตุ

นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุอากาศยานในราชอาณาจักรไทย กรณีเกิดอุบัติเหตุ เครื่องบินของสายการบินวันทูโกไถลออกนอกรันเวย์ที่ สนามบินภูเก็ตเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2550 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รายงานผลการเก็บรวบรวมรายละเอียดได้มากพอสมควร เช่น ประจักษ์พยานทางวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ สภาพเครื่องบิน ข้อมูลการโต้ตอบระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน ข้อมูลสภาพอากาศ ซึ่งสภาพเครื่องบินและนักบินไม่มีสิ่งใดผิดปกติ โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่าขณะเกิดเหตุเครื่องยนต์ทั้ง 2 เครื่องยังทำงานอยู่ เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นที่เก็บรวบรวมได้ในขณะนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยขณะนี้รอข้อมูลจากกล่องดำที่ส่งไปถอดรหัส ที่กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แจ้งว่าการอ่านข้อมูลในกล่องดำเป็นไปด้วยดี และคาดว่าจะถอนข้อมูลทั้งหมดเสร็จในวันที่ 27 ก.ย. 2550 โดยคณะกรรมการจะนัดประชุมอีกครั้งในต้นเดือนต.ค.นี้เพื่อนำข้อมูลจากกล่องดำมาวิเคราะห์ประกอบกับ ข้อมูลที่มีในขณะนี้ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน แต่หากข้อมูลที่ได้จากกล่องดำไม่สอดคล้องหรือเป็นไปคนละทิศทางกับข้อมูลเบื้องต้นที่มีในขณะนี้ก็อาจต้องใช้เวลาเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยวิเคราะห์รวมทั้งอาจต้องเก็บข้อมูลที่เกิดเหตุเพิ่มเติมอีก

“หากข้อมูลกล่องดำสอดคล้องกับข้อมูลเบื้องต้น คณะกรรมการคาดว่าจะใช้เวลาวิเคราะห์สาเหตุไม่นานจากนั้นจะเร่งรายงานผลให้รมว.คมนาคมรับทราบและแถลงข่าวต่อไป แต่ถ้าไม่สอดคล้องคงต้องใช้เวลาวิเคราะห์อีกสักระยะ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกสาเหตุการเกิดเหตุได้ แม้ว่าข้อมูลที่มีจะค่อนข้างสอดคล้องกัน และน่าจะมีมากเพียงพอ เพราะจะเป็นการเดา เนื่องจากข้อมูลในกล่องดำมีความสำคัญมาก ”

หอบังคับการเตือนมี Wind shear

นายชัยสวัสดิ์ กล่าวว่า การเก็บข้อมูล พยานหลักฐาน มีการสัมภาษณ์นักบินของเครื่องบินลำที่ทำการลงที่สนามบินภูเก็ตก่อนหน้าเครื่องบินลำเกิดเหตุ ซึ่ง นักบินดังกล่าวได้แจ้งมายังหอบังคับการบินให้เตือนนักบินลำต่อไปที่จะทำการลงว่า มีกระแสลมแรกและเกิด Wind shear หรือลมเปลี่ยนทิศทางกะทันหันในระยะสั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินได้ทบทวนคำเตือนดังกล่าวให้นักบินลำที่เกิดเหตุแล้ว อย่างไรก็ตามคณะกรรมการจะไม่ชี้ว่าใครผิดใครถูก แต่จะสรุปหาสาเหตุ เพื่อหาทางแก้ไขต่อไป ส่วนการลงโทษหรือการเอาผิดเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านนายวุฒิชัย สิงหมณี ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานความปลอดภัย ในการเดินอากาศ กรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า คำแจ้งเตือนเรื่อง Wind shear ไม่ได้หมายถึงห้ามนักบินนำเครื่องลงเพราะลม Wind shear ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา และเกิดขึ้นแล้วก็จะหายไปเร็ว แต่เมื่อนักบินได้รับแจ้งก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ทั้งนี้ในเครื่องบินก็จะมีอุปกรณ์ที่แจ้งถึงการเกิด Wind shear ด้วยเช่นกัน โดยจะส่งสัญญาณแจ้งให้นักบินทราบว่ามี Wind shear เกิดขึ้นเมื่อมีแรงลมมาปะทะมากกว่า 20 นอตขึ้นไป ซึ่งข้อสังเกตนี้ จะต้องรอข้อมูลจากกล่องดำ เพราะจะมีบันทึกการสนทนาระหว่างนักบิน 2 คน (Cockpit Voice Recorder) หรือ CVR ในลำที่เกิดเหตุ ซึ่งจะทราบถึงเหตุผลในการตัดสินใจนำเครื่องลง โดยในกล่องดำจะถอดข้อมูลออกมากว่า 30 Item และเชื่อว่าสาเหตุครั้งนี้ไม่น่าจะซับซ้อนมากเมื่อเทียบกับอุบัติเหตุ ที่สนามบินสุราษฎร์ธานี