Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์24 กันยายน 2550
แนวโน้มตลาดนาฬิการะดับล่าง เน้นล้ำเทรนด์แฟชั่นอันดับแรก             
 


   
search resources

Watches




ธุรกิจการจำหน่ายนาฬิกาของโลกเป็นหนึ่งในธุรกิจไม่กี่อย่างที่ไปได้ดี ไม่ค่อยมีเรื่องเซอร์ไพร์ส หรือเรื่องตื่นเต้นแบบน่าตกใจออกมาให้เห็นบ่อยๆ เหมือนกับธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาฬิกาหรูที่จำหน่ายกับตลาดระดับบนยิ่งแทบไม่มีข่าวให้เขียนถึงมากนัก แต่เมื่อสำรวจตลาดนาฬิการะดับล่างที่เป็นแนวแฟชั่นกลับมีประเด็นทางการตลาดมากมายให้วิเคราะห์และวิพากษ์วิจารณ์

นาฬิกาแนวแฟชั่นเป็นสินค้ากลุ่มที่ร้านค้าปลีกให้ความสนใจเพราะเป็นตัวดึงดูดความสนใจของลูกค้าเพราะมักออกแนวเตะตา ราคาถูกใจบรรดาผู้ที่ผ่านไปผ่านมาได้อย่างได้ผล จึงเป็นตัวเปิดตลาดลูกค้าให้การคึกคักในร้านเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิผลทางหนึ่ง

ตลาดนาฬิกาสำหรับลูกค้าที่มีรายได้ระดับกลางหรือนาฬิกาที่มีราคาต่อเรือนประมาณ 2,000-4,000 ดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะหดหายลงไปจากตลาดโลกมากขึ้นตามลำดับ เนื่องจากนาฬิการาคาถูกเริ่มมีสัดส่วนครองตลาดมากขึ้นทดแทน เพราะถูกใช้เป็นสินค้ากลุ่มที่ดึงดูดให้ลูกค้ายังแวะเวียนมาดูบ่อยครั้ง เมื่อคิดว่าแนวโน้มของวงการแฟชั่นเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเป็นแนวอื่น

หากจะมองภาพรวมของตลาดนาฬิกาโลกต้องถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ด้วยการที่ดีไซเนอร์สามารถออกแบบแนวแฟชั่นใหม่ๆ มารองรับความต้องการนาฬิกาแบบแปลกแหวกแนวใหม่ๆของตลาดได้ดี โดยเฉลี่ยประมาณ 4 ครั้งต่อปี ทำให้ยอดการจำหน่ายนาฬิกาแนวแฟชั่นเพิ่มขึ้นจากยอดการจำหน่ายที่เป็นประวัติของยอดขายก่อนหน้านั้นทุกๆ ปี

ที่จริงการดำเนินธุรกิจที่เน้นการปรับเทรนด์อยู่ตลาดเวลาเป็นการดำเนินธุรกิจที่เสี่ยงมาก เพราะกว่าจะมั่นใจว่าการตอบรับจากตลาดจะออกมาในทางบวกต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง และอาศัยกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดผ่านกลุ่มอิทธิพลต่อกลุ่มลูกค้าที่เหลือที่อยู่ในแวดวงเดียวกัน และจริงๆ แล้วไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บอกว่าทิศทางข้างหน้าจะนำไปสู่ความสำเร็จหรือล้มเหลว

ปัจจัยทางบวกหลักๆ ที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจนาฬิกา ได้แก่ ประการแรก ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง การดำเนินธุรกิจของธุรกิจนาฬิกาโลกไม่ใช่ธุรกิจที่ดำเนินงานแบบโดดเดี่ยว แต่สามารถผลักดันนาฬิกาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือไม่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย อย่างเช่น การนำนาฬิกาไปเป็นของชำร่วยหรือของที่ระลึกในโอกาสพิเศษต่างๆ หากสำรวจให้ดีจะพบว่าสินค้ากลุ่มนาฬิกาเข้าไปแทรกอยู่ในตลาดสินค้าหลายอย่าง ทำให้การเติบโตของยอดขายเป็นเป็นด้วยดี

ประการที่สอง ได้มีการเปิดตลาดใหม่สำหรับนาฬิกาแนวแฟชั่นใน 2 ตลาดในยุโรป คือ ตลาดในฝรั่งเศส และในอิตาลี ทำให้การรองรับการเติบโตมีมากขึ้น เพราะตลาดทั้งสองประเทศนี้เป็นตลาดของสินค้าแนวแฟชั่นอยู่แล้ว

ประการที่สาม แนวทางการดำเนินงานของกิจการขนาดเล็กแลขนาดใหญ่แตกต่างกัน กล่าวคือ กิจการนาฬิกาขนาดเล็กจะมุ่งเน้นนาฬิกาแฟชั่นเพียง 1-2 แบบ หรือบางโมเดลโดยเฉพาะ แต่ในกิจการขนาดใหญ่ต้องการสร้างยอดการจำหน่ายที่มีเสถียรภาพมากกว่า จึงเป็นกลุ่มที่ยอมลงทุนในการซื้อตัวนักดีไซเนอร์มือดีมาสร้างสรรค์ผลงานที่ล้ำหน้าแฟชั่นในช่วงเวลานั้นๆ เพื่อประกันความสำเร็จของธุรกิจ

ประการที่สี่ ลำพังเพียงการจำหน่ายนาฬิกาเพียงสายผลิตภัณฑ์เดียวอาจจะยากที่จะทำให้การเติบโตมีการเพิ่มขึ้นหรือรักษาระดับไว้ได้ กลุ่มนาฬิกาแฟชั่นจึงแบ่งออกเป็นส่วนตลาดย่อยๆหลายเซ็กเมนต์ โดยเฉลี่ยประมาณ 4-5 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งจะเน้นการปรับเปลี่ยนตามแฟชั่นอย่างรวดเร็ว ส่วนที่เหลือจะมีกลุ่มที่ป้อนตลาดระดับพรีเมี่ยมมีการเสริมคุณค่าของนาฬิกาด้วยอัญมณี และกลุ่มนาฬิกาแบบสปอร์ต สำหรับลูกค้าที่มีกิจกรรมการเคลื่อนไหว และต้องการนาฬิกาที่เข้ากับบุคลิกคล่องตัวของตน ซึ่งที่ผ่านมามักพบว่า กลุ่มที่มีการประดับด้วยอัญมณีและกลุ่มนาฬิกาสปอร์ตเป็นกลุ่มที่สามารถสร้างกำไรต่อหน่วยได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ

ประการที่ห้า สำหรับนาฬิกาจากสวิสโดยตรงนั้น การสำรวจพบว่ายังมีการจำหน่ายดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีวี่แววว่าจะมีปัญหาการหดหายของลูกค้าแต่อย่างไร เมื่อต้นปีนี้ การส่งออกนาฬิกาจากสวิสเพิ่มขึ้นกว่า 14% จากปีก่อนหน้า โดยมีสหรัฐฯเป็นตลาดหลักของนาฬิกาจากสวิสเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม นาฬิกาสวิสบางยี่ห้อหันมาให้ความสำคัญกับตลาดในย่านเอเชียมากขึ้นโดยเฉพาะตลาดในญี่ปุ่นที่มียอดการซื้อแบรนด์หรูราคาแพงสูงสุดของโลกถึง 47% ของการซื้อสินค้าแบรนด์เนมดังทั่วโลก รองลงมาคือตลาดสหรัฐฯ และกลุ่มเศรษฐีที่เพิ่งมีโอกาสใช้เงินมากๆ อย่างลูกค้าในจีน

ประการที่หก ช่องทางการจำหน่ายนาฬิกาในปัจจุบันมีการขยายขอบเขตออกไปครอบคลุมตลาดบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เนื่องจากความเชื่อถือในระบบการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการเติบโตที่เห็นได้ชัดในตลาดที่ปลอดภาษีหลายแห่งในโลก อย่างเช่นในย่านตะวันออกลาง เป็นต้น

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจนาฬิกาในอนาคตนั้น พบว่านักการตลาดส่วนหนึ่งเชื่อกันว่าตลาดแบบอินเทรนด์ตามแฟชั่นยังเป็นที่ต้องการของลูกค้าที่ต้องสวมใส่นาฬิกาที่มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครต่อไป โดยนาฬิกาในกลุ่มนี้จะเน้นเรื่องสีสัน รูปทรง และความโค้งเว้าของนาฬิกาเป็นสำคัญ

ในขณะที่นักการตลาดอีกกลุ่มหนึ่งเห็นว่านาฬิกาแบรนด์เนมก็ยังน่าไปได้ดี เพราะกลุ่มนี้เน้นความภูมิใจในแบรนด์ และเชื่อว่าสไตล์ของแบรนด์เนมดังๆ ล้ำหน้าสุดๆแล้ว ตลาดของกลุ่มนี้คือลูกค้าในเมืองใหญ่ ๆ ที่น่าสนใจคือ กลุ่มลูกค้ามีการผสมผสานกันระหว่างกลุ่มคนหนุ่มสาวในตลาดย่านเอเชีย กับกลุ่มคนสูงวัยในตลาดทางยุโรป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us