คาโอฯ ต่อยอดแบรนด์ "บิโอเร" จากภาพผู้เชี่ยวชาญโฟมล้างหน้า ขยายไลน์สู่ตลาดครีมอาบน้ำ ยกแรกทุ่ม 50 ล้านบาท ส่งวีเจจ๋า - ณัฐฐาวีรนุช เป็นพรีเซนเตอร์นำทัพครีมอาบน้ำ 5 สูตร เจาะสาวทำงาน ด้วยคอนเซ็ปต์ "Love Touch Skin" ชูจุดขาย "ฟื้นฟูและปกป้องผิว" การบุกครั้งนี้ "บิโอเร" มีเป้าหมายเพื่อชิงเบอร์ 2 จาก "โชกุบุสซึ" ด้วยแชร์ 10% ในปีนี้ พร้อมมองไกลขึ้นเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวในเอเชีย
ด้วยภาพรวมตลาดครีมอาบน้ำมูลค่า 1,900 ล้านบาท ที่มีการเติบโตกว่า 7% ในปีที่ผ่านมา นับเป็นการเติบโตที่สูงมากเมื่อเทียบกับตลาดสบู่ก้อนมูลค่า 3,400 ล้านบาท ที่มีการเติบโตเพียง 4% เนื่องจากมีการบริโภคแล้ว 100% อีกทั้งพฤติกรรมการการใช้สบู่ พบว่า ผู้บริโภคที่ใช้สบู่เหลวมีสัดส่วน 40% ขณะที่การใช้ทั้งสบู่เหลวและสบู่ก้อนมีประมาณ 10 - 15% ส่งผลให้ทิศทางของผู้เล่นหลักในตลาดเบนความสนใจไปที่ตลาดสบู่เหลว โดยเฉพาะผู้นำอย่าง "ลักส์" แม้ตอนนี้จะครองแชร์สูงถึง 29% ทว่า ลักส์ยังคงเดินหน้าสร้างตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายตลาดและตีกันผู้เล่นเบอร์รองอย่าง "โชกุบุสซึ" และ "บีไนซ์" อย่างเต็มที่
ล่าสุด ค่ายคาโอฯประกาศตัวเป็นคู่แข่งในสมรภูมินี้อย่างเป็นทางการ ด้วยการแตกไลน์แบรนด์ "บิโอเร" จากตลาดโฟมล้างหน้าเข้าสู่เซกเมนต์ครีมอาบน้ำ หลังจากที่ทดลองทำตลาดในญี่ปุ่นจนเป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกับกลุ่มโฟมล้างหน้า และทยอยเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชีย โดยไทย คือ 1ในประเทศที่คาโอฯ เชื่อว่า ครีมอาบน้ำบิโอเรจะสามารถสร้างแรงกระทบให้กับผู้เล่นหลักในตลาดนี้ได้อย่างแน่นอน
"ครีมอาบน้ำเป็นสินค้ากลุ่มที่4ของบิโอเร จากตอนนี้ทีมีสินค้า 3 กลุ่ม คือ โฟมล้างหน้า ที่ได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งราว 6.8% จากตลาดโฟมล้างหน้ามูลค่า 2,700 ล้านบาท กลุ่มแผ่นขจัดสิวเสี้ยน และผลิตภัณฑ์กันแดด จากความสำเร็จในกลุ่มสินค้าต่างๆ เชื่อว่าการเข้าสู่ตลาดครีมอาบน้ำจะได้การตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น และสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวในเอเชียได้ด้วย"เป็นคำกล่าวของ ชิเกรุ อูเอยาม่า ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ "บิโอเร"
ทั้งนี้ จากการเข้าสู่ตลาดช้ากว่าผู้เล่นรายอื่น "บิโอเร" จึงต้องวางจุดขายของแบรนด์ให้แตกต่างจากคู่แข่ง เพราะหากจะนำเรื่องผิวขาว ผิวสุขภาพดี ผิวกระชับมาสื่อสารกับผู้บริโภค เชื่อว่าคงไม่สามารถสร้างความตื่นเต้นกับผู้บริโภคได้ เพราะคุณสมบัติดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผู้เล่นรายอื่นๆยกมาเป็นจุดขายและสื่อสารกับผู้บริโภคระยะหนึ่งแล้ว อาทิ "บีไนซ์" ของค่ายไบโอ คอนซูมเมอร์ฯ จะสื่อสารถึงการอาบเพื่อผิวกระชับ "โชกุบุสซึ" จากไลอ้อน จะชูเรื่องสารสกัดจากพืชพันธุ์ธรรมชาติ ขณะที่ "ลักส์" กำลังปูพรมให้ตนเองเป็นแบรนด์ที่มีสูตรครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเรื่อง ความขาว ความเนียนเรียบของผิว หรือการมีผิวสุขภาพดี โดยล่าสุดยกระดับแบรนด์ตนเองให้ดูเหนือคู่แข่ง ด้วยการหยิบเรื่อง "สนุกกับความสวย" ที่เป็นโกลบอลแคมเปญมาเป็นจุดขายสร้างอีโมชันนัลให้หญิงทั่วโลกสนุกกับการดูแลตนเอง ตอกย้ำภาพผู้นำความงามระดับสากล
ดังนั้น "บิโอเร" จึงฉีกแนวด้วยการนำเรื่อง "การฟื้นฟูและปกป้องผิว" ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Love Youch Skin"มาสื่อสารกับผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายหลักที่เน้นไปยังสาวทำงานวัย 22 - 29 ปี ซึ่งในปีแรกทำการทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดครีมอาบน้ำจำนวน 5 สูตร ที่แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มบิวตี้ สูตรมอยเจอร์ ริช (สีเหลือง), สูตรไวท์เทนนิ่ง สครับ (สีเงิน) กลุ่มอโรมา สูตรซากุระ เซนส์เซชั่น (สีชมพู), สูตรรีแลกซ์ซิ่ง อโรมาติค (สีม่วง) และกลุ่มเฮลท์ตี้ คือ สูตรเฮลท์ตี้ พลัส (สีส้ม) โดยแต่ละสูตรเป็นคุณสมบัติที่ออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่างกัน เช่น สีม่วง ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ สำหรับผู้ต้องการความผ่อนคลายให้ผิว, สีส้ม มีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย สำหรับคนในครอบครัว, สีเงิน เพื่อผิวขาวเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ ได้ทำการเปิดตัว จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี เป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมดึงเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดัง เช่น ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล, สุทัศนีย์ คุนผลิน มาร่วมทดลองเพื่อดึงดูดและสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค รวมทั้งได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างประสบการณ์การรักผิวรูปแบบใหม่ ที่ครั้งนี้บิโอเรมั่นใจว่าจะเป็นทีเด็ดมัดใจผู้บริโภค เพราะนอกจากคุณสมบัติตามสูตรต่างๆที่บิโอเรพัฒนาออกมาตอบสนองนั้น สิ่งที่ถือเป็นไฮไลท์และเป็นหมัดเด็ดของบิโอเรในครั้งนี้ คือ การให้ความสำคัญของปริมาณฟองโฟมจำนวนมากขณะอาบ แต่ล้างออกง่ายโดยไม่รู้สึกลื่นเหนอะหนะ ทั้งนี้ นายชิเกรุ กล่าวเสริมว่า เมื่อสำรวจความต้องการของหญิงไทย พบว่า ฟองโฟมเป็นสิ่งที่สาวไทยให้ความสำคัญในระหว่างการทำความสะอาดร่างกายด้วยครีมอาบน้ำ แต่ต้องสามารถล้างออกได้ง่ายเช่นกัน และเมื่อซับผิวจนแห้ง ต้องคงความเนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วย
ด้วยจุดขายที่มาจากผลสำรวจความต้องการของสาวไทย ทำให้การบุกครั้งนี้ "บิโอเร" มั่นใจว่าจะสามารถขึ้นแท่นเบอร์ 2 แทน "โชกุบุสซึ" ที่ตอนนี้มีแชร์ราว 9% ด้วยการคว้าส่วนแบ่งได้ถึง 10% ในปีแรก จากตลาดรวมครีมอาบน้ำที่คาดว่าจะขยายตัวถึง 10% จากปีก่อน หรือมีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมาจากการเข้ามาของบิโอเร และคนไทยมีการใช้ครีมอาบน้ำมากขึ้น ขณะที่พฤติกรรมการอาบน้ำต่อวันก็มีค่าเฉลี่ยประมาณ 3-4 ครั้งต่อวัน ต้องติดตามกันต่อไปว่า งานนี้แชมป์อย่าง "ลักส์" จะงัดไม้เด็ดรูปแบบไหนออกมารับน้องใหม่ แต่ที่แน่ๆ "บิโอเร" คงต้องรับมือกับ "โชกุบุสซึ" เพราะไลอ้อนคงไม่ปล่อยเบอร์ 2 ให้หลุดไปง่ายๆอย่างแน่นอน
|