Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 กันยายน 2550
เอเจนซี่ฯเตือนคนซื้อคอนโดฯ ระวังหลายโครงการไม่ผ่านสวล.             
 


   
search resources

โสภณ พรโชคชัย
Real Estate




“AREA” เชื่อปี2552 คอนโดมิเนียมยังไม่ล้นตลาด เผย6ปัจจัยสำคัญชี้ชัด ตลาดคอนโดฯยังห่างภาวะโอเวอร์ซัปพลาย ระบุโครงการที่ประกาศตัวจะก่อสร้างแล้วเสร็จในแต่ละปี อาจจะมียกเลิกโครงการหากขายไม่หมด เชื่ออีกหลายโครงการยังไม่ผ่านการอนุญาตจัดสรร อาคารชุด –กม.สิ่งแวดล้อม

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) เปิดเผยว่า จากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยประเภทโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2552 จะเกิดภาวะสินค้าล้นตลาด (โอเวอร์ซัปพลาย)นั้น อาจจะต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ โดยหากมีการพิจารณาปัจจัยแวดล้อม 6 ปัจจัยแล้ว จะทำให้โอกาสที่จะเกิดสถานการณ์โอเวอร์ซัปพลายในปี 52 มีน้อยมาก

โดยปัจจัยแรกที่บริษัทฯ นำมาประกอบการพิจาณานั้น คือ การเปิดขายอาคารชุดจำนวนมาก ในขณะที่ที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ ที่เปิดใหม่มีจำนวนน้อยลง จากการสํารวจของศูนย์ข้อมูล วิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯฯพบว่า ในรอบ8 เดือนแรกของปี 2550 (มกราคม – สิงหาคม 2550) มีโครงการเกิดใหม่ที่เป็นอาคารชุดถึง 24,227 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนถึง 60% ของหน่วยขายที่อยู่อาศัยทุกประเภท ที่เปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกัน

ปัจจัยที่สอง การที่อาคารชุดเกิดขึ้นมาก เพราะเป็นสินค้าที่ดูแลได้ง่าย และมีค่าเสื่อมต่ำกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ทั้งยังสามารถหารายได้จากการให้เช่าได้ง่ายกว่า จึงเป็นสินค้าเพื่อการลงทุนเก็งกําไร ทําให้มีจํานวนผู้ซื้อมาก ทำให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทดังกล่าวจึงมากตามไปด้วย

ปัจจัยที่สาม การขาดความระมัดระวังในการพัฒนาโครงการของผู้ประกอบการ ซึ่งพิจารณาจํานวนที่มีผู้จองซื้อและมีการจองซื้อกันอย่างต่อเนื่อง ทําให้เห็นว่า ความต้องการซื้ออาคารชุดมีมาก จึงไม่น่าห่วง และไม่คิดว่าซัปพลายเริ่มสูงกว่าความต้องการ(ดีมานด์)ที่มีอยู่ในตลาด

ปัจจัยที่สี่ คือ การซื้อส่วนใหญ่เชื่อว่า เป็นการซื้อเพื่อการลงทุนเก็งกําไร คือหวังประโยชน์จากการให้เช่าได้ ในอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากธนาคาร และหวังประโยชน์ จากการขายต่อได้ราคาดีในภายหลัง ดังนั้นการที่คิดว่าไม่มีการเก็งกําไรในทรัพย์สินประเภทนี้ จึงเป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง

ปัจจัยที่ห้า การที่ผู้ประกอบการคาดการณ์กันว่าในปี 2552 จะมีการสร้างเสร็จมากมายจนอาจเกิดการล้นตลาดนั้น เป็นความเข้าใจผิดเช่นกัน เพราะในขณะนี้โครงการอาคารชุดจำนวนมาก ซึ่งแม้ขายหมดแล้ว ก็ยังไม่ได้ก่อสร้าง

" เพราะหลายโครงการยังไม่ได้รับการอนุมัติเกี่ยวกับข้อกําหนดด้านสิ่งแวดล้อม หรือยังติดปัญหาผังเมืองอยู่เลย ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสําคัญที่พึงระวัง เพราะหากการก่อสร้างเนิ่นนานออกไป ค่าก่อสร้างอาจเพิ่มขึ้น ทําให้มีความเป็นไปได้ที่โครงการบางแห่งอาจล้มเลิกไป "

และปัจจัยสุดท้าย คือ โครงการที่เปิดตัวและขายแล้วหากภาวะตลาดในอนาคตไม่อํานวย ก็อาจจะล้มเลิกไปได้ ดังนั้น การคิดคํานวณง่ายๆ จากปีที่โครงการหนึ่ง ๆ ประกาศคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ แล้วนำประกอบการพิจารณาว่า อาคารชุดพักอาศัยจะล้นตลาดในปี 2552 จึงถือเป็นความเข้าใจผิด ข้อวิตกเรื่องการล้นตลาดของอาคารชุดพักอาศัยจึงไม่น่าจะมี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us