บรรดานักลงทุนจากต่างประเทศมักเกิดความสับสนเกี่ยวกับช่องทางในการเข้าไปประกอบธุรกิจหรือลงทุนในลาว
วิธีแก้ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือ ขอคำปรึกษาจากบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ ทว่านับจากนี้รัฐบาลลาวจะเสนอทางออกใหม่อีกประการหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย
เพราะด้วยความช่วยเหลือของมูลนิธิเอเชีย ขณะนี้มีกระทรวงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจภายนอก
ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการพิจารณาอนุมัติรับการลงทุนจากต่างประเทศ ได้เริ่มจัดตั้งหน่วยงานขึ้นภายในสำนักงานถาวรของคณะกรรมาธิการจัดการด้านการลงทุนจากต่างประเทศขึ้น
เพื่อเป็นศูนย์บริการด้านการลงทุน โดยจะจัดหาข้อมูลเกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุน
กฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ให้แก่นักลงทุนต่างชาติโดยไม่คิดค่าบริการแต่อย่างใด
และมีบุญนัง แสงจันทะวง รองผู้อำนวยการของคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวเป็นหัวหน้าศูนย์
ทางกระทรวงยังคาดหวังว่า จะให้บริการเพิ่มเติมหลังการอนุมัติการลงทุนแล้วด้วย
หากหน่วยงานแห่งนี้มีบุคลากรเพิ่มมากขึ้นศูนย์ดังกล่าวยังช่วยลดขั้นตอนในการติดต่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนแก่นักธุรกิจ
โดยไม่ต้องผ่านหน่วยงานหลายต่อหลายแห่งภายในกระทรวง นอกจากนั้นจะจัดหาข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้
ให้กับบรรดานักลงทุน และช่วยกำจัดการแทรกตัวของคนกลางจากภายนอกด้วย
นอกจากนั้น หน่วยงานนี้ยังจะเข้าไปดูแลกิจการ ลาวอินเวสท์เมนท์โปรโมชัน
โค. (LIPCO) ที่กำลังอยู่ในสภาพย่ำแย่อีกด้วยกิจการแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
1991 เป็นหน่วยงานกึ่งราชการรับผิดชอบให้ความช่วยเหลือแก่นักลงทุนจากต่างประเทศพร้อม
ๆ กับเป็นบริษัทธุรกิจที่ดำเนินการจัดหาทุนเพื่อเข้าไปลงทุนในโครงการต่าง
ๆ ส่วนการบริการข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนนั้น จะคิดค่าธรรมเนียมจากผู้ที่ต้องการเข้ามาลงทุนและต้องการข้อมูลด้วย
แต่จากฝ่ายของนักธุรกิจนั้น ดูเหมือนจะยังไม่มั่นใจในศูนย์ดังกล่าวมากนัก
เนื่องจากไม่แน่ใจว่าข้อมูลสำคัญจะถูกส่งกลับไปยังรัฐบาลหรือไม่ และทำไมเจ้าหน้าที่รัฐบาลจึงคิดค่าธรรมเนียมจากบริการดังกล่าว
และนอกจากนั้น ก็ไม่แน่ใจว่าข้อมูลดังกล่าวจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาหรือไม่
หรือนี่เป็นเพียงวิธีการหาเงินทางหนึ่งของรัฐบาลเท่านั้น
จากปัญหาดังกล่าวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลจึงดำเนินการจำหน่ายหุ้นในกิจการ
LIPCO ให้แก่ภาคเอกชน โดยยังคงจ่ายเงินแก่พนักงานในระดับเดียวกับอัตราเงินเดือนข้าราชการ
และยังเป็นไปได้ด้วยว่า ในอีกสองหรือสามเดือน รัฐบาลจะตัดสินใจว่าควรถอนตัวออกจากกิจการนี้ทั้งหมด
และปล่อยให้แข่งขันกับธุรกิจในแขนงเดียวกันอย่างเต็มที่ในระบบตลาดหรืออาจโอนย้าย
เจ้าหน้าที่ของ LIPCO ไปขึ้นกับคณะกรรมาธิการการลงทุนต่างประเทศ