Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 กันยายน 2550
ธปท.ปลื้มรายย่อยซื้อบอนด์71%             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Bond




ธปท.ยิ้มแก้มปริหลังประชาชาชนแห่จองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์เกือบ 9 หมื่นบ้านบาท ระบุช่วยกระจายให้แก่ประชาชนรายย่อยที่มีเงินต่ำกว่า 1 ล้านบาทได้ถึง 71% เผยปีนี้ไม่มีแผนออกเพิ่ม รอดูสถานการณ์ปีหน้า ยอมรับแบงก์บางแห่งอาจได้รับผลกระทบต่อฐานเงินฝากและสภาพคล่องลดลง แต่ต้องมีการปรับตัว

นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.มีความพอใจที่การออกพันธบัตรออมทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 สามารถที่จะกระจายไปยังประชาชนรายย่อยได้จริงตามเจตนารมณ์ที่ต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในช่วงที่ดอกเบี้ยเงินฝากมีแนวโน้มต่ำต่อเนื่อง

โดยจากการสำรวจการซื้อพันธบัตรดังกล่าว พบว่า พันธบัตรออมทรัพย์ ธปท. วงเงิน 89,899.98 ล้านบาทนั้นได้มีการกระจายให้แก่ประชาชนที่มีวงเงินไม่ถึง 1 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 47%ของวงเงินรวม และวงเงิน 1 ล้านบาท คิดเป็น 28%ของเงินรวม ขณะที่วงเงิน 1.01-3 ล้านบาท มีสัดส่วน 13% และมากกว่า 3 ล้านขึ้นไปมีสัดส่วน 16%ของวงเงินรวม จึงแสดงให้เห็นว่ารายย่อยที่มีเงินต่ำกว่า 1 ล้านได้ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าวถึง 71%

โดย 82% ของผู้ซื้อเป็นบุคคลธรรมดา และอีก 18% เป็นองค์การการกุศล และสหกรณ์ โดยคนที่ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นกรุงเทพ และปริมณฑล ซื้อสูงกว่า 80% ซึ่งเป็นไปตามฐานเงินฝากเดิมของธนาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม จนถึงปลายปี 2550 นี้ ธปท.ยังไม่มีแผนที่จะออกพันธบัตรออมทรัพย์เพิ่มเติมอีก เพราะยังเห็นว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์ ส่วนในปี 2551 นั้น คงจะต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่ในส่วนของกระทรวงการคลัง มีการออกพันธบัตรออมทรัพย์ในปีงบประมาณอย่างต่อเนื่องทุกเดือน

ทั้งนี้ นางผ่องเพ็ญ ยืนยันว่า การออกพันธบัตรออมทรัพย์ของ ธปท.จำนวนสูงถึงเกือบ 90,000 ล้านบาทครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้สภาพคล่องของระบบการเงินลดลง เพราะหลังจากที่ได้มีการดูดซับสภาพคล่องเข้าไปแล้ว ธปท.จะปล่อยคืนหมดทั้งจำนวนผ่านช่องทางอื่น ดังนั้น ปริมาณเงินในระบบไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม่ทำให้อัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนไปเป็นขาขึ้นอย่างแน่นอน

“ยอมรับว่า การออกพันธบัตรออมทรัพย์ ธปท. อาจจะมีผลต่อฐานเงินฝาก และสภาพคล่องของบางธนาคารให้ลดลง เพราะถูกถอนเงินฝากออกไปลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์แทน แม้ว่า ธปท.จะส่งคืนเงินเข้าระบบ แต่ก็อาจจะไม่ได้คืนไปยังธนาคารเดิมทั้งหมด แต่จะเกี่ยวเนื่องกับการออกโครงการออมเงิน 7 เดือนที่ให้อัตราดอกเบี้ยเงินออมสูงกว่าราคาตลาดของบางธนาคารหรือไม่นั้น ไม่แน่ใจ แต่จุดนี้ธนาคารพาณิชย์คงต้องปรับตัว”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us