|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธปท.ยิ้มแก้มปริหลังประชาชาชนแห่จองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์เกือบ 9 หมื่นบ้านบาท ระบุช่วยกระจายให้แก่ประชาชนรายย่อยที่มีเงินต่ำกว่า 1 ล้านบาทได้ถึง 71% เผยปีนี้ไม่มีแผนออกเพิ่ม รอดูสถานการณ์ปีหน้า ยอมรับแบงก์บางแห่งอาจได้รับผลกระทบต่อฐานเงินฝากและสภาพคล่องลดลง แต่ต้องมีการปรับตัว
นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.มีความพอใจที่การออกพันธบัตรออมทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 สามารถที่จะกระจายไปยังประชาชนรายย่อยได้จริงตามเจตนารมณ์ที่ต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในช่วงที่ดอกเบี้ยเงินฝากมีแนวโน้มต่ำต่อเนื่อง
โดยจากการสำรวจการซื้อพันธบัตรดังกล่าว พบว่า พันธบัตรออมทรัพย์ ธปท. วงเงิน 89,899.98 ล้านบาทนั้นได้มีการกระจายให้แก่ประชาชนที่มีวงเงินไม่ถึง 1 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 47%ของวงเงินรวม และวงเงิน 1 ล้านบาท คิดเป็น 28%ของเงินรวม ขณะที่วงเงิน 1.01-3 ล้านบาท มีสัดส่วน 13% และมากกว่า 3 ล้านขึ้นไปมีสัดส่วน 16%ของวงเงินรวม จึงแสดงให้เห็นว่ารายย่อยที่มีเงินต่ำกว่า 1 ล้านได้ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าวถึง 71%
โดย 82% ของผู้ซื้อเป็นบุคคลธรรมดา และอีก 18% เป็นองค์การการกุศล และสหกรณ์ โดยคนที่ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นกรุงเทพ และปริมณฑล ซื้อสูงกว่า 80% ซึ่งเป็นไปตามฐานเงินฝากเดิมของธนาคารพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม จนถึงปลายปี 2550 นี้ ธปท.ยังไม่มีแผนที่จะออกพันธบัตรออมทรัพย์เพิ่มเติมอีก เพราะยังเห็นว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์ ส่วนในปี 2551 นั้น คงจะต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่ในส่วนของกระทรวงการคลัง มีการออกพันธบัตรออมทรัพย์ในปีงบประมาณอย่างต่อเนื่องทุกเดือน
ทั้งนี้ นางผ่องเพ็ญ ยืนยันว่า การออกพันธบัตรออมทรัพย์ของ ธปท.จำนวนสูงถึงเกือบ 90,000 ล้านบาทครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้สภาพคล่องของระบบการเงินลดลง เพราะหลังจากที่ได้มีการดูดซับสภาพคล่องเข้าไปแล้ว ธปท.จะปล่อยคืนหมดทั้งจำนวนผ่านช่องทางอื่น ดังนั้น ปริมาณเงินในระบบไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม่ทำให้อัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนไปเป็นขาขึ้นอย่างแน่นอน
“ยอมรับว่า การออกพันธบัตรออมทรัพย์ ธปท. อาจจะมีผลต่อฐานเงินฝาก และสภาพคล่องของบางธนาคารให้ลดลง เพราะถูกถอนเงินฝากออกไปลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์แทน แม้ว่า ธปท.จะส่งคืนเงินเข้าระบบ แต่ก็อาจจะไม่ได้คืนไปยังธนาคารเดิมทั้งหมด แต่จะเกี่ยวเนื่องกับการออกโครงการออมเงิน 7 เดือนที่ให้อัตราดอกเบี้ยเงินออมสูงกว่าราคาตลาดของบางธนาคารหรือไม่นั้น ไม่แน่ใจ แต่จุดนี้ธนาคารพาณิชย์คงต้องปรับตัว”
|
|
|
|
|