Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 กันยายน 2550
คลังเผยยอดขาดดุล11เดือน2.3แสนล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงการคลัง

   
search resources

กระทรวงการคลัง
สมชัย สัจจพงษ์
Economics




คลังเผยฐานะการคลัง 11 เดือนมียอดขาดดุลเงินสด 230,777 ล้านบาท ระบุเป็นการสนองนโยบายรัฐที่ต้องการใช้นโยบายการเงินเป็นหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนในเดือนสิงหาคมมียอดเกินดุลเงินสดกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เบียร์ ยาสูบ และน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดประจำเดือนสิงหาคม 2550 รัฐบาลมีดุลเงินสดเกินดุล 10,082 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550 (ตุลาคม 2549 – สิงหาคม 2550) รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 230,777 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลที่จะใช้นโยบายการคลังเป็นเครื่องมือหลักในการกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 4% ทั้งนี้ รัฐบาลชดเชยการขาดดุลโดยการใช้เงินคงคลัง 87,117 ล้านบาท การออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 97,115 ล้านบาท และการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 46,545 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 109,769 ล้านบาท สูงกว่าระยะเดียวกันปีก่อน 17.7% โดยรายได้จากภาษีที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ภาษีเบียร์ ภาษียาสูบ และภาษีน้ำมัน ขณะเดียวกันรัฐบาลก็มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 122,778 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 5.4% โดยแบ่งออกเป็นรายจ่ายประจำ 101,347 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 17,262 ล้านบาท และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 4,169 ล้านบาท จึงส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนสิงหาคม 2550 ขาดดุล 13,010 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณซึ่งเกินดุล 23,092 ล้านบาท จึงทำให้ดุลเงินสดเกินดุล 10,082 ล้านบาท

สำหรับฐานะการคลังในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,251,742 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 8% โดยรายได้ภาษีที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนในอัตราสูงที่สำคัญ ได้แก่ ภาษียาสูบ ภาษีเบียร์ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะ นอกจากนี้การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและรายได้จากส่วนราชการอื่นยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเช่นเดียวกัน

ส่วนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 1,424,078 ล้านบาท สูงกว่าการเบิกจ่ายในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 14.9% โดยแบ่งออกเป็นรายจ่ายปีปัจจุบัน 1,326,605 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว17.9% คิดเป็นอัตราการเบิกจ่าย84.7%ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) และรายจ่ายปีก่อน 97,473 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว15%

ทำให้ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณมีดุลเงินงบประมาณขาดดุลทั้งสิ้น 172,335 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน 58,442 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจ่ายเงินเหลื่อมจ่ายจากปีงบประมาณ 2549 จำนวน 38,952 ล้านบาท และการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิ 9,000 ล้านบาท ทำให้ดุลการคลัง (ดุลเงินสด) ขาดดุลทั้งสิ้น 230,777 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us