|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลาดหุ้นทั่วโลกยังไม่พ้นวิกฤตหลังปัญหาซับไพรม์ประทุที่อังกฤษ ประชาชนแห่ถอนเงินฝากเพียบ ขณะที่หุ้นไทยรูด 10 จุด เจอพิษ PTT ขึ้น XD วันแรกหุ้นร่วง 10 บาท วอลุ่มยังต่ำกว่าหมื่นล้าน นักลงทุนต่างชาติขายเพิ่มอีก 1 พันล้าน โบรกฯลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ชี้ 3 ตลาดหุ้นใหญ่ "ดาวโจนส์-แนสแด็ก-S&P500" กำหนดทิศตลาดหุ้นทั่วโลก
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (17 ก.ย.) โดยนักลงทุนทั้งในประเทศและนักลงทุนต่างชาติยังชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนดัชนีทำให้เกือบตลอดทั้งวันดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ ประกอบกับการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้นบมจ.ปตท. ซึ่งมีมาร์เกตแคปสูงสุดในตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้ปัญหาการปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์)ที่ระอุมาอีกรอบทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงมาปิดที่ 802.65 จุด ลดลง 9.30 จุด หรือ 1.15% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 812.05 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 801.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9,464.62 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,086.59 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 521.18 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,607.76 ล้านบาท
สำหรับการซื้อขายหุ้นบมจ.ปตท. หรือ PTT ซึ่งประกาศขึ้นเครื่องหมายผู้ซื้อไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (XD) ส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาปิดที่ 314 บาท ลดลง 10 บาท หรือ 3.09% มูลค่าการซื้อขาย 1,360.59 ล้านบาท โดยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 14.37% ของมูลค่าการซื้อขายรวม
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การกลับมาสร้างปัญหาให้เกิดความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกของซับไพรม์ยังถือว่าเป็นประเด็นที่นักลงทุนทั่วโลกค่อนข้างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับด้านอสังหาริมทรัพย์เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวยังมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกระทบที่รุนแรงขึ้นมาอีก
ทั้งนี้ แม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้จะจำกัดอยู่เพียงในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งในยุโรป แต่มีความเป็นไปได้ที่ปัญหาดังกล่าวจะล่ามเข้ามาสร้างปัญหาในประเทศแถบเอเชีย ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ทางตรงแต่อาจจะเป็นผลกระทบในทางอ้อม เช่น การเทขายหุ้นออกมาอีกครั้งในตลาดหุ้นทั่วเอเชียเนื่องจากมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง
สำหรับ สัญญาณเตือนที่ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจให้จับตา คือ ตัวเลขผลกระทบที่สถาบันการเงินในสหรัฐจะเริ่มทยอยประกาศออกมาว่าจะมีสูงอย่างที่มีความกังวลมากน้อยเพียงใด โดยช่วงเดือนนี้ตัวเลขดังกล่าวจะเริ่มประกาศออกมาซึ่งหากผลกระทบมีมากตลาดหุ้นในสหรัฐทั้งดาวโจนส์, แนสแด็ก, S&P 500 จะสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน โดยนักลงทุนต้องติดตามเนื่องจากตลาดหุ้นทั้ง 3 แห่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลกต่อไปอีกระยะ
ลุ้นผลเฟดลดดอกเบี้ย
นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลดลงประมาณ 1-1.5% หลังจากที่ธนาคารต่างประเทศหลายแห่งมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบจำนวนมากเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงการที่หุ้น PTT ขึ้นเครื่องหมาย XD
ทั้งนี้มูลค่าการซื้อขายอยู่ในระดับที่มีการซื้อขายเบาบางจากนักลงทุนยังไม่มีการเพิ่มการลงทุน ประกอบกับนักลงทุนยังไม่กล้าที่จะขายหุ้นออกมา เพราะ ต้องการรอผลการประชุมขอเฟดที่จะประชุมปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดหมายที่จะปรับลด 0.5% ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง โดยคาดว่าดัชนีอาจจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 790-805 จุด
“ขณะนี้นักลงทุนยังไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุน ส่วนคนที่ต้องการขายก็ยังไม่ขายออกมาเพราะ รอผลการประชุมเฟด รวมถึงยังไม่มีปัจจัยบวกหรือลบที่ชัดเจนจึงทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ซึ่งหากเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าที่คาดก็จะทำให้ตลาดหุ้นอ่อนตัวลงหลุด 800 จุด”นางวิริยา กล่าว
อย่างไรก็ตามบล.เกียรตินาคินประเมินตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดและหากปัจจัยบวกที่คาดว่าจะมีผลตลาดเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่เป็นไปตามคาด ซึ่งบริษัทได้มีการแนะนำให้นักลงทุนมีการทยอยขายหุ้นออกมา โดยให้ถือเงินสัดประมาณ 75% ลงทุนหุ้นเพียง 25%
รอปัจจัยใหม่หนุนตลาด
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคจีไอ กล่าวว่า นักลงทุนยังคงรอผลการประชุมของเฟด ขณะที่ผลจากที่ประเทศจีนได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้รับผกระทบ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกงมีการปรับตัวลดลง และจากการที่ปตท.มีการขึ้นเครื่องหมาย XD รวมถึงราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงนั้นทำให้นักลงทุนมีการขายทำกำไรหุ้นออกมาก่อนรวมถึงหุ้นน้ำมันอื่นๆ ด้วย
“นักลงทุนส่วนใหญ่ยังอยู่นอกตลาดเพื่อรอปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามาสนับสนุน และรอผลการประชุมของเฟด ซึ่งการที่เฟดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้นไม่น่าจะมีผลต่อดัชนีตลาดหุ้นมากนัก” นายอดิศักดิ์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลง มูลค่าการซื้อขายไม่มากนัก เพราะนักลงทุนยังไม่เข้ามาซื้อขาย โดยมองแนวรับที่ระดับ 795 จุด ซึ่งหากปรับลดลงกว่าแนวรับระดับดังกล่าวก็อาจปรับตัวลดลงได้ถึง 730 จุด ในช่วง 1-2 วันนี้ มองแนวต้นที่ระดับ 810 จุด
แนะเก็บหุ้นพื้นฐานเข้าพอร์ต
นายวรุฒน์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเป็นเพราะการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น PTT ประกอบกับตลาดหุ้นทั่วเอเชียต่างกังวลหลังประชาชนจำนวนต่างแถ่ถอนเงินฝากจากแบงก์นอร์ทเธิร์น ร็อค ในประเทศอังกฤษเนื่องจากมีความกังวลเรื่องการปล่อยกู้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยที่นักลงทุนยังคงติดตามต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา คือ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากที่เคยคาดการณ์ว่าเฟดน่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระดับ 0.50% แต่หลังจากที่นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ ออกมาเตือนว่าอาจจะทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐเข้าสู่ภาวะความเสี่ยงที่เงินเฟ้อมากเกินไป ซึ่งสุดท้ายอาจจะทำให้เฟดไม่กล้าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงอย่างที่เคยคาดการณ์
สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีอาจจะปรับตัวขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่คงต้องรอผลการประชุมของเฟดอีกครั้งว่าจะสรุปออกมาอย่างไร โดยแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดีที่ราคาปรับตัวลดลง เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน
|
|
 |
|
|