Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2543
เอไอเอกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ             
 


   
search resources

อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์, บจก.
ภควิภา เจริญตรา
Insurance
Funds




การรับรู้ถึงคุณประโยชน์ของการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะในส่วนของลูกค้าที่ถือเป็นหลักประกันสำคัญในยามออกจากงาน จากภาครัฐในฐานะที่เม็ดเงินดังกล่าวจะเป็นอีกแหล่งเงินทุนระยะยาวที่สำคัญ (ที่จะเข้ามาอุดช่องว่างระหว่างเงิน ออมและเงินลงทุน) นั้นช่วยให้ธุรกิจการ จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี 2527 และเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วง 12 ปีแรก ขนาดของกองทุนเพิ่มจำนวนขึ้นจากระดับเพียง 500 กว่าล้านบาท มาอยู่ ในระดับแสนล้านบาท

ผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจการเงินที่เกิดขึ้น ทำให้การเติบโตของธุรกิจดังกล่าวชะลอตัวลง แม้ว่าช่วงปี 2539-2540 อัตราการขยายตัวที่ลดลงยังคงถูก ยับยั้งไว้ได้บ้างบางส่วนจากการเร่งจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบรรดารัฐวิสาหกิจ

ปี 2541 พิษเศรษฐกิจปรากฏผลกระทบในเชิงลบต่อตัวธุรกิจจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างชัดเจน โดยอัตราการขยายตัวของเงินกองทุนตก ลงอย่างรุนแรงจากปีก่อนหน้าที่ 50.57% มาเหลือเพียง 15.44%

ส่วนสถานการณ์การดำเนินธุรกิจ เมื่อปีที่ผ่านมายังไม่แตกต่างจากปีก่อนหน้านัก ปัจจัยลบต่างๆ ยังคงไม่จางหาย เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจ นี้ อีกทั้งอัตราผลตอบแทนจากสิน ทรัพย์ที่มีสัดส่วนสูงสุดในพอร์ตการลงทุนของกองทุน ได้แก่เงินฝากธนาคาร ในรูปอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ทยอยอ่อน ตัวลงอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสกัดกั้นให้ขนาดเงินกองทุนขยายตัวได้ไม่สูงนัก

แม้สภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาจะส่งผลกระทบต่อตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโดยรวม เช่น บริษัทบางแห่งต้องหยุดนำส่งเงินเข้ากองทุนหรืออาจต้องปิดกองทุนเพื่อจ่ายคืนแก่สมาชิก แต่ในช่วงที่ผ่านมา บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) กลับได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย แถมมีลูกค้าหลายรายได้เปลี่ยนมาขอให้บริษัทบริหารเงินกองทุนแทน

ภควิภา เจริญตรา ผู้ช่วยรองประธาน ฝ่ายจัดการกองทุนของเอไอเอ กล่าวถึงผลงานการบริหารกองทุนสำรอง เลี้ยงชีพในปี 2542 ว่า มีมูลค่าเงินกอง ทุนที่อยู่ภายใต้การบริหาร 3,700 ล้านบาท จำนวน 32 กองทุน มี 250 บริษัท เฉพาะเดือนธันวาคมมูลค่าเงินกองทุนเพิ่มขึ้นมากว่า 300 ล้านบาท เป็นผล จากได้ลูกค้ารายใหญ่เข้ามาถึง 2 บริษัท รวมลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาในปี 2542 จำนวน 90 บริษัท

ด้านผลตอบแทนปี 2542 โดยเฉลี่ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3-4% ถ้าเป็นบริษัทบริหารอาจจะหวือหวา แต่เราเน้นคุณภาพ ตราสารการเงินจะเลือกบริษัทเอกชนที่แข็งแกร่งและฝากเงินกับสถาบันที่มีคุณภาพ ซื้อหุ้นกู้บริษัทที่มีผลประกอบการดี สภาพคล่อง สูง สามารถขายออกได้เร็วเมื่อมีคนลาออกจากกองทุน? ภควิภากล่าว

สำหรับแผนการลงทุนในปี 2543 เธอกล่าวว่า ผลจากการวิเคราะห์ทิศทาง เศรษฐกิจไทยที่ส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าจะเริ่มฟื้นตัว ทำให้คาดการณ์ว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น บริษัทจึงให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดทุน 15% โดยเน้นบริษัทที่มีผลประกอบการดี เพื่อนำมาซึ่งผลตอบแทนที่มากขึ้น เนื่อง จากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ใน ระดับต่ำมาก จึงจำเป็นต้องหาช่องทาง การลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าส่วนเกินให้กับเงินกองทุน

"ขณะนี้ฝ่ายลงทุนดูอยู่หลายกลุ่มแต่ด้วยจรรยาบรรณของผู้จัดการกองทุน ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะจะเป็นการชี้นำตลาด แต่จะเน้นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ ตอนนี้รอเพียงจังหวะเหมาะสมในการเข้าไปลงทุน? ภควิภากล่าว

การลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยง ชีพที่อยู่ภายใต้การบริหารของเอไอเอ มีทั้งระยะยาวและระยะปานกลาง เพราะกองทุนดังกล่าวเป็นการเน้นการให้สวัสดิการกับพนักงานของบริษัท ที่จัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาให้อยู่กับบริษัทไปนานๆ รวมทั้งเอไอเอ เน้นคุณภาพด้านการลงทุน เพราะต้องการให้ลูกค้าเลือกบริษัทเป็นผู้จัดการกองทุนในปีต่อไป ซึ่งกองทุนดังกล่าวการเป็นผู้จัดการกองทุนจะมีสัญญาปีต่อปี เมื่อครบกำหนดลูกค้าสามารถตัดสินใจเปลี่ยนผู้จัดการกองทุนได้

พร้อมกันนี้ในปี 2543 จะเป็นปีที่เอไอเอรุกตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่อไป ด้วยการสร้างความแตกต่างจากผู้จัดการกองทุนรายอื่นๆ ด้วยการปรับปรุงบริการที่มีอยู่เดิมและหาบริการใหม่ให้ลูกค้ามากขึ้น ปรับปรุงผลิต ภัณฑ์ให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และจะทำให้คนทั่วไปรู้จักกองทุนสำรอง เลี้ยงชีพเอไอเอ

นอกจากงานที่ต้องนำส่งรายงานสถานะกองทุนให้ลูกค้าเป็นประจำแล้วมีบริการเสริมสินเชื่อต่างๆ และให้บริการ ประกันชีวิตในบางกรณี เพื่อทำให้ผลิต ภัณฑ์ไม่เหมือนบริษัทอื่น พร้อมกับพยายามให้ลูกค้ามาใช้บริการเอไอเออย่างครบวงจร

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอไอเอ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีกองทุนเดี่ยว เป็นลูกค้ารายใหญ่และมีกองทุนรวมสำหรับลูกค้ารายเล็ก และผลิตภัณฑ์บริการฐานข้อมูลให้ลูกค้า เช่น ยอดเงิน ซึ่งกำลังพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อจะได้ให้บริการผ่านคอมพิวเตอร์ต่อไป

กองทุนเดี่ยวลูกค้าสามารถให้คำแนะนำในการลงทุนแก่กองทุนได้ ว่าลูกค้าต้องการเลือกลงทุนในสินค้าทุนอะไรบ้าง สัดส่วนเป็นเท่าไหร่ ลงทุนในหุ้นตัวไหน จากนั้นเอไอเอจะนำคำแนะนำดังกล่าวเข้ามาสู่การพิจารณาถึงความเป็นไปได้ทางกฎหมาย ซึ่งกำหนดให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยง 75% ส่วนอีก 25% สามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงแต่จะมีระดับการจำกัดความเสี่ยงไว้เช่นกัน "เช่นการลงทุนในหุ้นสามัญจะต้องทำการวิเคราะห์ และเน้นคุณภาพของบริษัทที่จะเข้าไปลงทุน อย่างไรก็ตาม กองทุนเดี่ยวแม้จะมีการบริหารแบบเอกเทศแต่จะนำเข้าสู่ระบบศูนย์กลางเพื่อใช้ต่อรองเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ลูกค้าสูงที่สุด? ภควิภากล่าว

เธอกล่าวต่อไปว่าในด้านกองทุนรวม ขณะนี้มี 3 ประเภทแยกตามลักษณะการลงทุน คือ กองทุนรวมที่ไม่ลงทุนในหุ้นสามัญ สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชอบความเสี่ยงต่ำ ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าเงินกองทุนประเภทดังกล่าว 200 ล้านบาท

กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนใน หุ้นกู้โดยไม่ลงทุนในหุ้นสามัญ เป็นลูกค้าที่เปลี่ยนผู้จัดการกองทุนรายใหม่และเลือกให้เอไอเอบริหารแทน ซึ่งปี 2542 ที่ผ่านมา มีขนาดเงินกองทุนยังเล็กประมาณ 100 ล้านบาท

สุดท้ายเป็นกองทุนรวม เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีมูลค่าเงินลงทุน 10 ล้านบาท มีนโยบาย ลงทุนในหุ้นสามัญ เพราะระยะเวลานี้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่ดี และผลตอบแทนจะต่างกัน เพื่อให้ลูกค้ามีกอง ทุนที่เหมาะกับความสามารถในการรับความเสี่ยง

แน่นอนว่าการมองเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่ใช่มีเฉพาะเอไอเอเท่านั้น ดังนั้นการแข่งขันจะส่งผลให้ผู้จัดการกองทุน ต้องเร่งปรับปรุงวิธีการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มิฉะนั้นอาจจะไม่มีพื้นที่ให้ยืนในเชิงธุรกิจก็เป็นได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us