Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 กันยายน 2550
"วิไลลักษณ์"รุกกัมพูชาผุดโรงแรมรับต่างชาติ             
 


   
search resources

Real Estate
วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์
วิไลลักษณ์อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง, บจก.




“ ตระกูลวิไลลักษณ์” บุกประเทศกัมพูชาหลังเป็นเจ้าตลาดธุรกิจโทรคมนาคม ประเดิมด้วยพิพิธภัณฑ์ อังกอร์ บนเนื้อที่กว่า 33 ไร่ พ่วงด้วยชอปปิ่งมอลล์ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท เล็งเปิดโรงแรมหรูเพิ่มรับลูกค้าต่างชาติ ด้านการลงทุนในเมืองไทยเน้น ให้น้ำหนักพัฒนาอสังหาฯที่สร้างรายได้ระยะยาว ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม ตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจอสังหาฯเพิ่มเป็น 30% ของกลุ่มในปี 51

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท วิไลลักษณ์อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท วิไลลักษณ์อินเตอร์ฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ “ตระกูลวิไลลักษณ์” กระจายการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ครอบคลุม 3 ธุรกิจหลัก คือ 1. ธุรกิจโทรคมนาคมและเทคโนโลยีการสื่อสาร โดยถือหุ้น 24% ในบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีการสื่อสารครบวงจรและมีบริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท

2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การก่อสร้างจนถึงการบริหารจัดการอาคารอย่างเต็มรูปแบบ โดยเน้นการพัฒนาโครงการฯ ขนาดใหญ่ คุณภาพสูง ปัจจุบัน มีมูลค่าการลงทุนรวมแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท

และ3. ธุรกิจอื่นๆ อาทิ ธุรกิจแฟรน์ไชน์ร้านอาหารจากต่างประเทศ (ร้าน Leefun จากประเทศสิงคโปร์) ธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายไวน์จากต่างประเทศ ล่าสุดได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์ไอร่า

“ ที่ผ่านมาการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ของบริษัทฯ ถือว่ามีอัตราการเติบโตในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีครบวงจร อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการขยายฐานการตลาดสู่ต่างประเทศ ปัจจุบันกลุ่มสามารถฯ มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท สามารถเทเลคอม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)" นายวัฒน์ชัยกล่าว

ผุดอสังหาฯแนวใหม่ที่เขมร

สำหรับธุรกิจด้านอสังหาฯ ที่บริษัทฯ ดำเนินการจะครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง จนถึงการบริหารจัดการอาคารอย่างครบวงจร โดยตั้งเป้ากำไรขั้นต้นจากการลงทุนประมาณ 20% ซึ่งปัจจุบันได้ลงทุนไปแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท โดยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาได้เข้าไปลงทุนพัฒนาอสังหาฯยังประเทศกัมพูชา หลังประสบความสำเร็จในธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งเป็นรายใหญ่ที่สุดในกัมพูชา โดยได้รับสัมปทาน“พิพิธภัณฑ์ อังกอร์” ระยะเวลา 33 ปี เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 30 ไร่กลางเมืองเสียมเรียฐ โดดเด่นด้วยการนำเสนอวัตถุโบราณและเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของชนชาติกัมพูชาในรูปแบบ Interactive ผ่านสื่อผสมที่หลากหลาย

นอกจากตัวอาคารพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังมีส่วนอาคาร Cultural Mall ซึ่งเป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการ ทั้งร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหาร และธนาคาร รวมมูลค่าการก่อสร้างกว่า 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้การลงทุนในโครงการนี้เป็นการร่วมทุนกับกลุ่มทุนของประเทศกัมพูชาโดยเช่าที่ดินเป็นเวลา 70 ปี จากรัฐบาลกัมพูชา พร้อมเปิดตัว อย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งตรงกับช่วงไฮท์ซีซั่นพอดี นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีพื้นว่างอยู่ใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์อีกประมาณ 10 ไร่ ซึ่งบริษัทฯ ยังมีแผนในการขยายงานด้วยการพัฒนาโรงแรม เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

“ การทำพิพิธภัณฑ์ ถือว่าเป็นการพัฒนาอสังหาฯ แนวใหม่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้โครงการดูโดดเด่นขึ้นมา ดึงดูดลูกค้า โดยในอนาคตอันใกล้หากพิพิธภัณฑ์ได้รับความนิยมก็จะสร้างโรงแรมหรูต่อ นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังมีที่ดินเปล่าอยู่ในกรุงพนมเปญ ติดริมแม่น้ำอีก 1 แปลง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแผนการลงทุน

ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงทุนในโครงการที่พักตากอากาศอย่างเต็มรูปแบบ โดยเริ่มต้นจาก “ภูผาธารา” โครงการที่พักริมทะเล เนื้อที่ 58 ไร่ บนหาดแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง ภายในโครงการฯ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวริมหาด ประมาณ 20 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 10-40 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม จำนวน 199 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.8-10 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 35 ยูนิต และโรงแรมระดับ 5 ดาว ประมาณ 200 ห้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเชนบริหาร

ทั้งนี้ ภายในโครงการยังประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สวนน้ำขนาดใหญ่บนพื้นที่รวมกันกว่า 8,000 ตรม. และUnderwater Aquarium ที่จำลองบรรยากาศใต้ทะเล โครงการภูผาธาราใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 2,000 ล้านบาท (รวมค่าก่อสร้างโรงแรม) ส่วนมูลค่าขายจำนวน 2,000 ล้านบาทเช่นกัน พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการกลางเดือนตุลาคมนี้

ส่วน อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ค บนถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ มีความสูง 37 ชั้น อาคารจอดรถสูง 12 ชั้น มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ สร้างรายได้ปีละกว่า100 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างคืนหนี้สถาบันการเงินคาดว่าจะหมดภายใน 3 ปี

อนึ่ง เป็นที่รับทราบกันดีว่า คนในตระกูลวิไลลักษณ์มีสายสัมพันธ์กับคนในตระกูลชินวัตร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us