|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ระเบิดศึกกล้องดิจิตอลส่งท้ายปี หลังแนวโน้มเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น จากภาวะการเมืองเริ่มมีความชัดเจน เสริมทัพด้วยอีกหลายกิจกรรมที่จะถูกจัดขึ้นปลายปี ล้วนเอื้อต่อธุรกิจ คาดทั้งปีตลาดเติบโต 10% มูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท ค่ายยักษ์งัดเกมสู้ศึก ชิงตลาดกลุ่มวัยรุ่น "ฟูจิฟิล์ม" หวังแชร์ในตลาดจาก 12% เป็น 15% สิ้นปีนี้ พร้อมขึ้นเป็นที่ 3 แทนซัมซุง อัดเม็ดเงิน 50 ล้าน ลุยเต็มที่
นายสิทธิเวช เศวตรพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดกล้องในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 900,000 ตัว หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% อย่างไรก็ตาม สำหรับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จากข้อมูลของ เจเอฟเค พบว่า ในด้านจำนวนตลาดกล้องดิจิตอลเติบโตขึ้น 8% หรือกว่า 409,314 หน่วย เทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนทางด้านมูลค่าลดลง 7% เนื่องจากราคาที่ถูกลง ขณะที่ผู้นำตลาดยังคงเป็น โซนี่ มีแชร์ 24% อันดับสองคือ แคนนอน ครองส่วนแบ่ง 18% อันดับสาม คือ ซัมซุง มีแชร์ 13% โดยทิ้งห่างฟูจิที่อยู่ในอันดับ 4 มีแชร์ 12%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดกล้องดิจิตอลจากนี้จะแข่งดุเดือดมากขึ้นเพราะว่าแต่ละค่ายล้วนมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของตัวเอง เช่น พานาโซนิค ที่ประกาศชัดว่า จะต้องนำพาลูมิกซ์เพิ่มส่วนแบ่งเป็น 15% ให้ได้ภายในปีนี้ โดยจะออก 3 รุ่นใหม่ โดยมีความโดดเด่นอยู่ที่ โหมดอัจฉริยะเป็นตัวชูโรง
ขณะที่ทางด้านค่ายแคนนอนก็อัดงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อลุยตลาดโค้งสุดท้ายของปีนี้เต็มที่ โดยใช้กลยุทธ์สปอนเซอร์งาน การแข่งขันกีฬายูลีก ด้วยงบ 20 ล้านบาท เพื่อหวังผลักดันแบรนด์อิกซัสให้เข้าในใจกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น
ทางด้านโซนี่เองก็เดินเกมการตลดาเต็มที่เพื่อหวังสกัดคู่แข่ง พร้อมกับการออกรุ่นใหม่เช่นเดียวกัน
ในส่วนของฟูจินั้น นายสิทธิเวชกล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ทางบริษัทฯเชื่อว่าจะมีโอกาสในการทำตลาดมากยิ่งขึ้น จากปัจจัยบวกที่เริ่มส่อแววให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มเห็นเด่นชัดขึ้น มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ว่าจะเริ่มดีขึ้นเช่นเดียวกัน อีกทั้งมองว่าช่วงปลายปี จะมีการจัดงานอีเว้นต์ต่างๆขึ้นหลายงาน อาทิ เช่น พิธีเฉลิมฉลององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนม์มายุครบ 80 พรรษา หรือแม้แต่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ รวมไปถึงเทศกาลคริสต์มาส และขึ้นปีใหม่ ล้วนแต่เอื้อต่อธุรกิจกล้องดิจิตอลแทบทั้งสิ้น
ดังนั้นบริษัทฯจึงได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่จำนวน 4 รุ่น ในช่วงปลายปีนี้ พร้อมงบการตลาดอีกกว่า 50 ล้านบาท เพื่อต้องการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้ที่ 15% หรืออาจ ขึ้นเป็นที่ 3 ของตลาดกล้องดิจิตอล ทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง ซัมซุง ได้อย่างชัดเจน หลังจากที่ขับเคี่ยวชิงตำแหน่งนี้กันมาหลายปี
ทางบริษัทฯได้มุ่งเน้นที่จะทำตลาดแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้น ผ่านกล้องดิจิตอล ทั้ง 4 รุ่น คือ 1.รุ่น FinePix Z10 fd จับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นโดยเฉพาะ 2.รุ่น FinePix Z100 fd เป็นกล้องในตระกูล Z-series จับกลุ่มเป้าหมาย จับกลุ่มคนหนุ่มสาววัยทำงาน 3.รุ่น FinePix S8000 fd กล้องในตระกูล S-series จับกลุ่มระดับพรีเมี่ยม เน้นการถ่ายภาพได้เสมือนจริง และ4.รุ่น FinePix F50 fd จับกลุ่มเป้าหมายคนรักการถ่ายภาพอย่างแท้จริง เพราะรวมเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดมาใส่ไว้ในรุ่นนี้
นายสิทธิเวชกล่าวต่อว่า ทั้งนี้บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับกลุ่มวัยรุ่นมากที่สุด เพราะจากการที่บริษัทแม่ ได้ทำการสำรวจไปทั่วโลก พบว่า กลุ่มลูกค้าที่จะมีการซื้อกล้องดิจิตอลมากที่สุดในอนาคต คือ กลุ่มวัยรุ่น ดังนั้นงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท ที่จะใช้ในช่วง 4 เดือนหลังนี้ บริษัทฯจะมุ่งเน้นทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก จากงบการตลาดตลอดทั้งปี 120ล้านบาท ใช้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20%
|
|
|
|
|