|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอ็ม-150 ข่มขวัญ ไทยเบฟฯ ซื้อแรงเยอร์ระเบิดศึกตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง 2 หมื่นล้านบาท ชูมัลติแบรนด์คลุมผู้ใช้แรงงานทุกกลุ่มทุกพื้นที่ ไม่หวั่นกลยุทธ์ขายพ่วง มั่นใจดิสทริบิวชั่นแกร่งยึดร้านตู้แช่ 90% อัดฉีด 100 ล้านบาท ชูมิวสิกมาร์เก็ตติง 6 ปีซ้อน ปีหน้าปรับแพกเกจจิ้ง ขยายกำลังผลิต รับศึก
นายธัชรินทร์ โอสถานุเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังเอ็ม-150 เปิดเผยว่า จากการที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ในวงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้เจรจาซื้อโรงงานผลิตเครื่องดื่มชูกำลังภายใต้แบรนด์ “แรงเยอร์” จากตระกูลเวศย์วรุฒม์ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ในฐานะที่บริษัทโอสถสภาเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง โดยเอ็ม -150 ครองส่วนแบ่ง 55-56% จากมูลค่าตลาดเกือบ 2 หมื่นล้านบาท de]y’จับตามองว่าหลังจากมีการซื้อกิจการแล้วไทยเบฟฯจะใช้กลยุทธ์อย่างไร
“แม้ว่าค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำเมาจะเข้าสู่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง และที่ผ่านมาค่ายดังกล่าวมีการใช้กลยุทธ์ขายพ่วงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่บริษัทไม่ได้กลัวว่าค่ายดังกล่าว จะนำกลยุทธ์การขายพ่วงมาใช้ เพราะเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกัน อีกทั้งที่ผ่านมา ถือว่ากลุ่มผู้ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง เป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ค่อนข้างสูง”
แผนการตลาดเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำ บริษัทจะชูกลยุทธ์มัลติแบรนด์ จากการมีเครื่องดื่มชูกำลังครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ ประกอบด้วย เอ็ม-150 เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ยี่ห้อฉลามแข็งแกร่งทางภาคใต้ มีแชร์ 10% ส่วนลิโพ วางราคา 12 บาท สูงกว่าแบรนด์อื่น 2 บาท เจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง มีส่วนแบ่งกว่า 10% ส่วนเอ็มแม็กซ์ เจาะคนรุ่นใหม่อายุ 20-29 ปี มียอดขาย 70-80 ล้านกระป๋องต่อเดือน ขณะที่ชาร์ก เจาะตลาดต่างประเทศ เป็นหลัก
อีกทั้งบริษัทยังมีความแข็งแกร่งด้านการกระจายสินค้าครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งร้านค้า ตู้แช่ ฯลฯ ร่วม 90% รวมถึงการใช้กลยุทธ์มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ส่งผลให้บริษัทฯมีส่วนแบ่งเพิ่มจากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จาก 40% เป็น 50% รวมทั้งยังช่วยขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่อายุ 20 ปีเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มเป้าหมายหลักยังคงเป็นผู้ใช้แรงงานอายุ 30 ปีขึ้นไป สำหรับกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งบริษัทได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว ด้วยการทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท จัดคอนเสิร์ตปีนี้ร่วม 100 ครั้งต่อปี
ล่าสุดใช้งบ 20 ล้านบาท จัดงาน “ M-150 GBOB 2007” ปีที่ 3 เวทีค้นหาวงดนตรีไปชิงแชมป์เวทีโลกในวันที่ 4-6 ธันวาคม นี้ ที่ ประเทศอังกฤษ ส่วนปีหน้านำนักร้องหญิงดา-เอ็นโดฟีนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และในช่วงปลายปีหน้านี้บริษัทจะปรับปรุงบรรจุภัณฑ์เอ็ม-150 ใหม่ เพื่อให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยังได้ลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังการผลิตเพิ่มอีก 25% เพื่อรองรับการเติบโตของเอ็ม-150 จากเดิมโรงงานเก่าอยู่ที่หัวหมาก ทำให้มีปัญหาด้านจราจร
แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ภาวะตลาดไม่ได้ขยายตัวมากโดยเติบโตปีละ 2-5% เท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากที่บริษัทไทยเบฟฯเข้าซื้อกิจการแรงเยอร์ คาดว่าตลาดจะมีการแข่งขันรุนแรง และมีผลทำให้ตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมีการแข่งขันในเรื่องการทำคอนซูเมอร์โปรโมชันรุนแรง โดยเฉพาะเครื่องดื่มคาราบาวแดง สำหรับปีนี้เอ็ม-150 ได้ทำคอนซูเมอร์โปรโมชันเป็นปีแรก ทั้งนี้คาดว่าสิ้นปีบริษัทจะรักษาความเป็นผู้นำตลาด ด้วยการครองส่วนแบ่ง 55% จากมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนกระทิงแดง ส่วนแบ่งกว่า 10% และคาราบาวแดง กว่า 10%
|
|
|
|
|