Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2535
"สง่า กุลกอบเกียรติ ที่ปรึกษาซีพีผู้สร้างวิหารเซียน"             
 


   
search resources

วิหารเซียน
สง่า กุลกอบเกียรติ




"พัทยาเป็นเมืองโลกียชน การสร้างวัดวาอารามและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาก็เพื่อชำระล้างจิตใจให้สะอาดสดใสขึ้น และเพื่อเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างประเทศได้เห็นถึงความดีงามต่าง ๆ" สง่า กุลกอบเกรียติที่ใคร ๆ พากันนับถือเรียกขานว่า "อาจารย์สง่า" รำพึงถึงแนวความคิดที่ได้สร้าง "วิหารเซียน" ขึ้นมาที่พัทยากลาง

ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ อาจารย์สง่าได้รับพระราชทานที่ดินจำนวน 7 ไร่ ในปี 2530 บริเวณติดกับวัดญานสังวราราม ซึ่งเป็นวัดในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สถานที่ตั้งแห่ง "วิหารเซียน" นับว่าถูกหลักแห่งศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องฮวงจุ้ย คือเบื้องหน้าเป็นบึงน้ำใหญ่ เบื้องหลังคือภูผาสูงใหญ่ เมื่อดูจากระยะไกล วิหารเซียนจะตั้งอยู่กลางภูเขา

"ที่ดินบริเวณนี้ 7 ไร่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานให้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และเมื่อสร้างวิหารเซียนเสร็จปลายปีนี้ก็จะถวายเป็นพระราชกุศลในพระองค์ด้วย ตอนนี้งานยังเสร็จไม่สมบูรณ์เพียง 70-80%" อาจารย์สง่าเล่าให้ฟังด้วยสำเนียงจีน

เพียงก้าวแรกที่ย่างเท้าสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ตระการตาแห่งวิหารเซียน ก็ก่อให้เกิดความรู้สึกมหัศจรรย์ ถึงความวิจิตรพิศดารที่น่าชม และแต่ละสิ่งนับว่าเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายในเชิงความรุ่งเรืองดีงาม นับตั้งแต่หน้าประตูซี่งมีสิงโตจีนขนาดใหญ่ ซึ่งมีความหมายถึงอำนาจเคียงคู่กับเต่ายักษ์ที่มีความหมายของความเป็นหนุ่มสาวกับความมีอายุยืนยาว พ้นจากนั้นเมื่อเดินเข้าสู่ลานซีเมนต์กว้าง ที่ประดับประดาด้วยต้นบอนไซเรียงราย สลับด้วยตุ๊กตาหินกุมารจีนขนาด 2 เมตรในอิริยาบถต่าง ๆ น่าเอ็นดู

แต่สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้น เมื่อก้าวล่วงเข้าไปในวิหารเซียนที่เน้นสัญลักษณ์มังกรในทุกหนแห่ง คือความโอ่โถงและวิจิตรพิศดารของผนังแต่ละด้าน ผนังขนาดยักษ์ด้านแรก คือพญามังกรที่สลักเสลาด้วยไม้และปูนปั้นดุจราวมีชีวิต เสาขนาดใหญ่สีแดงที่พันด้วยมังกรแต่ละต้นสูงแหงน คอตั้งบ่าที่ค้ำวิหารเซียนไว้ เมื่อเดินลึกเข้าไปจะพบผนังหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่สลักลวดลายตำนานแห่งพระโพธิสัตว์อย่างสวยงาม

ใกล้ ๆ กับหน้าต่างประจกที่สลักเสลาลายวิจิตร แสงแดดได้สาดส่องที่ผนังให้เห็นภาพวาดสีน้ำขนาดใหญ่เท่าตัวจริงของอาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติในลักษณะของผู้ทรงศีลที่นุ่งขาวห่มขาว ลูกประคำคล้องคออยู่ โดยมีฉากหลังเป็นงาช้างคู่พร้อมกับกระถางลายคราม ถัดมาที่ผนังอีกด้านคือรูปลูกชายอาจารย์สง่า "วินัย กุลกอบเกียรติ" ในท่ายืนตรงสวมชุดพระราชทาน ผนังด้านตรงข้ามรูปวาดอาจารย์สง่า เป็นภาพวาดขนาดใหญ่ในสมเด็จพระสังฆราช

เมื่อเดินขึ้นไปชั้นสองของวิหาร ก็ต้องตกตะลึงกับรูปปั้นสูงใหญ่ขนาด 9 เมตร เป็นรูปเซียนองค์สีดำดังนิล หันหน้าไปทางเบื้องทิศตะวันออก ในมือถืออาวุธ เบื้องหลังเป็นผนังสีแดงแจ้ด เพดานเบื้องบนเป็นรูปหยิน-หยางซึ่งชาวจีนเชื่อว่า หยินและหยางเป็นพลังที่เสริมซึ่งกันและกัน โดยจะดำรงอยู่ในทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ส่วนผนังขนาดใหญ่ก็สลักเสลาอย่างเด่นแปลกตาด้วยลักษณะนูนออกมาเป็นภาพสามมิติ มิใช่ภาพวาดแบนราบเหมือนที่อื่น ๆ

ชั้นสามของวิหารเซียนเป็นที่สถิตแห่งพระพุทธรูปองค์ทองอร่าม เมื่อเดินออกมายังเฉลียงกว้างใหญ่ เพื่อชมวิวทิวทัศน์ในที่สูงโดยรอบ มีทัศนียภาพเงียบสงบ

เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาที่วิหารเซียนอันมีมูลค่านับพันล้านบาทนี้ ได้กลายเป็นศูนย์รวมของการบริจาคจากบรรดามหาเศรษฐีเมืองไทย และต่างประเทศผู้ศรัทธาในอาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ ซินแสชาวจีนที่แปลงสัญชาติเป็นไทยไปแล้ว

"ผมไม่ค่อยอยากให้สัมภาษณ์และผู้บริจาคก็ไม่อยากเปิดเผยชื่อ เพราะอาจจะทำให้คนอื่นที่ไม่เข้าใจพาลหมั่นไส้ได้ เหมือนคำโบราณที่ว่าต้นไม้ใหญ่มีสิทธิล้ม แต่เท่าที่ได้รับบริจาคมาก็นับหลายร้อยล้านบาท อย่างตุ๊กตาจีนที่เห็นประดับบริเวณลานกว้างหน้าวิหาร ก็ได้รับมาจากรัฐบาลประเทศจีนและไต้หวัน ซึ่งเขาจะทยอยส่งสิ่งของต่าง ๆ มาให้อีกนับจำนวนถึง 300 ชิ้น บางชิ้นมีค่ามากในแง่โบราณวัตถุซึ่งได้มาจากสุสานของฮ่องเต้ในแผ่นดินใหญ่ เขาก็จะบริจาคให้เราไว้บูชา" อาจารย์สง่าเอ่ยถึงการตกแต่งวิหารเซียนให้สมบูรณ์

ทุก ๆ อาทิตย์ อาจารย์สง่าพร้อมกับบุตรชาย วินัย กุลกอบเกียรติ จะเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปตรวจงานที่วิหารเซียนพัทยา และบางคราวก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อตรวจความเรียบร้อยก่อนที่สิ่งของชิ้นใหญ่ที่จะนำมาประดับประดาบริเวณวิหารเซียน

ความศรัทธาต่ออาจารย์สง่าที่บรรดานักธุรกิจให้ความเชื่อถือ ถึงขนาดผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือ "ซีพี" เชิญให้เป็นที่ปรึกษาด้านฮวงจุ้ยกับธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่หรือแตกแขนงเติบโต เป็นเพราะความเป็นนักภูมิพยากรณ์ของอาจารย์สง่า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาหรือทำการตกลงทางธุรกิจ เพราะเรื่องของฮวงจุ้ยสำหรับธุรกิจ คือ การหาทำเลที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างอันถูกโฉลกฮวงจุ้ย หมายถึงการหา "มังกร" ที่แท้จริง (มังกรคือถนนใหญ่นั่นเอง)

ตามพื้นฐานทั่วไป นักดูฮวงจุ้ยเกือบทุกคนที่จะเอื้ออำนวยความสำเร็จแห่งโชคลาภที่นำความรุ่งเรืองมาสู่ธุรกิจอยู่สี่ประการคือ หนึ่ง-ทิศของสิ่งก่อสร้างซึ่งสัมพันธ์กับปัจจัยแวดล้อม สอง-ทิศของประตูใหญ่ของสิ่งก่อสร้างที่สัมพันธ์กับดวงดาวแห่งชะตาชีวิต เจ้าของ หรือเรียกว่าถูกกฎเกณฑ์ของอี้จิง สาม-ขึ้นอยู่กับ "โชค" หรือ "หยุน" ของเจ้าของไม่ว่าจะเป็นรายเดียวหรือหลายรายก็ตาม สี่-คุณธรรมของผู้เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นรายเดียวหรือหลายรายก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ

ในประเทศไทย นักภูมิพยากรณ์ที่ทำงานอยู่เงียบ ๆ ดังเช่นอาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ ซินแสจีนวัย 69 ปีผู้นี้คงจะมีอยู่ไม่มากนัก แต่ศรัทธาที่แปรรูปออกมาเป็น "วิหารเซียน" มูลค่านับพันล้านนี้ได้บ่งบอกถึงบารมีแห่งคุณงามความดีทั้งมวล!!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us