Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 กันยายน 2550
บิ๊กAPชี้กำลังซื้อซิตี้คอนโดฯเริ่มแผ่ว             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

   
search resources

เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.
อนุพงษ์ อัศวโภคิน
Real Estate




"อนุพงษ์ อัศวโภคิน" ชี้สัญญาณเชิงลบตลาดซิตี้คอนโดฯ ลากยาวถึงปี 51 เหตุผู้บริโภคมีโอกาสชอปสินค้าใหม่ที่ทะลักออกสู่ตลาด กลุ่มนักเก็งกำไรเริ่มตัวบวม คนซื้อมีเวลาตัดสินใจ รอห้องชุดสร้างเสร็จก่อนคิดซื้ออีกครั้ง อาจกดดันนักเก็งกำไรโอนห้องชุดก่อนขาย ยอมรับอนาคตบริษัทอสังหาฯรายใหญ่คุมกลไกตลาด 80% ระบุแผนลงทุนปี 51 เล็งผุดโครงการใหม่อย่างน้อย 7 โครงการ ลั่นปีหน้ายอดรับรู้รายได้กว่า 7,700 ล้านบาท

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (AP) เปิดเผยถึงสัญญาณของตลาดซิตี้คอนโดว่า ปัจจุบันอัตราเติบโตของยอดขายเริ่มมีแนวโน้มช้าลง เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มชะลอการตัดสินใจซื้อ เพื่อรอดูภาวะตลาด ขณะที่ผู้ประกอบการมีการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีโอกาสในการเลือกสินค้ามากขึ้น ในขณะที่แนวโน้มของกลุ่มนักเก็งกำไรในตลาดซิตี้คอนโดเริ่มลดลง ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการเปิดเพิ่มโครงการใหม่จำนวนมาก

"พฤติกรรมการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเองยังชะลอออกไป ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์10-15% ก่อนที่จะเห็นอาคารชุด แต่จะรอให้โครงการก่อสร้างใกล้เสร็จก่อนจึงตัดสินใจซื้ออีกครั้งหนึ่ง ส่วนกลุ่มนักเก็งกำไรที่เริ่มมีจำนวนลดลง เพราะการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ยืดออกไป และชะลอดูโครงการอื่นๆ ทำให้นักเก็งกำไรไม่สามารถถือสัญญาซื้อได้ระยะยาวเนื่องจากต้องรับภาระในการจ่ายเงินดาวน์ และมีโอกาสที่จะต้องรับโอนห้องชุดก่อนจึงจะสามา รถขายต่อได้" นายอนุพงษ์ กล่าวให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และยืนยันว่า

แม้จะมีโครงการคอนโดฯเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่ไม่ได้ส่งผลให้ตลาดโดยรวมเกิดสินค้าล้นตลาด(โอเวอร์ซัปพลาย) ยกเว้นในบางทำเลที่มีแนวโน้มโอเวอร์ซัปพลาย โดยเฉพาะทำเลที่มีการพัฒนาโครงการระดับเดียวกันจำนวนมาก โดยโครงการคอนโดฯส่วนใหญ่ที่ยังสามารถระบายออกได้ คือ โครงการที่ติดระบบรถไฟฟ้า กำหนดราคาขายที่เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้า และสามารถตอบสนองวิถีชีวิตประจำของลูกค้าได้

" ตนคิดว่า โครงการที่เกิดใหม่และมีระดับราคาเดียวกันกับซิตี้คอนโด มักจะถูกนับรวมว่าเป็นโครงการซิตี้คอนโด แต่ความจริงแล้ว ไม่ได้ถือว่าอยู่ในตลาดเดียวกัน เพราะการพัฒนาโครงการใหม่ที่เกิดขึ้นนั้น จะเป็นโครงการซิตี้คอนโดหรือไม่ต้องมีปัจจัยหลายอย่าง อาทิ อยู่ในเมืองใกล้ระบบรถไฟฟ้า ราคาระดับ1-2 ล้านบาท รูปแบบโครงการต้องเหมาะสมและตอบรับกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ "

ก่อนหน้านี้ บริษัทเอเจนซี่ ฟอร์ เรียล เอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือ AREA ระบุถึงผลการสำรวจโครงการอสังหาฯในช่วง 8 เดือนแรกของปี 50 ว่า มีที่อยู่อาศัยเปิดตัวจำนวน 40,684 หน่วย มูลค่าประมาณ 88,780 ล้านบาท โดยโครงการคอนโดมิเนียม มีจำนวน 24,227 หน่วย ซึ่งระดับราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท มีการเปิดตัวมากที่สุดถึง 10,143 หน่วย รองลงมาจะเป็นระดับ 5 แสนบาทแต่ไม่ถึง 1 ล้านบาทประมาณ 6,917 หน่วย

บริษัทอสังหาฯรายใหญ่คุมตลาด

นายอนุพงษ์ กล่าวยอมรับว่า ตลาดอสังหาฯจะอยู่ในภาวะที่ทรงตัวต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี 2551 แม้ในขณะนี้ จะมีความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้ง แต่กว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสามารถเริ่มบริหารประเทศได้อย่างลงตัว น่าจะเป็นช่วงกลางปีหรือปลายปี2551 ถึงตอนนั้น ความเชื่อมั่นต่างๆ จะเริ่มกลับมา รวมถึงหน่วยงานต่างๆจะทยอยเบิกงบประมาณประจำปี 2551 ในการลงทุนในโครงการต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ในด้านของทิศทางตลาดอสังหาฯ กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ จะมีส่วนแบ่งตลาดสูงเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับตลาดที่มีความสมบูรณ์และมีความมั่นคงแล้ว โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดประมาณ 20% จะครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 80% ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งมีอยู่ประมาณ 80% จะมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 20%

" การที่ตลาดจะมีเสถียรภาพมีความแข็งแกร่งนั้น จะต้องเป็นตลาดที่มีคุณภาพ นั่นคือ ผู้ประกอบการรายใหญ่จะพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด ทำให้รายเล็กเข้ามาเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ยากขึ้น ต่างจากปัจจุบัน ที่ผู้ประกอบการรายเล็ก ยังสามารถเข้ามาแชร์ตลาดกับรายใหญ่ได้ง่ายอยู่ เนื่องจากต้นทุนด้านการก่อสร้างและการทำตราสินค้า หรือ แบรนด์ยังต่ำอยู่ "นายอนุพงษ์ กล่าวให้เห็นสินค้าที่จะมีระดับราคาที่แตกต่างกัน

APลุยเปิดอีก 7 โครงการใหม่

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2551 นายอนุพงษ์กล่าวว่า จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอย่างต่ำ 7 โครงการ ซึ่งขณะนี้ได้จัดหาที่ดินรอการพัฒนาโครงการมาแล้ว 20 ไร่ คาดว่าต้องใช้งบประมาณในการซื้อที่ดินในปีนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งได้ใช้งบในการซื้อที่ดินไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท

ขณะที่โครงการใหม่ในปีนี้ ทางบริษัทได้เปิดโครงการคอนโดฯใหม่เพิ่มอีก3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ Life @ สุขุมวิท , โครงการ Life @ รัชดา-ห้วยขวาง และ โครงการ Life @ พหล 18 รวม 1,209 ยูนิต รวมมูลค่าขายประมาณ 2,840 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มของผลการดำเนินงานในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ สามารถสร้างยอดขายคอนโดฯเฉพาะแบรนด์ Life แล้ว 1,300 ยูนิต มูลค่าประมาณ 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ เป้าหมายรวมของยอดรับรู้รายได้ปีนี้ 7,000 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายโครงการเดิมที่สะสมจนถึงปัจจุบันมีประมาณ 13,000-14,000 ล้านบาท และจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 4,000 ล้านบาทและต่อเนื่องในปี 2551-2552 ส่วนยอดรับรู้รายได้อีกประมาณ 3,000 ล้านบาท จะมาจากยอดขายโครงการที่เปิดขายในปีนี้ สำหรับในปี 2551 ได้ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ไว้ที่ 7,700 ล้านบาท มาจากโครงการแนวราบ 60-70% ที่เหลือมาจากโครงการแนวสูง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us