Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 กันยายน 2550
แมกโนเลียฯเล็งบุกตลาดนอก             
 


   
search resources

Real Estate
แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น, บจก.




แมกโนเลียฯธุรกิจในเครือญาติเจ้าสัวซีพี วางเป้า 2-3 ปีขยายการลงทุนสู่ตลาดต่างประเทศ เล็งเป้าไว้ 3-4 ประเทศ เป้าหมายแรก เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่กำลังปรับโฉมหน้าของประเทศ ผุดโครงการอสังหาฯขนาดใหญ่ จีนอันดับรอง เวียดนาม และอินเดีย

นาย วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(MQDC) ในเครือ ดีที กรุ๊ป ผู้พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ “แมกโนเลียส์” และคอนโดมิเนียม แบรนด์ “The Muse”เปิดเผยถึงทิศทางการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในระยะ 2-3 ปี ว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดไปสู่การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของบริษัทและยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในการพัฒนาโครงการด้วย

โดยขณะนี้ได้เล็งการลงทุนใน 3-4 ประเทศคือ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์,จีน, เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลทางการตลาดและข้อกฎหมายของแต่ละประเทศอยู่ ประกอบกับทุกประเทศดังกล่าวข้างต้น ล้วนมีนักผู้ประกอบการรายใหญ่จากหลากหลายประเทศเข้าไปลงทุนแล้วมากมาย ดังนั้น การที่บริษัทจะเข้าสู่ตลาดในต่างประเทศ ซึ่งมีคู่แข่งขันระดับโลกแล้ว ทางบริษัทต้องทำการศึกษาให้ละเอียดรอบคอบว่า จะสามารถเข้าไปจับกลุ่มเป้าหมายในตลาดระดับใดได้บ้าง ซึ่งคงขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสด้วย

“ปัจจุบันสถานการณ์ทางด้านการเมืองในประเทศไทยยังไม่ดีขึ้น จึงต้องมองช่องทางการลงทุนในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงด้วย แต่ในอนาคตเชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆน่าจะดีขึ้น”นายวิสิษฐ์ กล่าว

นายวิสิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศที่บริษัทให้ความสนใจเข้าไปลงทุนเป็นลำดับแรกคือ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งหากนับย้อนไป 5 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีอัตราการเติบโตสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก เพราะมีการก่อสร้างโครงการใหม่ๆมากมาย ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย,โรงแรม,ศูนย์การค้า ฯลฯ ที่ล้วนหรูหราทันสมัยกว่าประเทศไทยมาก แต่ละโครงการล้วนพัฒนาระดับตั้งแต่ 5-7 ดาวขึ้นไปทั้งสิ้น และแนวโน้มยังไปได้ดีอย่างต่อเนื่อง

ส่วนประเทศที่ให้ความสนใจเข้าไปลงทุนรองลงมาคือ จีน โดยเมืองที่บริษัทให้ความสนใจไปลงทุนคือ เซี่ยงไฮ้,ปักกิ่ง และกวางเจา หรือจะเป็นเมืองรอบนอกที่มีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งปัจจุบันได้มีบริษัท ดีแพลน เซี่ยงไฮ้ จำกัด เข้าไปบริหารงานก่อสร้าง ให้แก่ห้างเทสโก้ โลตัส ในประเทศจีนรวมกว่า 50 สาขา จากทั้งหมดกว่า 70 สาขาในปัจจุบัน ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยเป็นฐานในการต่อยอดทางธุรกิจให้แก่บริษัทในการเข้าไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น

ด้านตลาดในประเทศเวียดนาม ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เข้าไปลงทุนนั้น ทางบริษัทแมกโนเลียฯ พิจารณาและให้ความสนใจตลาดในเมืองโฮจิมินห์ ส่วนอินเดียวนั้นก็อยู่ในความสนใจเช่นกัน ส่วนจะเป็นเมืองไหนนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ทั้งนี้ หากเข้าไปลงทุนในต่างประเทศคงเข้าไปในนามของ MQDC หรืออาจจะเป็นบริษัท ดีแพลน เซี่ยงไฮ้ จำกัด มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นตลาดระดับกลาง-บน ซึ่งรายละเอียดต่างๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ อนึ่ง สำหรับกลุ่ม บริษัท ดีที กรุ๊ป ถือเป็นธุรกิจในตระกูลของนายธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งบริษัท ดีที กรุ๊ปฯ จะมีนางสาวทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ เป็นประธานบริหาร ลูกสาวคนเล็ก ถือหุ้นอยู่ 60%โดยโครงสร้างการทำธุรกิจของกลุ่ม จะให้บริการธุรกิจใน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย ดีที แลนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทพัฒนาด้านอสังหาฯ และการก่อสร้าง มีบริษัทย่อย 4 บริษัท คือ บริษัท แมกโนเลีย คอวลิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ฯธุรกิจหลักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ,บริษัท ดี แพลนส์ จำกัด ธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้างอาคาร, บริษัท ดีไอ ดีไซน์ จำกัด ธุรกิจออกแบบตกแต่งภายใน สถาปัตยกรรมก่อสร้าง และบริษัท ดีเพ็ก จำกัด เน้นรับงานรับเหมาก่อสร้างทุกระดับ

ส่วนกลุ่มที่2 คือกลุ่ม ดีที โกลบอล แบ่งออกเป็นมี3บริษัทย่อย ประกอบธุรกิจด้าน สินค้านำเข้าและส่งออก สำหรับกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่ม ดีที ซิเต็มส์ แอนด์ โพรเคสส์ ดำเนินธุรกิจด้านบริหารจัดการและสนับสนุนงานด้านต่างๆ ของกลุ่มบริษัท ดีที กรุ๊ป

ทั้งนี้ ทางกลุ่มดีทีฯตั้งเป้าในปี 2550 จะมีรายได้ที่ 2,500ล้านบาท จากที่ในปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 800ล้านบาท โดยรายได้กว่า 70% จะมาจากกลุ่มบริษัท แมกโนเลีย ฯ และจะมาจากกลุ่มงานรับเหมาก่อสร้างอีก 800ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากลุ่ม ดีทีโกล บอล   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us