Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน5 กันยายน 2550
ธ.ออมสินดอดถือTDEXสูงสุดเคจีไอมั่นใจเทรดวันแรกคึกคัก             
 


   
search resources

Stock Exchange




นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ เข้าซื้อขายในหมวดธุรกิจหน่วยลงทุน ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2550 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "TDEX" ซึ่งจากการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปและผู้ร่วมค้าหน่วยที่ผ่านมา พบมีผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 ส.ค. 2550 จำนวน 778 ราย คิดเป็น 178 ล้านหน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 5.68 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 1,011 ล้านบาท

"อิควิตี้ อีทีเอฟ ที่เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกและมีเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากอิควิตี้ อีทีเอฟที่จะเข้าซื้อขายนี้ จะกระจายการลงทุนในหุ้น 50 ตัวในดัชนี เซ็ท 50 ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมหุ้น 50 ตัวที่มีมูลค่าตามราคาตลาดและมีสภาพคล่องสูง ซึ่งในอนาคตการออกอิควิตี้อีทีเอฟ จะมีการอ้างอิงกับดัชนีอื่นๆ หรือสินค้าอ้างอิงอื่นๆ มากขึ้น และสนับสนุนให้ตลาดทุนไทยพัฒนาไปสู่การเป็นตลาดทุนที่มีสินค้าหลากหลาย และครบวงจร ต่อไป"นางภัทรียากล่าว

จากข้อมูลนักลงทุนที่ลงทุนกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟหรือ TDEX ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ 10 อันดับแรก ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2550 ประกอบด้วย อันดับ1 ธนาคารออมสินจำนวน 52.76 ล้านหน่วย หรือคิดเป็น 29.64% มูลค่า 299.69 ล้านบาท อันดับ 2 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI 46.18 ล้านหน่วย คิดเป็น 25.95% มูลค่า 262.34 ล้านบาท อันดับ 3 ตลาดหลักทรัพย์ฯ 17.58 ล้านหน่วย หรือ 9.88% มูลค่า 99.89 ล้านบาท อันดับ 4 สำนักงานประกันสังคม 17.58 ล้านหน่วย หรือ 9.88% มูลค่า 99.89 ล้านบาท อันดับ 5 บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด 4.13 ล้านหน่วย หรือ 2.32% มูลค่า 23.47 ล้านบาท

อันดับ 6 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 3.51 ล้านหน่วย หรือ 1.98% มูลค่า 19.97 ล้านบาท อันดับ 7 บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด 2.63 ล้านหน่วย หรือ 1.48% มูลค่า 14.98 ล้านบาท อันดับ 8 นายสัจจา ตรีวานิช 1.75 ล้านหน่วย หรือ 0.99% มูลค่า 9.98 ล้านบาทอันดับ9 น.ส.พรเพ็ญ เดชวิไลศรี 1.75 ล้านหน่วย หรือ 0.99% มูลค่า 9.98 ล้านบาท อันดับ 10 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) 879,300หน่วย หรือ 0.49% มูลค่า 4.99 ล้านบาท

นางนฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บล. เคจีไอ ในฐานะทุนผ่านผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนและผู้ดูแลสภาพคล่อง (มาร์เกตเมคเกอร์) กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ หรือ TDEX กล่าวถึงTDEX ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 6 กันยายนนี้ ว่า บริษัทเชื่อว่า TDEX จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาซื้อขายจำนวนมาก เพราะขณะนี้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยที่ยังไม่ได้เข้าลงทุน

"หลังจากที่ได้ปิดจองซื้อ TDEX ซึ่งมียอดจองซื้อจำนวน 1,011 ล้านบาท ถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ และเชื่อว่าจะมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต โดยขณะนี้มีนักลงทุนสถาบันที่ได้จองซื้อไปแล้วและต้องการที่จะซื้อเพิ่มได้ติดต่อมายังบล.เคจีไอ เพราะมองว่าที่จองซื้อไปน้อยเกินไป"นางนฤมล กล่าว

ทั้งนี้ บล.เคจีไอ ได้มีการจองซื้อจำนวน 46.18 ล้านหน่วย หรือ 25% โดยใช้เงินจากพอร์ตการลงทุนของบริษัทเข้าไปซื้อ ซึ่งบริษัทมีนโยบายที่จะลงทุนในระยะยาว โดยบริษัทมองว่าการเข้ามาซื้อครั้งนี้ต่ำเกินไป และมีแผนที่จะเข้ามาซื้อในตลาดอีก โดยบริษัทมีมูลค่า พอร์ตการลงทุนรองรับการเข้ามาลงซื้อหุ้นใน TDEX ได้ถึง 1,000 ล้านบาท โดยการที่บริษัทจะเข้ามาซื้อTDEXเพิ่มอีก เนื่องจากบริษัทเป็นมาร์เกตเมคเกอร์ดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องมีหน่วยลงทุนที่เพียงพอรองรับการซื้อขายของนักลงทุนที่เข้ามาลงทุน เพื่อที่จะทำให้กองทุนดังกล่าวมีสภาพคล่องที่ดี

นางนฤมล กล่าวว่า กรณีที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ไม่ยกเว้นมาตรการกันเงินสำรอง 30% ของนักลงทุนต่างชาติในการเข้ามาลงทุน TDEX ถือเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในช่วงที่ราคาไม่สูง ซึ่งการที่ธปท.ไม่ยกเว้นให้เพราะกังวลว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนนี้จำนวนมาก จึงกังวลว่าจำทำให้ค่าเงินบาทมีการแข็งค่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าในอนาคตทางธปท.จะมีการผ่อนเกณฑ์ 30% ให้กับ TDEX แน่นอน จึงเป็นจังหวะที่ดีของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนก่อนที่ต่างประเทศจะเข้ามาซื้อ

ธปท.เตรียมพิจารณาผ่อนเกณฑ์30%

นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อสายตลาดเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ขอผ่อนผันการกันสำรอง 30% สำหรับเงินลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ จากก่อนหน้านี้ ธปท.ได้แจ้งไปแล้วว่าไม่ผ่อนผันให้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางตลาดหลักทรัพย์ฯได้ยื่นเรื่องขอผ่อนผันกลับมาให้ธปท.พิจารณาอีกครั้ง ดังนั้น ธปท.จะมีการหารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯและก.ล.ต. อีกครั้ง เพื่อทำความเข้าใจในนิยามให้ตรงกันก่อน

"ธปท.อาจจะพิจารณาอีกครั้ง และทำความเข้าใจระหว่างนิยามของคำว่าหุ้นกับกองทุนอย่างเช่น คำนิยามของ เอ็นดีวีอาร์ที่มีการตีความหมายแล้วถือว่าเป็นตราสารหนี้ประเภทหนึ่ง" นายสุชาติ กล่าว

ดัชนีหุ้นร่วงตามตลาดภูมิภาค

ด้านภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (4 ก.ย.50) ดัชนีปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาด และเคลื่อนไหวในแดนลบต่อเนื่องตลอดวัน ก่อนที่จะลดลงมาปิดที่ 810.86 จุด ลดลง 9.33 จุด หรือ 1.14% มูลค่าการซื้อขาย 14,403.76 ล้านบาท โดยดัชนีมีจุดสูงสุดที่ 818.43 จุด และมีจุดต่ำสุดที่ 810.37 จุด มีนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 71.36 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 603.14 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 531.78 ล้านบาท

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นภูมิภาค และมีแรงเทขายออกมาในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรง รวมทั้งหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ภายหลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่าธนาคารพาณิชย์ที่มีการลงทุนในตราสารที่มีหนี้เป็นหลักประกัน (CDO) จะต้องมีการบันทึกบัญชีให้เหมาะสม

นางสาวจิตติมา อังวสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายที่ปรึกษาการลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ จำกัด กล่าวว่าในระยะสั้นดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาที่จะปรับตัวลดลงหลุดแนวรับทางเทคนิคที่ระดับ 800 จุด ได้ เนื่องจากปัจจุบันดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งหากตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลดลงแรงจะทำให้มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us