ปุ้มปุ้ย เร่งสร้างภาพลักษณ์อาหารกระป๋องสำเร็จรูป ย้ำต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ เพิ่มเมนูหลากหลายล่อใจแม่บ้านสมัยใหม่ ครึ่งปีหลังขยายช่องทางเทรดิชันนัลเทรดเต็มสูบ ยันไม่ชะลอส่งออก แม้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกรงคู่แข่งแย่งพื้นที่ สิ้นปีตั้งเป้ารายได้โต 15% เข้าเป้า

นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายปลากระป๋องตราปุ้มปุ้ย เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า จากแนวโน้มอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปหรือพร้อมทานที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดอาหารกระป๋องสำเร็จรูปพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย เนื่องจากอาหารแช่แข็งและพร้อมทานเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค ให้หันมารับประทานอาหารที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น

"ในอนาคตอาหารกระป๋องมีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากการขยายตัวอาหารแช่แข็งและอาหารพร้อมทานได้เช่นกัน หากอาหารดังกล่าวสามารถลบข้อจำกัดในเรื่องของตู้แช่ ซึ่งจะทำให้สินค้าสามารถกระจายได้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันอาหารแช่แข็งยังจำกัดอยู่ในเฉพาะในเมืองหรือหัวเมืองหลักในจังหวัดสำคัญเท่านั้น ในขณะที่อาหารกระป๋องมีตลาดใหญ่ในต่างจังหวัด"

แผนการตลาดของบริษัท จึงมุ่งเน้นสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารกระป๋อง สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 ปี ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง และพกพาสะดวก เมื่อเทียบกับอาหารแช่แข็งหรือพร้อมทาน ขณะเดียวกันบริษัทจะมุ่งเน้นพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมา เพื่อลบภาพลักษณ์ไม่ดีของอาหารกระป๋อง อีกทั้งบริษัทยังเน้นการเปิดตัวสินค้าที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น นอกเหนือจากปลากระป๋อง ยังมีกลุ่มปรุงรส เครื่องแกง และล่าสุดเปิดตัว"ข้าวสุก บาย ปุ้มปุ้ย" โจ๊กสำเร็จรูปในรูปแบบกระป๋องระดับพรีเมียม

นายสลิล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมุ่งจัดกิจกรรม ณ จุดจำหน่าย เพราะเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า พร้อมกันนี้ยังเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเน้นขยายช่องทางเทรดิชันนัลเทรดหรือร้านค้าปลีกรายย่อย โดยเพิ่มไลน์สินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากปีนี้คาดว่าจะเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตสูง

"ที่ผ่านมาช่องทางจำหน่ายเทรดิชันนัลเทรดหรือร้านค้าปลีกรายย่อยเติบโตเพิ่มขึ้น แต่สินค้าของบริษัทยังไม่ครอบคลุมในช่องทางดังกล่าวได้ โดยปัจจุบันช่องทางจำหน่ายเทรดิชันนัลเทรด มีสัดส่วน 50% ส่วนโมเดิร์นเทรด 50%"

แนวโน้มตลาดอาหารกระป๋องสำเร็จรูปปีนี้ คาดว่าเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจ ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยหันมาเลือกรับประทานอาหารที่ราคาประหยัดและมีคุณภาพสอดคล้องกับกำลังซื้อ

สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 15% โดยในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเติบโต 10% โดยปัจจุบัน ปุ้มปุ้ยเป็นผู้นำตลาดปลากระป๋องปรุงรส ครองส่วนแบ่ง 90% จากมูลค่า 600-700 ล้านบาท ส่วนปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท ปุ้มปุ้ยอยู่อันดับ 3 มีส่วนแบ่งอยู่10-15%