Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2535
"คุณหญิงพัชรี อุ้ม "อโนมา" ฝ่ามรสุมธุรกิจโรงแรม"             
 

 
Charts & Figures

ตารางแสดงผลการดำเนินงานของบริษัทไพฑูรย์ โฮเต็ลแอนด์รีสอร์ท ปี 2531-2534


   
search resources

ไพฑูรย์บ้านและที่ดิน
พัชรี ว่องไพฑูรย์
Hotels & Lodgings
โรงแรมอโนมา สวิสโฮเต็ล




โรงแรมอโนมา สวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ เริ่มต้นด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาทภายใต้ชื่อบริษัทไพฑูรย์บ้านและที่ดินของกลุ่มรัตตไพฑูรย์ ซึ่งมีคุณหญิงพัชรี ว่องไพฑูรย์ เป็นประธานกรรมการบริหาร การสร้างโรงแรมแห่งนี้เป็นไปตามภาวะเฟื่องฟูของธุรกิจท่องเที่ยวเมื่อปี 2530 ต่อเนื่องมาปี 2531 ในช่วงภาวะดังกล่าวมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยจนจำนวนห้องพักไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงเป็นเหตุให้นักธุรกิจหลายกลุ่มหันมาสร้างโรงแรมเพื่อเพิ่มช่องทางในการทำกำไรให้กับกลุ่มตนเอง

กลุ่มรัตตไพฑูรย์เริ่มดำเนินการเช่าที่ดิน บนถนนราชดำริ จากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย และเช่าที่ดินบริเวณใกล้เคียงรวมทั้งซื้อที่ดินเป็นของบริษัทตนเองรวมเนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 85.75 ตารางวาเพื่อก่อสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว ขนาด 400 ห้อง สูง 23 ชั้น (ไม่มีชั้นที่ 13) และมีชั้นใต้ดินอีก 2 ชั้น ด้วยงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ โรงแรมแห่งนี้ก็เดินเข้าสู่ชะตากรรมภาวะท่องเที่ยวตกต่ำอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากสงครามอ่าวเปอร์เซีย และเศรษฐกิจชะลอตัวไปทั่วโลกเช่นเดียวกับโรงแรมอื่น ๆ

ปี 2530 อัตราการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวทะยานสูงขึ้นจากปี 2529 ประมาณเกือบ 30% ต่อเนื่องมาถึงปี 2531 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 4,230,737 คน เพิ่มขึ้น 21.5% ทำรายได้ถึง 78,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.6% ปี 2532 อัตราการเติบโตเริ่มถดถอยลง มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศเพียง 4,809,508 เพิ่มขึ้น 13.7% รายได้จากการท่องเที่ยว 96,386 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% ปี 2533 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 5,430,000 คนเพิ่มขึ้น 10.2% รายได้ท่องเที่ยว 110,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7%

ปี 2534 เป็นปีที่โรงแรมอโนมาเปิดดำเนินการและเป็นปีที่ภาวะการท่องเที่ยวทรุดหนักมากที่สุดกล่าวคือมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยประมาณ 5,430,000 คนเพิ่มขึ้น 2.5% รายได้จากการท่องเที่ยว 116,000 ล้านบาทเพิ่ม 4.9% เป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นที่น้อยมาก

พัชรี ผู้บริหารคนสำคัญของกลุ่มรัตตไพฑูรย์ได้รับคำกล่าวนำหน้าว่าคุณหญิงเมื่อปี 2527 เป็นลูกสาวของพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นนักธุรกิจสตรีที่ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณดีเด่นหลายประเภทจากหลายสถาบันด้วยกัน อาทิ นักบริหารสตรีดีเด่นสาขาการเงิน-การธนาคารปี 2532 สิบยอดสตรีมาดธุรกิจ ปี 2533 และล่าสุด ปี 2535 ได้รับรางวัล EXCUTIVE MEDAL AWARD บอกกับ "ผู้จัดการ" ว่า ทางกลุ่มยังมีความหวังที่จะทำให้อโนมาอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ภาวะการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยนี้ให้ได้ เพราะการดำเนินธุรกิจโรงแรมนี้มาจากความคิดที่ว่าต้องการกระจายความเสี่ยงของเงินลงทุนในกลุ่ม ฉะนั้นกลุ่มจึงต้องทำธุรกิจหลากหลายประเภท และแต่ละประเภทต้องสามารถเป็น PROFIT CENTER ในตัวเองได้ด้วย

"เราเชื่อว่าธุรกิจทุกประเภทมีวงจร มีช่วงที่บูมและไม่บูม ฉะนั้นการทำธุรกิจหลายประเภทจึงเป็นการทำเพื่อให้มีการทดแทนรายได้ซึ่งกันและกัน ถ้าประเภทหนึ่งกำไรน้อยก็ต้องมีอีกประเภทหนึ่งกำไรมาก กลุ่มรัตตไพฑูรย์ก็จะสามารถรักษาอัตรากำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างมีเสถียรภาพ"

คุณหญิงพัชรี ก้าวเข้ามาทำงานในแวดวงธุรกิจเต็มตัวเมื่อปี 2513 โดยพกพาความรู้ระดับปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์จาก UNIVERSITY IF ILLINOIS, CHAMPAIGN สหรัฐอเมริกา เข้าเป็นหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ในบริษัท AUTOPHON A.G. ZURICH SWITZERLAND ต่อมาก็เข้าสู่วงการธุรกิจการเงินโดยทำงานที่ธนาคารเชสแมนฮัตตัน สาขากรุงเทพฯ เป็นหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อและการตลาด อีก 2 ปีถัดมาเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทเงินทุนเฟิสท์ซิตี้ อินเวสเม้นท์ของกลุ่ม วีระนนท์ ว่องไพฑูรย์ (สามี) ต่อมาปี 2529 ได้เข้ารับตำแหน่งกรรมการรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารมหานคร เมื่อออกจากตำแหน่งดังกล่าวก็ได้เข้ารับผิดชอบธุรกิจในกลุ่มของตนถึง 14 แห่ง แต่ทั้งหมดก็ไม่ใช่ธุรกิจโรงแรมเลย จนกระทั่งตั้งบริษัทไพฑูรย์บ้านและที่ดินขึ้น

บริษัทไพฑูรย์บ้านและที่ดินเปลี่ยนชื่อเป็นไพฑูรย์โฮเต็ลแอนด์รีสอร์ท จำกัดเมื่อปี 2533 เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจโรงแรม ประธานกรรมการบริหารกล่าวกับ "ผู้จัดการ" และเสริมต่อว่าแรกเริ่มได้ว่าจ้างกลุ่ม SOL MANIVEST B.V. เข้าบริหารโครงการ แต่ผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายและความคิดเชิงบริหารงานขัดแย้งกับผู้ถือหุ้น จึงมีการยกเลิกสัญญาแล้วหันมาใช้เช่น SWISSOTEL (SWISS-AIR MANAGEMENT) แทน

ปี 2534 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1.72 พันล้านบาท หนี้สิน 1.28 พันล้านบาท ขาดทุน 56.69 ล้านบาท โครงสร้างรายได้ของบริษัทมาจากรายได้ค่าห้องพัก 67.9 ล้านบาท คิดเป็น 56% รายได้จากอาหารและเครื่องดื่ม 46.6 ล้านบาทคิดเป็น 38% รายได้อื่น ๆ เช่นค่าเช่า ค่าบริการ 7.6 ล้านบาท คิดเป็น 6% (ดูตารางประกอบ) อัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่อเดือน 52% ราคาห้องพักเฉลี่ย 2,835 บาท

คุณหญิงพัชรี กล่าวว่าจากตัวเลขผลการดำเนินงานยังถือว่าไม่บรรลุเป้าหมายแต่ก็อยู่ในขั้นที่น่าพอใจเพราะสถานการณ์อย่างนี้เป็นไปทั่วทุกโรงแรม แม้ว่าในปี 2535 จะมีการคาดการณ์ว่าภาวะท่องเที่ยวจะดีขึ้น โดยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 6,000,000 คน เพิ่มขึ้น 10.5% รายได้จากการท่องเที่ยว 131,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.9% แต่สถานการณ์ท่องเที่ยวก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะเป็นเช่นนั้น ในไตรมาส 1 อัตราการเข้าพักโรงแรมของผู้ที่เดินทางมาประเทศไทยมีประมาณเพียง 55-60% ของห้องพักโรงแรมแต่ละแห่งเท่านั้น

โรงแรมอโนมาวางเป้าหมายการขายห้องพักไว้ที่ 80% และสัดส่วนรายได้ของห้องเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมด โดยมุ่งที่กลุ่มลูกค้าบริษัทท่องเที่ยว 30% นักธุรกิจและลูกค้าทั่วไป 70% เพราะปัจจุบันชาวต่างชาติที่เข้ามานั้นเกือบ 50% เดินทางมาไทยเพื่อทำธุรกิจซึ่งผิดกับช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่มีนักธุรกิจเดินทางเข้าเพียง 20% ประมาณการปี 2535 คาดว่าจะมีรายได้ 477.76 ล้านบาท ถึงปี 2538 รายได้จะเพิ่มเป็น 735.84 ล้านบาท ส่วนกำไรขาดทุนประมาณ 40.21 ล้านบาท จะเริ่มกำไรเมื่อปี 2536 ประมาณ 28.99 ล้านบาท และปี 2538 คาดว่าจะกำไร 92.90 ล้านบาท

ประมาณการดังกล่าวยังต้องพบกับอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศทางการเมืองที่ฉุดคนให้เดินทางมาเยือนประเทศไทยน้อยลง ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศอเมริกา ญี่ปุ่นที่ส่งผลต่อไทยหรือแม้กระทั่งการแข่งขันกันเองระหว่างธุรกิจโรงแรมในไทย คุณหญิงถึงกับออกปากว่า "กว่าอโนมาจะมาถึงวันนี้ ไม่ใช่ของง่ายต้องออกแรงไปแล้วไม่รู้เท่าไร วิ่งไปวิ่งมาระหว่างเมืองไทยกับเมืองนอกจนเหนื่อย"

แต่ความเหนื่อยของคุณหญิงก็ถือว่าคุ้ม เพราะสามารถทำให้ยอดขายห้องพักสูงเกินกว่าเกณฑ์เฉลี่ยในตลาดได้ โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โรงแรมอโนมาขายห้องพักได้ถึง 76.93% งานนี้คุณหญิงใช้ทั้งความสัมพันธ์ส่วนตัวและการลดราคามโหฬารเหลือราคาเฉลี่ยห้องละ 2,415.21 บาท ปกติราคาห้องพักของอโนมาจะอยู่ระหว่าง 4,000-35,000 บาท แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าและความสะดวกสบายที่โรงแรมจัดให้ สงครามตัดราคายังมีให้เห็นอยู่ในภาวะปัจจุบันและสงครามนี้เองที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้กำไรลดลง

คุณหญิงวางแผนฝ่ามรสุมโรงแรมด้วยการวางแผนขยายการบริการในโรงแรมให้มากขึ้น เพื่อการดึงดูดลูกค้า อาทิ ศูนย์สุขภาพ ศูนย์ธุรกิจในโรงแรมรวมไปถึงรีสอร์ทที่จะไว้รองรับนักธุรกิจทุกประเภทอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายก็คือเงินทุน ในขณะที่จำนวนหนี้สินใกล้เคียงกับสินทรัพย์ และโรงแรมยังไม่มีกำไรนี้ทำให้คุณหญิงต้องพยายามผลักดันในโรงแรมอโนมาเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนในการขยายกิจการให้ได้ จึงมีการยื่นขอเป็นหลักทรัพย์รับอนุญาตมาตั้งแต่ต้นปี 2533 และได้ผ่านคณะอนุกรรมการรับหลักทรัพย์ของตลาดในปี 2535 นี้ ได้ทำการกระจายหุ้นจำนวน 13.8 ล้านหุ้นราคาพาร์ละ 10 บาท เสนอขายประชาชนหุ้นละ 18 บาท และกำลังรอการอนุมัติจากกระทรวงการคลังเพื่อเข้าซื้อขายบนกระดานหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

สิ้นปี 2532 บริษัทไพฑูรย์หรือโรงแรมอโนมานี้มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เสนอเข้าตลาดฯ โดยการเพิ่มทุนอีก 200 ล้านบาท เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม 100 ล้านบาทจำนวน 10 ล้านหุ้นเช่นเดียวกับที่เสนอขายให้กับประชาชน แต่ผู้ถือหุ้นเดิมซื้อไว้เพียง 6.2 ล้านหุ้นที่เหลือจึงได้นำมาเสนอขายประชาชนในครั้งนี้ด้วย

ดร. นิเวศน์ เหมวชิวรากร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการวาณิชธนกิจ บงล. นวธนกิจ แกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นโรงแรมอโนมากล่าวว่าหุ้นราคา 18 บาทถือว่าถูกถ้าเทียบกับหุ้นโรงแรมอื่นที่เคยเสนขายประชาชนมาแล้ว สำหรับหุ้นตัวนี้ไม่สามารถพิจารณาจาก P/E ได้เนื่องจากเป็นโรงแรมใหม่เพิ่มเปิดดำเนินกิจการมาเพียงปีเดียวแต่โรงแรมแห่งนี้ ก็มีความเด่นคืออยู่ใจกลางศูนย์ธุรกิจ ซึ่งเป้าหมายหลักของโรงแรมก็คือลูกค้านักธุรกิจ แม้ว่าในปีที่ผ่านมาหุ้นโรงแรมให้ผลตอบแทนโดยรวมไม่ดีนัก แต่ในไตรมาสหนึ่งก็มีแนวโน้มดีขึ้น คืออัตราผลตอบแทนติดลบน้อยกว่าเดิมเพียง -0.62% กำไรจากมูลค่าเพิ่ม -1.27% หุ้นโรงแรมอโนมาจึงต้องถือยาวประมาณ 1-2 ปี

คุณหญิงพัชรี เผยอีกว่าแผนการตลาดได้วางไว้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวในส่วนของระยะสั้นคือต้องหาลูกค้าให้ได้มากที่สุด กลุ่มลูกค้าจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ CORPORATE และ LOCAL ทีมการตลาดภายในประเทศแบ่งออกเป็น 4 ทีมเจาะกลุ่มสัมมนารายใหญ่ เช่น ปตท. บริษัทปูนซิเมนต์ไทย เป็นต้น ทีมการตลาดภายในประเทศที่วางไว้นี้จะรวมรับผิดชอบเจาะกลุ่มลูกค้าสัมมนาที่มาจากต่างประเทศโดยส่วนใหญ่ กลุ่มสัมมนาต่างชาติที่เข้าในไทยมักจะมีบริษัทคนไทยเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบด้วย ลูกค้ารายใหญ่ ๆ ที่กำลังจะเข้าในเดือนมิถุนายนนี้ก็มี กลุ่มแพทย์จากนานาชาติ จัดสัมมนาเรื่องโรคกระเพาะ และกระดูก ฯลฯ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็จะมาจาก เช่น SWISSOTEL และบริษัททัวร์อีกประมาณ 200 แห่งที่มีสัญญากันอยู่ บริษัททัวร์รายใหญ่ที่ส่งลูกค้ามาให้ประจำเช่น กลุ่มลูกค้าอเมริกามาจากดีสแฮมส์, SEA TOUR, ARLYMEAR กลุ่มลูกค้ายุโรปมาจาก KUONI INTERNATIONAL กลุ่มลูกค้าอิตาลีมาจาก FRONCO ROSSO กลุ่มลูกค้าเอเชียมาจากเจทัวร์เป็นส่วนใหญ่

ช่วงที่ไม่ใช่ฤดูการท่องเที่ยว ฝ่ายการตลาดของเราจะทำงานหนักและจะอาศัยบริษัททัวร์เอเชียเป็นหลัก เพื่อพยายามที่จะหาลูกค้าจากไต้หวัน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์เข้ามาเนื่องจากลูกค้าเหล่านี้นิยมที่จะเข้ามาสักการะพระพรหมในเมืองไทยเป็นประจำ เมื่อสักการะแล้วเสร็จก็ต้องการเที่ยวเมืองหลวงและชอบช้อปปิ้ง จุดที่เราอยู่มีความได้เปรียบ เพราะทีศูนย์การค้าล้อมรอบไม่ว่าจะเป็นเวิลด์เทรด หรือเซ็นทรัล และต่อไปบริษัทในเครือกำลังจะทำธนภัทรพลาซ่า ด้านหลังโรงแรมรองรับกับความต้องการของลูกค้าอีกแห่ง ส่วนโครงการรีสอร์ทนั้นจะเลือกสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น เช่นกาญจนบุรี เป็นต้น แต่ที่แน่ ๆ พัทยาเราจะไม่เลือกเพราะคู่แข่งเยอะมาก ใช้เงินลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามกลุ่มเป้าหมายที่โรงแรมอโนมาวางไว้ใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ เพราะนักธุรกิจท่องเที่ยวแถบอเมริกาที่เข้ามาในประเทศไทยไตรมาสแรกลดลงมากถึง 16.35% ถือเป็นการลดลงอันดับ 3 อันดับ 4 คือยุโรปลดลง 8.10% ส่วนเอเชียตะวันออกลดลงเล็กน้อยเพียง 0.97% แต่กลุ่มเอเชียก็เป็นกลุ่มที่มีเจ้าสนามอยู่แล้วหลายแห่งเช่น แมนดาริน เอเชีย อินทรา ฯลฯ ฉะนั้นคุณหญิงพัชรีและทีมงานคงจะเหนื่อยอีกหลายยกกว่าโรงแรมอโนมาจะยืนเด่นเป็นสง่าอยู่แถวหน้าได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us