|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เซทเทเลมหนี้เน่าอ่วม หลังเจอกลุ่มมิจฉาชีพปลอมเอกสารกู้เงิน ระบุต่อจากนี้เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษ จัดอบรมพนักงานรู้ทันพฤติกรรมกลโกงและร่วมพันธมิตรร้านค้าช่วยเป็นหูเป็นตา พร้อมตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อ 3 ปีโต 3 เท่า
นางวาเลรี เมเรียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซทเทเลม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ซึ่งคิดจากอัตราดอกเบี้ยที่ให้กับลูกค้าไม่ใช่คิดจากฐานสินเชื่อนั้น จะเห็นว่าบริษัทมีเอ็นพีแอลอยู่ประมาณ 10% โดยเทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่ 28% และเมื่อเทียบในยุโรปซึ่งมีแอลพีแอลอยู่ที่ 1.5% จากการคิดอัตราดอกเบี้ยที่ 10% นั้นถือว่าเอ็นพีแอลของบริษัทอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง โดยสาเหตุหลักมาจากการที่มีกลุ่มมิจฉาชีพทำการปลอมแปลงเอกสารที่ใช้ในการขอสินเชื่อมายื่นที่บริษัท ซึ่งขณะนี้ยังจับกุมไม่ได้ ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นไม่สามารถจะตอบได้ โดยกรณีแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในยุโรป
สำหรับแนวทางที่ทางบริษัทได้ดำเนินการเพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ คือ ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยได้จัดอบรมพนักงานให้รู้ถึงพฤติกรรมและรูปแบบที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ และได้นำโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอย่างละเอียดมาใช้เพื่อให้มีความรัดกุมในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับร้านค้าที่เป็นพันธมิตรในการช่วยตรวจสอบ ซึ่งหากตรวจสอบก็จะจัดการกับกลุ่มคนเหล่านี้อย่างเด็ดขาด
ส่วนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของไทยในขณะนี้ ถือว่าเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น และเชื่อว่าคนไทยสามารถสู้กับความยากลำบากได้ แต่ในด้านการพัฒนาเครดิตและการเงินเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านถือว่ายังช้าอยู่ คาดว่าในอนาคตการพัฒนาน่าจะดีขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้ห่วงภาวะเศรษฐกิจของไทย
นางวาเลรี กล่าวว่า เป้าหมายการทำงานต่อจากนี้วางไว้ว่าอีก 3ปี พอร์ตสินเชื่อคงค้างจะต้องขยายตัว 3เท่าตัว โดยในปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อทั้งสิ้นประมาณ 5, 000 ล้านบาท โดย 50% เป็นสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระสินค้าจาก พันธมิตรร้านค้า เช่น คาร์ฟู, พาวเวอร์บาย และบิ๊กซี อีก50%ที่เหลือจากสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งต่อไป จากนี้จะให้ความสำคัญกับสินเชื่อบุคคลเป็นหลัก โดยร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น เช่นร่วมกับธนาคาร บริษัทประกันในการทำการตลาดเพราะถือว่าน่าจะไปได้ดี และเข้าถึงตลาดได้มากขึ้นแม้ว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการให้สินเชื่อส่วนบุคคลด้วยก็ตาม หากเทียบความเชี่ยวชาญแล้ว บริษัทถือว่ามีความเชี่ยวชาญกว่า
ทั้งนี้ เพื่อให้การขยายพอร์ตสินเชื่อของบริษัทเป็นไปตามที่ คาดการณ์ไว้ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา บริษัทได้ออกสินเชื่อเพื่อการศึกษา คาดว่าในระยะแรกของแคมเปญจะได้รับการตอบรับจากผู้ที่สนใจทั้งในส่วนของมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนประมาณ 100-200 รายต่อมหาวิทยาลัย และในจำนวนนี้ คาดว่าจะได้รับการอนุมัติสินเชื่อประมาณ 12-15% และภายในสิ้นปีนี้น่าจะมีผู้สนใจขอสินเชื่อ 300 ราย ทั้งนี้ สำหรับปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวก็ไม่น่าจะกระทบต่อยอดปล่อยสินเชื่อนี้แต่อย่างไร เนื่องจาก การศึกษายังมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาชนให้มีความกินอยู่ที่ดีขึ้น
|
|
|
|
|