ผู้ประกอบการอสังหาฯ วิเคราะห์โครงการตามแนวรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตลิ้ง-อ่อนนุช-แบร์ริ่ง และส่วนต่อขยายตากสิน-ราชพฤกษ์ รับอานิสงส์ ผลของการเลื่อนประมูลรถไฟฟ้า5 เส้นทาง หลังรัฐบาลขิงแก่ เตรียมส่งต่อโครงการให้รัฐบาลชุดใหม่ตัดสินใจ ยันราคาที่ดินไม่ขยับแต่ดีมานด์อาจสวิชชิ่งเกาะโครงการย่านแนวรถไฟฟ้าต่อเนื่อง ระบุความต้องการซื้อคอนโดฯในเมืองรับผลบวกเต็มๆ ส่วนบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์-บ้านแฝดยังชะลอต่อ
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับว่า การเลื่อนการประมูลรถไฟฟ้า 5 เส้นทางออกไปนั้น อาจส่งผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อลูกค้าบ้านในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตาม โครงการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะสายสีม่วงที่มีความเป็นไปได้สูง มีผลต่อการเคลื่อนย้ายคนจากปริมณฑลเข้าสู่กรุงเทพฯได้อย่างคล่องตัว
ในขณะเดียวกัน ผลกระทบที่เกิดต่อผู้ประกอบการนั้น คาดว่าจะไม่มากนัก เนื่องจากที่ผ่านมามีการปรับตัวโดยตลอด เช่น บริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียม ได้เข้าไปซื้อที่ดินในบริเวณรามอินทรา เพื่อเตรียมพัฒนาโครงการที่เน้นจุดขายในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพื่อเสริมจุดแข็งในการแข่งขั้นกับโครงการย่านแนวรถไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการเลื่อนและชะลอการประมูลการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าออกไป ส่งผลให้โครงการประเภทคอนโดฯในเมืองมีความต้องการเพิ่มขึ้น และแนวโน้มจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดจะมีโครงการคอนโดฯใหม่ๆเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้สินค้า (ซัปพลาย)ในตลาดสูงกว่าความต้องการ (ดีมานด์)ที่มีอยู่ จากการสำรวจพบว่า ปริมาณซัปพลายของที่อยู่อาศัยในตลาดโดยรวมมีประมาณ 90,000 หน่วย แบ่งเป็นประเภทบ้านเดี่ยว 37,000 กว่าหน่วย ทาวน์เฮาส์ 22,000 กว่าหน่วย และคอนโดฯอีก 26,000 กว่าหน่วย ในขณะที่อัตราการระบายออกสูงอยู่
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ระบุว่า ในรอบ 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) เขตกรุงเทพฯและ5 จังหวัดปริมณฑล มีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนทั้งสิ้น 32,717 หน่วย เทียบกับระยะเดียวกันของปี 49 ลดลง 10% และหากเทียบครึ่งหลังของปี 49 ที่มีจำนวน 41,658 หน่วยลดลงถึง 21% ทั้งนี้ หากแยกประเภทเป็นบ้านเดี่ยวจัดสรรสร้างเสร็จจดทะเบียน มีจำนวนรวม 8,175 หน่วย เป็นกรุงเทพฯ 4,967 หน่วย และอีก 3,208 หน่วย อยู่ใน 5 จังหวัดปริมณฑล ซึ่งจะพบว่า รอบปริมณฑล บ้านเดี่ยวสร้างเสร็จจดทะเบียนมากที่สุดอยู่ในอำเภอบางใหญ่ถึง 857 หน่วย
สำหรับห้องชุดคอนโดฯสร้างเสร็จจดทะเบียน มีจำนวน 5,805 หน่วย โดยจะเห็นว่าหนาแน่นในบริเวณรถไฟฟ้า เช่น เขตห้วยขวาง มีมากถึง 1,503 หน่วย เขตยานนาวา 1,306 หน่วย เขตภาษีเจริญ 946 หน่วย เขตบางซื่อ 388 หน่วย เขตลาดพร้าว 281 หน่วย ขณะที่จังหวัดปริมณฑล มีเพียงอำเภอบางบัวทอง ที่มีห้องชุดคอนโดฯสร้างเสร็จในครึ่งปีแรก จำนวน 472 หน่วย
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อาจจะกระทบกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย(ดีมานด์)ในตลาดบ้าง แต่ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทอสังหาฯมีประสบการณ์จากการยกเลิกและเลื่อนการเปิดประมูลรถไฟฟ้าในครั้งที่ผ่านมา จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ แต่จะมีผลกระทบต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ถูกเลื่อนประมูลมาแล้ว 2 ครั้ง
" โรคเลื่อนที่เกิดขึ้น คงไม่มีผลกระทบมากนัก กับผู้ประกอบการย่านรัตนาธิเบศร์, บางใหญ่ และพระราม5 เพราะปัจจุบันระบบคมนาคมด้านโซนตะวันตกของกทม.มีการก่อสร้างระบบทางด่วน วงแหวนรอบนอกต่างๆ จำนวนมาก ทำให้ระบบการจรจาจรคล่องตัวสูง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรได้พัฒนาโครงการที่มีราคาและขนาดที่เหมาะสมกับกำลังซื้อ มีระดับราคาที่อิงกับทำเลในการขายเป็นหลัก ทำให้ลูกค้าสามารถยอดรับกับสินค้าและราคาที่ได้รับได้ ส่วนปัญหาการปรับตัวของราคาที่ดินนั้น เชื่อว่าในช่วงที่มีการเลื่อนการประมูลโครงการรถไฟฟ้าออกไป ไม่น่าจะส่งผลต่อการปรับตัวขึ้นหรือลงของราคาที่ดิน เนื่องจากราคาที่ดินมีการปรับตัวขึ้นไประดับหนึ่งแล้ว "นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับแนวโน้มราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายโครงการสายสีเขียวอ่อนนุช-แบริ่งและเส้นตากสิน-ราชพฤกษ์ โครงการรถไฟมักกะสัน-สุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิ้ง) ที่ได้เริ่มการก่อสร้างไปแล้ว เชื่อว่าราคาที่ดินไม่ปรับสูงขึ้นมาก และแม้ว่าโครงการในเส้นทางอื่นจะมีการเลื่อนการประมูลออกไป แต่คาดว่าจะไม่ทำให้ราคาขายที่ดินใน3เส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างนี้ปรับตัวขึ้นมากนัก
ด้านนายวีระพล โชควิทยารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด และการขาย บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาที่ดินในเส้นทางรถไฟฟ้าที่มีการเลื่อนการประมูลออกไปนั้น คาดว่าจะยังทรงตัวในระดับเดิม เนื่องจากมั่นใจว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าจะเกิดขึ้นแน่นอน แต่ระยะเวลาในการก่อสร้างนั้นอาจจะยืดออกไปบ้าง ส่วนในเรื่องของการยกเลิกโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าใน5 เส้นทางนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น และมั่นใจว่า รัฐบาลใหม่จะสานต่อโครงการ
“ โครงการรถไฟฟ้าเป็นความฝันของประชาชนและรัฐบาล ที่ต้องการมีระบบคมนาคมที่ดีและรวดเร็ว แม้ว่าจะมีการก่อสร้างช้าหน่อยแต่ความจำเป็นยังคงอยู่ ดังนั้น การเลื่อนโครงการออกไป ไม่น่ากระทบกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในย่านแนวรถไฟฟ้าในอนาคต เพราะลูกค้าที่ซื้อบ้านส่วนใหญ่ในวันนี้ เพื่อรอใช้ระบบรางในอนาคตอยู่แล้ว” นายวีระพลกล่าวและชี้ผลบวกต่อแนวรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างว่า
จะทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยหนาแน่นในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีการก่อสร้างแล้ว คาดว่าราคาที่ดินจะขยับขึ้นอีกครั้ง หลังเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ซึ่งจะลักษณะเช่นเดียวกับการเปิดใช้รถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินในปัจจุบัน
|