"สัมภาษณ์"

สนทนานักลงทุน

ประวัติ

คุณนพดล นันทาภิวัฒน์

อายุ 33 ปี

ปริญญาตรีวิศวไฟฟ้า จาก MONASH UNIVERSITY

ทำงาน

1. บริษัท IBM ด้านการตลาด 4 ปี

2. DEUTSCHE BANK ฝ่ายสินเชื่อ (วิเคราะห์สินเชื่อและการตลาด) ฝ่ายบริหารการเงิน ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารการเงิน รวมเวลาที่อยู่ DEUTSCHE BANK 4 ปี

ปัจจุบันผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหาร บลจ. ไทยพาณิชย์

สนทนานักลงทุน

ประวัติ

คุณนพดล นันทาภิวัฒน์

อายุ 33 ปี

ปริญญาตรีวิศวไฟฟ้า จาก MONASH UNIVERSITY

ทำงาน

1. บริษัท IBM ด้านการตลาด 4 ปี

ปัจจุบันผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหาร บลจ. ไทยพาณิชย์

นพดล นันทาภิวัฒน์

ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหาร บลจ. ไทยพาณิชย์

MIS บลจ. ไทยพาณิชย์กำหนดผู้จัดการกองทุนไว้กี่คน

นพดล ตอนนี้ผมดูแลทางด้านธุรกิจก็จะมี FUND MANAGER ซึ่งผมดูแลอยู่ 2 คน และจะเป็น 3 คนในอนาคต มีคุณศศิณีซึ่งเคยเป็นหัวหน้าสายการเงินและเศรษฐกิจทั่วไปวิจัยเศรษฐกิจแบงก์ไทยพาณิชย์ และคุณเจริญชัย มาจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตลาดทุนฝ่ายธุรกิจตลาดทุน และตลาดเงินที่ธนชาติ

MIS 2 คนนี้มีความถนัดทางด้านใดบ้าง

นพดล คุณศศิณี ถนัดทางด้านวิเคราะห์เศรษฐกิจ ส่วนคุณเจริญชัย ก็เคยดูแลเรื่องหุ้นโดยตรง เราพยายามหาคนที่มีความรู้ด้านต่าง ๆ กัน ดูว่ามันจะมาส่งเสริมกันได้หรือเปล่า คิดว่าในการบริหารกองทุนต้องใช้คนที่มีความรู้หลาย ๆ ด้านมาผสมผสานกัน

MIS การวิเคราะห์ ตัดสินใจใช้ข้อมูลเป็นอย่างไร

นพดล ตอนนี้ข้อมูลมีมาก เพราะว่าแต่ละโบรกเกอร์เองก็ส่งข้อมูลมาให้มาก เราก็จะดูจากที่มีอยู่ว่าแต่ละที่เขามีการวิเคราะห์กันอย่างไรบ้างแล้ว เราก็จะวิเคราะห์เพิ่มเติมนอกจากผู้ถือหุ้นที่เป็นเงินทุนหลักทรัพย์ทั้งหลายแล้วคือข้อมูลจากธนชาติ, ธนสยาม เราก็ยังอยากได้ข้อมูลจากที่อื่นที่ไม่อยู่ในกลุ่มนี้เป็นการ CROSS CHECK กัน

MIS เอไอเอ ประกันภัยช่วยเหลือด้านใดบ้าง

นพดล เป็นผู้ร่วมทุน เขามีหน่วยลงทุนในหุ้นอยู่แล้ว ทำมานานแล้วด้วย เมื่อเข้ามาอยู่ใน INVESTMENT COMMITTEE ใหญ่ของเรา ก็จะมาประชุมกันในแง่ของบริษัทว่าการออกกองทุนต่อไปน่าจะเป็นอย่างไร ความรู้, ความสามารถ และประสบการณ์ของแต่ละบริษัทที่เป็นผู้ถือหุ้นก็จะมาเสนอกันผ่าน INVESTMENT COMMITTEE

MIS แสดงว่าการตัดสินใจทุกครั้ง ต้องเข้าคณะ COMMITTEE ก่อน

นพดล ทั่ว ๆ ไปนะครับ แต่ COMMITTEE อาจจะบอกว่าช่วงนี้ตลาดต่ำพอแล้วเราก็มีรายชื่อหุ้นที่ว่าโอเคระดับนี้เราเข้าไปซื้อได้หรือระดับนี้ขาย ผู้ตัดสินใจอาจจะเป็นผู้ใดผู้หนึ่งใน COMMITTEE อาจเป็นทั้งเรา หรือที่ปรึกษาเราก็ได้

MIS รายละเอียด 2 กองทุนที่จะจัดตั้งมีลักษณะอย่างไร

นพดล กองทุนปฐมไทยพาณิชย์จะเน้นหุ้นนอกตลาดหรือหุ้นจองเพิ่มทุนประมาณ 50% หุ้นนอกตลาดนี้หมายถึงหุ้นที่ขออนุมัติแล้ว หรือเป็นหุ้นที่มี FUNDAMENTAL ดี หรือ 2 ปีอาจจะเข้าตลาด (มีความเป็นไปได้สูงประมาณ 50%) แต่ก็ต้องแล้วแต่ SUPPLY ด้วยซึ่งส่วนนี้จะทำให้โอกาสกำไรสูง ความเสี่ยงก็สูงด้วยเหมือนกัน เพราะหุ้นนอกตลาดนี่การ VALUACTOR เหล่านี้คงต้องมาดูเป็นรายตัวไป

MIS ทั้ง 2 กองทุนมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเหมือนกันหรือไม่

นพดล ไม่เหมือนกัน อย่างปฐมไทยพาณิชย์ กลุ่มลูกค้าจะเป็นผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงสูงกว่าเพราะมันเป็นหุ้นนอกตลาด มีความเสี่ยงสูง เพราะข้อมูลยังมีไม่ครบถ้วน ส่วนไทยพาณิชย์ก้าวหน้าอาจจะเป็นลูกค้าที่วไปไม่ต้องถึงกับว่าเล่นหุ้นมาแล้วก็ได้

MIS กองทุนปฐมไทยพาณิชย์ และกองทุนไทยพาณิชย์ก้าวหน้าจะมีการดูแลกันอย่างไร

นพดล ตอนนี้มี 2 กอง ก็คงจะช่วยดูกันและร่วมกับที่ปรึกษาของเรา ปฐมไทยพาณิชย์เรามีที่ปรึกษาคือธนสยาม ส่วนไทยพาณิชย์ก้าวหน้ามีธนชาติเป็นที่ปรึกษา การบริหารจะทำเหมือนทั่วโลกเขาใช้กัน คือจะมี INVESTMENT COMMITTEE อันประกอบด้วยฝ่ายเรา และฝ่ายที่ปรึกษาของเราช่วยตัดสินว่าจะซื้อขายอะไรเท่าไร

MIS การลงทุนระยะยาวของกองทุนต่าง ๆ จะมีผลต่อสภาพคล่องของหุ้นในตลาดฯ หรือไม่

นพดล สภาพคล่องอาจจะยังมี ณ ระดับราคาที่สูงขึ้น เพราะของมันหายไปจากตลาดราคานี้ไม่มีคนขายแล้วก็ต้องให้ราคาสูงหน่อย แต่พอราคาถึงระดับหนึ่งก็จะมีคนขายออกมาเอง สภาพคล่องที่อยู่ในระดับนี้อาจจะคงอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ผมคิดว่าแต่ละกองทุนก็มีนโยบายเหมือนกัน เวลาในการซื้อก็อาจจะไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามหุ้นที่มีพื้นฐานดี SUPPLY ในตลาดน่าจะน้อยลง

MIS หลังจาก 7 บลจ. นำหน่วยลงทุนออกขายคงจะมีการแข่งขันกันสูง

นพดล ใช่ ทำให้เราต้องตื่นตัวตลอดเวลาว่าเขาจะทำอะไร ทำอย่างไรเราจึงจะมีอะไรที่น่าสนใจกว่า ผมว่านักลงทุนมีทางเลือกมาก เช่น กองทุนนี้มี FEATURE แปลก ๆ ใหม่ ๆ ในระยะแรกอาจจะคล้าย ๆ กัน เพราะทางการยังไม่อนุมัติให้พลิกแพลงอะไรแต่ต่อไปจะน่าสนใจยิ่งขึ้น

MIS แต่ละกองทุนจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร

นพดล ก็ดูได้หลายจุด ตั้งแต่การตลาด, การออกตัว, การระดมทุนเข้ามา ใครจะทำให้ช้าได้เร็ว ถ้าหากมีการจองเกินเท่าตัวเราก็รู้สึกดี ถือว่าประสบความสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว และเมื่อเริ่มลงทุนแล้วก็ดู NAV ของแต่ละคนว่าของใครมากกว่ากัน อาจจะดูลำบากบ้างเพราะแต่ละกองทุนอาจจะมีลักษณะไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นการดูอย่างคร่าว ๆ นอกจากนี้ก็ดูการบริหารว่าใครมีอัตราการเติบโตบวกหรือลบมากกว่ากันเท่าไร

ผู้แข่งขันแต่ละคนก็เก่ง ๆ ทั้งนั้น จึงต้องตื่นตัวตลอดเวลา นั่งไม่ได้ต้องวิ่งตลอด, หาข้อมูล, ดูตลาด ก็สนุกดี

MIS ผู้ถือหน่วยลงทุนควรจะได้ผลตอบแทนเท่าใด จากการลงทุน

นพดล ตอบยาก เพราะว่าตอนที่ INDEX อยู่ที่ระดับ 800 จุด จะมีสักกี่คนที่คิดว่าจะตกมาเหลือ 700 จุด แต่เราก็เชื่อว่าจากความรู้ และประสบการณ์ของผู้จัดการกองทุนเอง รวมทั้งผู้ถือหุ้นที่คร่ำหวอดกับตลาดมานาน จุดประสงค์ของเราก็คืออย่างน้อยให้เท่ากับ INDEX แต่เราจะพยายามให้ดีกว่า และเชื่อว่าอย่างน้อยคงจะดีกว่าผลตอบแทนของเงินฝาก ซึ่งอันนี้ถ้าศึกษาย้อนหลังไปหลาย ๆ ปี ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียว ประเทศอื่นก็เห็นเหมือนกันว่าลงทุนระยะยาวให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก

แต่ก็ขึ้นอยู่กับช่วงที่กองทุนเริ่มว่าเป็นช่วงที่ INDEX สูงหรือไม่ ถ้าหากไปเริ่มต้น INDEX 900 นี่ก็คงจะต้องมองระยะยาวเข้าไปอีกว่า เมื่อไรที่ผลตอบแทนของหน่วยลงทุนจะชนะผลตอบแทนของเงินฝาก ถ้าจะพูดว่าตอนนี้ INDEX ก็ต่ำแล้ว ณ ระดับหนึ่ง ซึ่งก็เป็นการดี

MIS อัตราผลตอบแทนของหน่วยลงทุนจะสูงกว่าเงินฝากแน่นอนหรือไม่

นพดล ต้องบอกว่าระยะยาว หนึ่งปีนี่อาจจะทำไม่ได้ อย่างเช่น INDEX จาก 900 เป็น 700 นี่ทำไม่ได้แน่นอน แต่ในระยะยาวเป็นสถิติออกมาเราดูย้อนหลังเราจะเห็น อย่างไรก็ตามไม่ว่ากองทุนไหนเรามีนโยบายรักษาเงินต้นอย่างเหนียวแน่นที่สุด นั่นเป็น UNDERLINE ของเรา

MIS แล้วกองทุนอื่นที่จะเข้ามาหลังจากที่ INDEX ปรับตัวสูงขึ้นไปแล้วจะเป็นอย่างไร

นพดล นั่นก็คงขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละกองทุนเพราะเราไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นทันที เราระดมเงินได้วันนี้ 500 หรือ 1,000 ล้าน ผมอาจจะบอกว่าช่วงนี้ยังสูง ก็อาจจะรออีก 2-3 เดือน ค่อยเริ่มซื้อแบบจริง ๆ จัง ๆ ก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องดูกฎข้อบังคับของ ก.ล.ต. หรือแบงก์ชาติว่าห้ามลงทุนในแต่ละหมวด แต่ละบริษัทเกินกว่าสัดส่วนที่กำหนดไว้

MIS นโยบายเงินปันผลจะจ่ายอย่างไร

นพดล เท่าที่ ก.ล.ต. กำหนดมาว่าต้องไม่ต่ำกว่า 5% ของกำไร (คิดว่าเป็นกฎใหม่ที่จะออกมา) แต่จะจ่ายมากกว่านั้นก็ได้ถ้าคิดว่ากำไรดี แท้จริงแล้วในแง่ของกองทุนถ้าดีไซน์มาเพื่อลงทุนแบบ GROWTH กำไรที่เกิดขึ้นก็น่าจะเอากลับเอาเข้าในกองทุน เพื่อที่จะได้เกิดผลเป็นดอกเบี้ยทบต้น ฉะนั้นกองทุนของเราที่มีลักษณะ GROWTH คือกองทุนปฐมไทยพาณิชย์ที่ค่อนข้างจะ HIGH RISK HIGH RETURN ก็เอากลับเข้าไปลงทุนมากขึ้น เพื่อที่จะได้โตได้เต็มที่ปันผลอาจจะน้อยหน่อย แต่ผลที่ออกมาคือ ราคาจะเพิ่มขึ้น

MIS ในการเลือกซื้อหน่วยลงทุนจะต้องดูอะไรบ้าง

นพดล ในช่วงแรกคงลำบาก แต่ละบริษัทก็มีผู้ถือหุ้นที่มีประสบการณ์หลาย ๆ ด้านที่ดี ๆ อย่างไรก็ตามยังไม่มีผลงานให้เห็นกัน อย่างธนชาติ, ธนสยาม, บุคคลัภย์ เมื่อมารวมกันเราจะสามารถทำให้มันดีขึ้นได้หรือเปล่า เป็นจุดเด่นหรือเปล่า ก็คงต้องดูกัน แต่ผมว่าในระยะแรก จุดแรกก็ควรจะมองในแง่ความคิดริเริ่มว่าเป็นอย่างไร และกองทุนแรก ๆ ได้ผลตอบสนองจากผู้ลงทุนอย่างไรบ้าง เช่น ขายตูมวันเดียวหมดเป็นต้น มองว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่ถ้าผมออก GROWTH FUND, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพก็ออก GROWTH FUND เหมือนกันจะเลือกอย่างไรนี่ผมว่าตัดสินใจยากนะ ถ้าผมเป็นผู้ลงทุนก็ตัดสินใจไม่ถูก แต่ถ้าเป็นลูกค้ากันอยู่ก่อนแล้ว มีบัญชีอยู่แล้วก็ง่ายเข้าไม่ต้องเขียนเช็คไปตัดบัญชีที่นั่นที่นี่ เป็นเรื่องความสะดวกหรืออาจจะมองอีกจุดในแง่บริการข้อมูล

MIS นักลงทุนจะประเมินผลงานของผู้จัดการกองทุนได้อย่างไร

นพดล ต้องเทียบหลาย ๆ อย่างเช่น 1. เทียบจาก INDEX ซึ่งถือว่าเป็นขั้นต่ำสุดก็ได้คืออย่างน้อยต้องเท่ากับ INDESX เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะมีผู้จัดการกองทุนไปทำไม คุณลงทุนตาม INDEX เองก็ได้ แต่ถ้าหากผลงานออกมาต่ำกว่าตลาดนิดหน่อยก็ถือว่ายอมรับได้ เพราะถ้าเป็นบุคคลธรรมดาการซื้อตาม INDEX ก็ลำบาก เป็นไปได้ยาก ต้องมานั่ง BALANCE ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นซื้อหน่วยลงทุนให้ผู้จัดการกองทุนจัดการ BALANCE ให้ก็มีค่าใช้จ่ายในการจัดการบ้าง ค่าใช้จ่ายนี้ก็จะแสดงออกมาต่ำกว่า INDEX นิดหน่อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากองทุนนั้นเป็น INDEX FUND ก็ถือได้ว่า PERFORMANCE ของ

เขาได้ตามวัตถุประสงค์แล้ว (คือตาม INDEX) แต่ถ้ากองทุนนั้นบอกว่า HIGH GROWTH ปรากฏว่าผลออกมาตาม INDEX ก็ถือว่าไม่ค่อยจะดีเท่าไร ขณะเดียวกันถ้าจะเปรียบเทียบก็ต้องดูว่ากองทุนที่ออกมามีวัตถุประสงค์เดียวกัน ถ้าหากทุกกองทุนมีผลงานเหมือนกันหมดก็ต้องสงสัยว่าอาจจะดีที่สุดได้แค่นั้น แม้ว่าจะไม่ดีเท่ากับที่ได้วางวัตถุประสงค์เอาไว้ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าคนอื่น

ฉะนั้นทางเลือกของนักลงทุนก็คือว่า ไม่ว่าคุณจะไปลงทุนไหนก็ได้เท่ากัน แต่ต้องพิจารณา 1. เทียบกับตลาด 2. เทียบกับกองทุนอื่นที่อยู่ในตลาดที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน