Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 กันยายน 2550
รับเหมาเลิกรอรถไฟฟ้าสายใหม่ คาดโรคเลื่อนเพิ่มต้นทุนที่ดินบริษัทจัดสรร             
 


   
search resources

อนุกูล ตันติมาสน์
Real Estate




โครงการรถไฟฟ้าลูกผีลูกคน เอกชนเลิกสน!! รอรัฐบาลที่มีจากการเลือกตั้งตัดสินใจ ด้านช.การช่างเมินถือเป็นแผนระยะยาว แต่พร้อมร่วมประมูลได้ทุกเมื่อ ด้านเนาวรัตน์ระบุรถไฟฟ้าเกิดช้าผู้ประกอบการซื้อที่ดินตุนกระอัก แบกต้นทุนการเงิน

โครงการเมกะโปรเจกต์ ความหวังของคนไทยหลายล้านคน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีต่างๆ มีผลต่อเนื่องถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจก่อสร้าง และภาคแรงงาน เพราะหากมีการก่อสร้างขึ้น นั้นหมายถึงการลงทุนครั้งใหญ่ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเริ่มมีความหวังว่าจะสร้างยอดขาย สร้างงาน สร้างอาชีพ รวมไปถึงการเปิดหน้าดินในการพัฒนาอสังหาฯรูปแบบต่างๆ การขยายตัวของที่อยู่อาศัยออกไปตามปลายทางสถานี และรวมถึงการลดต้นทุนในการเดินทางได้ในระยะยาว

แต่ล่าสุดนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม ยอมว่า การก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีแดง บางซื่อ-รังสิต วงเงินลงทุน 50,000 ล้านบาท, สายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ วงเงินลงทุน 45,000 ล้านบาท สายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ เงินลงทุน 52,000 ล้านบาท อาจเริ่มดำเนินการได้ไม่ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากติดขั้นตอนการพิจารณารูปแบบการลงทุน ซึ่งต้องรอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาข้อสรุปที่ได้จากคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ภายในสัปดาห์นี้ก่อนที่จะส่งไปให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาให้เสร็จในเดือนตุลาคมนี้ และสศช. จะเสนอต่อที่ประชุม จากนั้นจึงจะเสนอรูปแบบการลงทุนที่ได้ไปให้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) พิจารณาอนุมัติเงินกู้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ทำให้อาจเปิดประมูลและก่อสร้างไม่ทันปีนี้

ถึงกระนั้น ทางเจบิก ได้ตั้งแง่ด้วยการการขออัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1-1.5% ซึ่งไม่สามารถรับได้ที่อัตรา 0.75% โดยให้เหตุผลว่า เงินเยนแข็งค่า อีกทั้งโครงการดังกล่าวไม่ใช่โครงกาเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม จึงไม่ได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.75% ได้ อย่างไรก็ตามไทยเองยังไม่ยอมแพ้ โดยยืนยันไปยังเจบิกอีกครั้งว่าเป็นโครงการรักษาสิ่งแวดล้อม ให้เจบิกพิจารณาอีกครั้ง

นายอนุกูล ตันติมาสน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงาน บริหารมนุษย์และบริหารทั่วไป บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่โครงการรถไฟฟ้าไม่เกิดขึ้นภายในปีนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เพราะเชื่อว่าต้องรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จึงจะกล้าตัดสินใจดำเนินโครงการขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่

“ทุกคนรับสภาพอยู่แล้วว่า โครงการนี้เกิดยาก ไม่หวังพึ่งงานจากโครงการเหล่านี้ และส่วนใหญ่จะหางานอื่นมาทำแทน แต่ทุกคนก็เตรียมตัวไว้ หากโครงการเกิดขึ้นจริงก็สามารถเข้าประมูลได้ตลอดเวลา แต่ในส่วนของบริษัทที่ร่วมทุนกับต่างชาติ เพื่อประมูลโครงการนี้โดยเฉพาะอาจจะลำบากหน่อย เพราะโครงการไม่มีความแน่นอน ต้นทุนเพิ่มจากการนำเงินไปร่วมทุน จำเป็นต้องหางานอื่นทำแทน”

นายอนุกูลกล่าวต่อว่า โครงการรถไฟฟ้าเป็นโครงการในอนาคต บริษัทช.การช่างฯไม่ได้วางไว้ในแผนงานปัจจุบันของบริษัท แต่เมื่อใดที่มีการเปิดประมูล บริษัทก็พร้อมที่จะเข้าไปร่วมประมูล เพราะเชื่อว่าโดยศักยภาพและประสบการณ์ที่ผ่านมา เช่น สร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน โครงการระบบขนส่งต่างๆ บริษัทสามารถดำเนินการได้ แต่ทั้งนี้จะต้องพิจารณาว่าโครงการขนาดใหญ่ มูลค่าการลงทุนสูงหรือ ไม่หากวงเงินลงทุนสูงบริษัทอาจต้องร่วมทุนเพื่อเข้าพัฒนา แต่หากแบ่งการก่อสร้างออกเป็นเฟส ช.การช่างสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง

นายวัชรพันธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่การก่อสร้างรถไฟฟ้าไม่เกิดภายในปีนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนรับรู้อยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้รับเหมา แม้ว่าทุกคนเตรียมพร้อมที่จะประมูลโครงการนี้ แต่ก็ไม้ได้ตั้งความหวังว่าต้องได้ หรือถ้าไม่ได้แล้วจะเกิดความเสียหายให้แก่บริษัท แต่ในส่วนของความเชื่อมั่นนั้น ยอมรับย่อมทำให้ความเชื่อมั่นลดลง เพราะถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจอยู่ตลอดเวลา แต่หากมองย้อนไปในอดีตที่ประเทศไทยไม่มีรถไฟฟ้าเลย รัฐบาลไทยใช้โครงการสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่มีมูลค่าก่อสร้างแต่ละปีหลายแสนล้าน เพียงแต่ไม่เป็นข่าวใหญ่โตเท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของโครงการนี้ คือ ผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่เข้าไปลงทุนซื้อที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าที่คาดว่าจะผ่าน หรือมีสถานีขึ้นและลง หากโครงการยังไม่แน่นอนย่อมทำให้ยอดขายช้าลงไปด้วย หรือบางรายต้องชะลอโครงการออกไป ซึ่งทำให้มีต้นทุนจากเม็ดเงินที่นำมาลงทุนซื้อที่ดิน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us