Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 สิงหาคม 2550
ตปท.เมินซื้อกองทุนอีทีเอฟ จี้ธปท.ยกเลิกเกณฑ์30%ก่อนเทรด             
 


   
search resources

Investment
Funds




นักลงทุนต่างชาติเมินซื้อกองทุนอีทีเอฟ ติดมาตรการกันสำรอง 30% เชื่อหากก่อนเทรดจริง 6 ก.ย.ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะผ่อนปรนหรือยกเลิกมาตรการหรือไม่ซื้อขายไม่คึกคักแน่ “ภัทรียา” ชี้อนาคตจะนำอีทีเอฟซื้อขายข้ามตลาดควรเปิดเสรีเพื่อให้เม็ดเงินมีการเคลื่อนย้ายสะดวก

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยว่า กองทุนอิควิตี้อีทีเอฟ หรือ ThaiDEX SET50 ETF ที่ปิดการเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป (IPO)วานนี้ (28 ส.ค.) มูลค่าที่เสนอขายได้จำนวนเท่าไรนั้น ต้องรอผลสรุปอีก 1 วัน เนื่องจากที่ยังเปิดขายกองทุนอีทีเอฟแก่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนที่จะเปิดการขายในวันนี้(29 ส.ค.)

ทั้งนี้ยอดขายไอพีโอครั้งนี้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อกองทุนดังกล่าวยังต่ำ เนื่องจากได้รับผลกระทบมาตรการกันเงินสำรอง30%ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีข้อจำกัดที่จะนำเงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน และใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทำให้มีเครื่องมือในการลงทุนที่ครบวงจร และจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ในประเทศต่างๆที่ผ่านมาและแนะนำกองทุนอีทีเอฟนักลงทุนต่างประเทศก็สนใจที่จะเข้ามาลงทุน

สำหรับก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการเข้าไปหารือกับทางธปท.หลายครั้งในเรื่องดังกล่าว และได้มีการอธิบายให้ทางธปท.ว่ากองทุนอีทีเอฟนั้นมีลักษณะการซื้อขายเหมือนหุ้นและในอนาคตมีแผนที่จะนำอีทีเอฟไปจดทะเบียนข้ามตลาดกัน ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าออกจึงควรที่จะเปิดเสรีเพื่อไม่ให้มีข้อติดขัดในการไหลเข้าออกของเม็ดเงิน

“การขายไอพีโอกองทุนอีทีเอฟคาดว่านักลงทุนต่างประเทศจะเข้ามาซื้อจำนวนน้อยจากได้รับผลกระทบจากมาตรการ30% แต่ก็อาจจะมีนักลงทุนต่างประเทศที่มีเงินในประเทศไทยอยู่แล้วเข้ามาซื้อบ้าง โดยที่ทางธปท.ยังไม่ยกเลิก 30%ให้กับกองทุนอีทีเอฟ เนื่องจากกังวลว่าหากมีการยกเว้น แล้วทางกองทุนรวมต่างๆก็จะมีคำถามว่าเมื่อยกเลิกให้กับกองทุนอีทีเอฟแล้วทำไมไม่ยกเลิกให้กับกองทุน โดยเรื่องดังกล่าวตลท.ได้ทำการเข้าใจ ว่ากองทุนอีทีเอฟมีการเทรดเหมือนหุ้น ”นางภัทรียา กล่าว

นางภัทรียา กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯต้องการคำตอบจากธปท.ก่อนที่จะมีการเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 6 กันยายนนี้ เพราะ ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ และเมื่อมีการออกสินค้าใหม่แล้วมีข้อจำกัด ในการลงทุนนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯก็หวังว่าจะได้รับคำตอบที่ดี แต่หากทางธปท.ไม่ยกเว้นมาตรการ 30%ให้ ก็จะยังมีการนำกองทุนอีทีเอฟเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตามกำหนดเดิม

ทั้งนี้ จากการที่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการออกกองทุนอีทีเอฟ เพราะขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯไทยถือว่ามีพัฒนาการของการออกกองทุนอีทีเอฟล่าช้ากว่าต่างประเทศมาก ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศมีการออกอีทีเอฟจำนวนมาก ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ มาเลเซีย เพิ่งออกกองทุนอีทีเอฟใหม่ ส่วนตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI กล่าวว่า ขณะนี้ยอดจองซื้อกองทุนอีทีเอฟเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นนักลงทุนในประเทศไทยทั้งหมดโดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบันประมาณ 90% และนักลงทุนรายย่อยประมาณ 10% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติที่ยังไม่เข้ามาซื้อกองทุนดังกล่าวเนื่องจากติดมาตรการกันสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยส่วนตัวคาดว่าในเร็วๆธปท.จะมีการผ่อนเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าว แต่ถ้ายังไม่มีการผ่อนเกณฑ์ดังกล่าวเชื่อว่าวันที่กองทุนดังกล่าวจะเข้ามาซื้อขายอาจจะไม่คึกคักเท่าที่ควร

ทั้งนี้ เชื่อว่านักลงทุนบุคคลน่าจะเข้ามาซื้อขายมากขึ้น เพราะค่าธรรมเนียมในการซื้อขายค่อนข้างต่ำคอมมิสชั่นต่ำประกอบกับเสมือนเป็นการลงทุนในหุ้นจำนวน 50 ตัว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us