กับคำถามที่ว่า คุณตกเป็นเหยื่อของเชื้อโรคทุกชนิดที่มีอยู่ในสำนักงานหรือที่บ้านใช่หรือไม่
?
คุณเป็นหวัดน้ำมูกไหล และจามอยู่เสมอๆ ใช่หรือไม่ ?
ถ้าคำตอบ คือ ใช่ล่ะก็ บอกได้เลยว่า มหามิตรสำคัญที่สุดที่จะช่วยคุณต่อสู้กับการเจ็บไข้ได้ป่วยก็คือ
ระบบภูมิคุ้มกัน (immune system) ที่แข็งแกร่ง
การสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นในตัวไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณสามารถต่อสู้กับโรคร้ายในเวลานี้ได้
หากแต่ยังทำให้คุณสามารถลดโอกาส หรือความเสี่ยงในการถูกคุกคามจากอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง
เมื่ออายุมากขึ้นได้อีกด้วย
ในชีวิตประจำวันของเรานอกจากจะแวดล้อมด้วยเชื้อโรคแล้ว ร่างกายของคนเราก็ยังเป็นพาหะที่สุดวิเศษของโรคร้ายอีกด้วย
แม้ว่าจะมีกลวิธีมากมายในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และผู้คุกคามที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ
แต่ถ้าคุณรับประทานอาหารไม่ได้สัดส่วน ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายไม่ครบถ้วน
ระบบภูมิคุ้มกันก็จะพังทลายลง ส่งผลให้เชื้อโรคทั้งหลายแหล่เข้าคุกคามตัวคุณได้อย่างง่ายดาย
เนื้อหาข้างบนที่คุณเพิ่งอ่านผ่านตาไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทนำในหนังสือ
Miracle Juices : lmmune Boosters จัดพิมพ์โดย Hamlyn กิจการในเครือของ Octopus
Publishing Group Ltd. ประเทศอังกฤษ
หนังสือเล่มนี้ยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ยิ่งต่อไปว่า ผลการวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ได้เปิดเผยถึงการค้นพบครั้งสำคัญเกี่ยวกับกลุ่มของสารอาหารชนิดใหม่
ที่มีคุณอย่างอเนกอนันต์ต่อสุขภาพของคนเรา
Phytonutrients คือ กลุ่มสารอาหารที่ว่าซึ่งมีอยู่นับร้อยชนิดทีเดียว
แม้ว่า phytonutrients จะไม่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อชีวิตของคนเรา
เหมือนอาหารหลักประเภทอื่น แต่ phytonutrients เป็น antioxidants สำคัญยิ่งที่ทำงานร่วมกับวิตามินและแร่ธาตุ
เพื่อสกัดกั้นและหยุดยั้งสภาวะของโรคร้ายที่กำลังพัฒนาไปในทางที่เลวลง และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราคงความแข็งแกร่งอยู่ได้
หนทางง่ายที่สุดที่เป็นหลักประกันว่า คุณได้เตรียมอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารอันทรงคุณค่าเหล่านี้ก็คือ
ในอาหารที่คุณรับประทานทุกวันต้องมีผลไม้ ผัก และสาหร่ายทะเลที่มีสีสันตามธรรมชาติรวมอยู่ด้วยเสมอ
แหล่งของ phytonutrients :
- Lycopene พบในอาหารที่มีสีแดง มะเขือเทศเป็นแหล่งสำคัญ
- Curcumin พบในอาหารที่มีสีเหลือง เช่น ข้าวโพด และพริกไทยเหลือง (yellow
peppers)
- Anthoxanthins พบในอาหารที่มีสีเหลืองโดยมันฝรั่ง และ หอมหัวใหญ่ เป็นแหล่งสำคัญ
- Carotenoids ถือว่ามีประโยชน์มากเป็นพิเศษต่อระบบภูมิคุ้มกัน พบในอาหารที่มีสีส้ม
จึงแนะนำให้รับประทานแคนตาลูป มะละกอ มะม่วง แครอท แอพริคอท และสควอช ให้มาก
- Anthocyanidins และ Proanthocyanidins พบในอาหารที่มี สีม่วง หรือน้ำเงิน
อาทิ บลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ แบล็คเชอร์รี่ องุ่นดำ แบล็คเคอร์แรนท์ บีทรูท
และแครนเบอร์รี่
- Chlorophyll ถือว่าสำคัญต่อการเยียวยา และป้องกันโรคร้ายต่างๆ เช่น มะเร็ง
พบในอาหารที่มีสีเขียว รวมทั้งกะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ ผักสลัด wheatgrass สาหร่ายทะเล
และสาหร่ายเกลียวทอง (spirulina)
ทำไมต้องเป็นน้ำผัก-ผลไม้ ?
วิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆ เช่น antioxidants วิตามิน เอ บี ซี และอี กรดโฟลิค
โปแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และกรดอะมิโน ล้วนมีอยู่ในผักและผลไม้สด
และจำเป็นต่อการดำรงอยู่ด้วยสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง
เพราะในกระบวนการคั้นน้ำผัก และผลไม้เป็นการแยกเอาเส้นใยที่ร่างกายย่อยไม่ได้ออกมา
จึงทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารในปริมาณมากกว่าการรับประทานผลไม้ หรือผักเพียงชิ้นเดียว
ตัวอย่างกรณีนี้คือ เมื่อคุณรับประทานแครอทดิบ 1 หัว ร่างกายจะสามารถดูดซึม
beta-carotene เพียง 1 เปอร์เซ็นต์ของที่มีอยู่เท่านั้น เพราะมีสารอาหารมากมายถูกเก็บกักอยู่ในเส้นใยของผักหรือผลไม้
ดังนั้น เมื่อคั้นเอาเฉพาะน้ำแครอทออกมาโดยไม่ใช้กากหรือเส้นใยเลย ร่างกายจะสามารถดูดซึม
beta-carotene จากน้ำแครอทที่ดื่มเข้าไปได้เกือบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ การดื่มน้ำผลไม้และผักหลายชนิดเป็นประจำทุกวันจึงเป็นหนทางง่ายๆ
ที่จะให้หลักประกันว่าร่างกายของคุณได้รับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการ
นอกจากนี้ ผลไม้และผักยังเป็นแหล่งอาหารที่ให้ "น้ำ" ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อสุขภาพที่ดี
เพราะคนส่วนใหญ่ยังดื่มน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่ายกาย
ทั้งนี้มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า เครื่องดื่มที่เราดื่มมากมายหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นชา
กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มาจากการสังเคราะห์ทางเคมี
ล้วนมีสารหลายชนิดที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้น้ำปริมาณมากเป็นพิเศษเพื่อขับสารเหล่านี้ออกมา
หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็จะทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำได้ ซึ่งทั้งน้ำผักและผลไม้ล้วนปลอดจากสารที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายดังกล่าว
อาหารที่มีผลไม้และผัก เป็นส่วนประกอบในปริมาณสูง จึงสามารถป้องกันและช่วยในการบำบัดเยียวยาอาการเจ็บป่วยต่างๆ
ได้หลากหลาย โดยก่อนหน้านี้มีผลการวิจัยเชิงโภชนาการว่าด้วยสารเคมีในพืช
(plant chemicals) เรียกว่า phytochemicals ยืนยันว่า phytochemicals เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันโรคร้ายต่างๆ
เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ หอบหืด ข้ออักเสบ และภูมิแพ้
ข้อควรระวังก็คือ แม้ว่าน้ำผัก-ผลไม้ จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม แต่ควรจะดื่มเพื่อเสริมอาหารหลักที่รับประทานอยู่ทุกวันเท่านั้น
คุณยังจำเป็นต้องรับประทานอาหารหลัก อาทิ ข้าว ผลิตภัณฑ์จากนม และเมล็ดถั่วต่างๆ
ให้เพียงพอเพื่อให้แน่ใจได้ว่าร่างกายของคุณจะคงสภาพการมีกระดูกและเซลล์ที่แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา
ที่สำคัญคือ ถ้าคุณอยู่ในระหว่างการเยียวยารักษาด้วยโภชนบำบัด หรือต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์
ให้ปรึกษาถึงผลเปลี่ยน แปลงที่จะเกิดขึ้นเสียก่อน แล้วจึงตัดสินใจเริ่มต้นกิจกรรมใหม่สำหรับสุขภาพ
สารพัดเคล็ไมลับของ phytonutrients
- วิตามินบี และซี เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ดังนั้น เมื่อปรุงอาหารประเภทผัก
หรือข้าวกล้อง ให้รับประทานน้ำที่ได้จากการปรุงอาหารดังกล่าวด้วย เพราะนั่นคือแหล่งวิตามินเข้มข้นเราดีๆ
นี่เอง
- ให้ดื่มน้ำผัก-ผลไม้ ทันทีที่ทำเสร็จ เพราะมีวิตามินหลากชนิดทีเดียวที่ระเหยไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อสัมผัสกับอากาศ
- เมื่ออยู่ในร่างกายของคนเรา วิตามินเอ และซี สามารถสูญสลายไปได้อย่างง่ายดาย
จึงแนะนำให้ซอยย่อยปริมาณการรับประทานตลอดทั้งวัน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
- แหล่ง antioxidants ที่สำคัญ ได้แก่ ส้ม ผลไม้ และผักที่มีสีแดง ม่วง
เหลือง และเขียว มันฝรั่ง ถั่วเปลือกแข็ง (nuts) พืชประเภทเมล็ด จมูกข้าวสาลี
กระเทียมและหัวหอม สัตว์น้ำประเภทมีเปลือก เช่น กุ้ง หอย ปู สัตว์ปีก ข้าวที่ยังไม่ผ่านการขัดสี
ตับ ไข่ เนื้อแดง และผลิตภัณฑ์จากนมประเภท full-fat
- อาหารที่เป็นแหล่งสำคัญของกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ น้ำมันประเภท
cold-pressed ถั่วเปลือกแข็ง (nuts) พืชประเภทเมล็ด และไขมันปลา
- เราอยู่ในโลกที่การแปรรูปอาหารได้ดึงเอาส่วนดีๆ ของอาหารตามธรรมชาติโดยรวมออกมา
และพฤติกรรมการบริโภคของเราก็ก่อให้เกิดปัญหาขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย
จึงทำให้จำเป็นต้องมีการเสริมวิตามิน และแร่ธาตุให้กับร่างกาย ข้อแนะนำคือ
ให้ปรึกษานักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์และระบุว่าคุณขาดสารอาหารตัวใดบ้าง
ก่อนที่จะผลีผลามกระโจนเข้าใส่โปรแกรมเสริมอาหารใดๆ
L i f t - o f f
เครื่องดื่มแก้วนี้อุดมด้วย beta-carotene ซึ่งเมื่อร่างกายรับเข้าไปแล้วจะสังเคราะห์เป็นวิตามินเอในภายหลัง
เหมาะสำหรับการบำบัดรักษา
พริกไทยแดง 100 กรัม (3.5 ออนซ์)
สตรอเบอร์รี่ 125 กรัม (4 ออนซ์)
มะเขือเทศ 50 กรัม (2 ออนซ์)
มะม่วง 125 กรัม (4 ออนซ์)
แตงโม 125 กรัม (4 ออนซ์)
น้ำแข็ง 3 ก้อน
มะม่วงฝานเป็นชิ้นสำหรับประดับตกแต่ง
นำส่วนประกอบทั้งหมดมาคั้นเอาแต่น้ำ จากนั้นนำน้ำที่ได้เข้าเครื่องปั่นพร้อมน้ำแข็ง
แล้วเทเสิร์ฟใส่แก้วทรงสูง ประดับด้วยชิ้นมะม่วงฝาน
ปริมาณที่ได้ 200 ซี.ซี. (7 fl.oz.)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 200 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 9630 iu
- วิตามินซี : 231 mg
- Selenium : 2.66 mcg
- สังกะสี : 0.58 mg
I r o n m a i d e n
ผักโขม (Spinach) เป็นแหล่งธาตุเหล็กที่สำคัญ นอกจากนี้ยังอุดมด้วยวิตามิน
ซี อี บี 1 และบี 6 รวมทั้ง กรด folic ด้วยเครื่องดื่มแก้วนี้เหมาะสำหรับการบำบัดรักษา
ยอดผักโขมหนึ่งกำมือใหญ่
แครอท 200 กรัม (7 ออนซ์)
มะเขือเทศ 4 ลูก
พริกไทยแดงเล็กน้อย
น้ำแข็งก้อน
นำผักทั้งหมดเข้าเครื่องคั้นโดยเลือกโปรแกรม alternating batches เพื่อให้แน่ใจว่าใบของผักโขม
จะไม่เข้าไปติดในเครื่องคั้น จากนั้นเทน้ำผักใส่แก้ว แล้วลอยด้วยน้ำแข็งอีก
2 ก้อน
ปริมาณที่ได้ 300 ซี.ซี. (0.5 พินท์)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 175 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 71065 iu
- วิตามิน ซี : 208 mg
- วิตามิน อี : 3.33 mg
- เหล็ก : 3.8 mg
- แคลเซียม : 169 mg
P o w e r p a c k
ทั้งแครอท บีทรูท และส้ม ล้วนอุดมด้วยวิตามิน เอ และซี มีสาร antioxidants
และสารอาหาร phytonutrients แถมยังเป็นแหล่งโปแตสเซียมมหาศาล ถือเป็นเครื่องดื่มประเภทโทนิคได้อย่างวิเศษ
เหมาะ สำหรับดื่มเพื่อการบำบัดรักษาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
ส้ม 1 ผล
แครอท 250 กรัม (8 ออนซ์)
บีทรูท 125 กรัม (4 ออนซ์)
สตรอเบอร์รี่ 125 กรัม (4 ออนซ์)
เปลือกส้มล้างสะอาดสำหรับประดับตกแต่ง
น้ำแข็งก้อน
ปอกส้ม โดยคงเส้นใยที่เกาะอยู่บนกลีบส้มไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
คั้นน้ำแครอท บีทรูท และ ส้ม จากนั้นนำน้ำผัก-ผลไม้ ลงเครื่องปั่นพร้อมกับน้ำแข็งอีก
2 ก้อน และสตรอเบอร์รี่ที่เตรียมไว้ ปั่นนานราว 20 วินาที แล้วเทเสิร์ฟในแก้วทรงสูง
ประดับด้วยเปลือกส้มหั่นเป็นเส้นบางๆ (ถ้าชอบ)
ปริมาณที่ได้ 200 ซี.ซี. (7 fl.oz.)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 259 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 70652 iu
- วิตามิน ซี : 166 mg
- โปแตสเซียม : 1646 mg
- แมกนีเซียม : 91.5 mg
- Selenium : 5.1 mcg
M o r n i n g a f t e r
มะละกอเป็นผลไม้ที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ราบรื่น เป็นปกติ ขณะที่แตงกวาช่วยขับพิษ
และส้มก็เป็นแหล่งวิตามินซีมหาศาล เครื่องดื่มแก้วนี้จึงทำให้คุณสบายตัวและชุ่มชื่น
เหมาะสำหรับการเสริมสร้างให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแกร่ง
มะละกอ 125 กรัม (4 ออนซ์)
ส้ม 2 ผล
แตงกวา 125 กรัม (4 ออนซ์)
น้ำแข็งก้อน
แตงกวา และมะละกอฝานเป็นชิ้นบางๆ สำหรับประดับตกแต่ง
ปอกมะละกอ และส้ม โดยคงเส้นใยที่เกาะอยู่บนกลีบส้มไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากนั้น นำผลไม้ทั้งหมดไปคั้นพร้อมกับแตงกวา แล้วเสิร์ฟในแก้วทรงสูงมีน้ำแข็งลอยหน้า
ประดับด้วยแตงกวา และมะละกอฝาน
ปริมาณที่ได้ 200 ซี.ซี. (7 fl.oz)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 184 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 1123 iu
- วิตามิน ซี : 218 mg
- แมกนีเซียม : 51 mg
- โปแตสเซียม : 1004 mg
- Selenium : 2 mcg
H o t s t u f f
ทั้งมะเขือเทศ และแครอทต่างให้วิตามินซีในปริมาณสูงมาก ซึ่งวิเศษมากสำหรับการทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
ขณะที่กระเทียม ขิง และมะรุม (horseradish) ล้วนเป็น antioxidants อันทรงพลังสำหรับเป็นปราการต่อสู้กับโรคติดเชื้อต่างๆ
เมื่อผนึกกำลังกันแล้วจึงกลายเป็นพันช์ที่มีฤทธิ์ขับเสมหะชะงัดนัก
มะเขือเทศ 300 กรัม (10 ออนซ์)
เซเลอรี่ 100 กรัม (3.5 ออนซ์)
ขิงสดยาว 2.5 ซ.ม. (1 นิ้ว) สับเป็นชิ้นหยาบๆ
กระเทียม 1 กลีบ
มะรุมสดยาว 2.5 ซ.ม. (1 นิ้ว)
แครอท 175 กรัม (6 ออนซ์)
น้ำแข็ง 2 ก้อน
ก้านเซเลอรี่สำหรับประดับตกแต่ง (ถ้าชอบ)
คั้นส่วนผสมทั้งหมดแล้วนำน้ำที่ได้เข้าเครื่องปั่นพร้อมน้ำแข็ง และเสิร์ฟในถ้วยแก้ว
ประดับด้วยก้านเซเลอรี่ (ถ้าชอบ)
ประมาณที่ได้ 150 ซี.ซี. (0.25 พินท์)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 189 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 51253 iu
- วิตามิน ซี : 87 mg
- Selenium : 4.47 mcg
- สังกะสี : 5.52 mg
T o p b a n a n a
เป็นเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม และโปแตสเซียม จึงช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่ง
แบบครอบจักรวาล อีกทั้งยังดีเยี่ยมสำหรับกระดูก และฟัน รวมทั้งหยุดยั้งอาการหวัดได้ชะงัด
ส้ม 100 กรัม (3.5 ออนซ์)
แครอท 150 กรัม (5 ออนซ์)
กล้วย 100 กรัม (3.5 ออนซ์)
แอพริคอทแห้ง 1 ผล
น้ำแข็งก้อน
กล้วยหั่นเป็นชิ้น สำหรับประดับตกแต่ง (ถ้าชอบ)
ปอกส้มแล้วคงเส้นใยที่เกาะอยู่บนกลีบส้มให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ คั้นน้ำส้ม
และแครอท นำน้ำที่ได้ลงเครื่องปั่นพร้อมกล้วย แอพริคอท และน้ำแข็งก้อน จากนั้นเทใส่ถ้วยแก้วตกแต่งด้วยชิ้นกล้วย
(ถ้าชอบ)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 204 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 44570 iu
- วิตามิน ซี : 88 mg
- แคลเซียม : 101 mg
- โปแตสเซียม : 1475 mg
- เหล็ก : 2.5 mg
W h a t ' s u p b r o c ?
เป็นเครื่องดื่มที่มี selenium สูง เหมาะกับสิงห์อมควันผู้สูบบุหรี่เป็นประจำ
เพราะช่วยป้องกันมะเร็งในปอดได้
บร็อคโคลี่ 250 กรัม (8 ออนซ์)
แครอท 175 กรัม (6 ออนซ์)
บีทรูท 50 กรัม (2 ออนซ์)
ผักชี 1 ก้าน สำหรับประดับตกแต่ง (ถ้าชอบ)
คั้นส่วนประกอบทั้งหมดจนได้น้ำผักแล้ว จึงเทเสิร์ฟในแก้วทรงสูง ประดับด้วยผักชี
(ถ้าชอบ )
ปริมาณที่ได้ 200 ซี.ซี. (7 fl.oz)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 172 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 52304 iu
- วิตามิน ซี : 43 mg
- Selenium : 9.86 mcg
- สังกะสี : 1.6 mg
S t r a w b e r r y S o o t h e r
เครื่องดื่มแก้วนี้มีวิตามินซี ปริมาณสูงมาก สำหรับป้องกันหวัด นอกจากนี้
สตรอเบอร์รี่ยังเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ระงับอาการเจ็บปวดได้โดยธรรมชาติด้วย
ส้ม 200 กรัม (7 ออนซ์)
สตรอเบอร์รี่ 200 กรัม (7 ออนซ์)
น้ำแข็งก้อน
ปอกส้มโดยคงเส้นใยที่เกาะบนกลีบส้มไว้ให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ แล้วนำส้ม
และสตรอเบอร์รี่ไปคั้นน้ำ เสิร์ฟโดยมีน้ำแข็งลอยแก้วและมีผล สตรอเบอร์รี่ประดับ
หรือนำน้ำส้ม-สตรอเบอร์รี่ เข้าเครื่องปั่นกับน้ำแข็งอีกทีหนึ่ง ก็จะได้เครื่องดื่มที่ข้นขึ้น
ปริมาณที่ได้ 200 ซี.ซี. (7 fl.oz)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 154 กิโลแคลอรี
- วิตามิน ซี : 219 mg
- โปแตสเซียม : 694 mg
- แคลเซียม : 108 mg
B u m p y r i d e
เครื่องดื่มแก้วนี้ช่วยฟอกระบบในร่างกายทั้งหมด คือ เลือด ไต และต่อม น้ำเหลือง
ส่วน pectin ในแอปเปิ้ล ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแกร่งขึ้น
แอปเปิ้ล 200 กรัม (7 ออนซ์)
บีทรูท 50 กรัม (2 ออนซ์)
เซเลอรี่ 90 กรัม (3 ออนซ์)
น้ำแข็งก้อน
แอปเปิ้ลฝานเป็นชิ้นสำหรับประดับตกแต่ง (ถ้าชอบ)
นำแอปเปิ้ล บีทรูท และเซเลอรี่ มาคั้นน้ำแล้วเสิร์ฟในถ้วยแก้วมี น้ำแข็งลอย
พร้อมประดับด้วยชิ้นแอปเปิ้ล (ถ้าชอบ)
ปริมาณที่ได้ 150 ซี.ซี. (0.25 พินท์)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 179 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 480 iu
- วิตามิน ซี : 23 mg
- โปแตสเซียม : 763 mg
- แมกนีเซียม : 37 mg
C a l m S e a s
เป็นพั้นช์ที่มีสรรพคุณต่อต้านไวรัสได้อย่างฉมัง เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีล้วนๆ
ส้ม 2 ผล
กีวีฟรุต 1 ผล
สตรอเบอร์รี่ 200 กรัม (7 ออนซ์)
ปอกส้มแล้วคงเส้นใยที่เกาะอยู่บนกลีบส้มไว้ให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
จากนั้นนำส้ม สตรอเบอร์รี่ และกีวีฟรุตมาคั้นน้ำ โดยเหลือผลสตรอเบอร์รี่ไว้ประดับตกแต่งบ้างเล็กน้อย
จากนั้นเทใส่แก้วเสิร์ฟทันที
ปริมาณที่ได้ 200 ซี.ซี. (7 fl.oz)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 201 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 726 iu
- วิตามิน ซี : 403 mg
- แมกนีเซียม : 70 mg
- สังกะสี : 0.8 mg
T u m m y T i c k l e r
เครื่องดื่มแก้วนี้มีวิตามินซี และ phytonutrients มหาศาล เช่น anthocyanidins
ซึ่งออกฤทธิ์ช่วยต่อต้านโรคได้อย่างชะงัด
แอปเปิ้ล 300 กรัม (10 ออนซ์)
แบล็คเคอร์แรนท์ 200 กรัม (7 ออนซ์)
น้ำแข็งก้อน
นำแอปเปิ้ลและแบล็คเคอร์แรนท์มาคั้นน้ำ แล้วเทเสิร์ฟโดยมีน้ำแข็งลอยแก้ว
และประดับด้วยผลแบล็คเคอร์แรนท์สดอีก (ถ้าชอบ)
แบล็คเคอร์แรนท์ใช้แทนเครื่องดื่มบำรุงกำลังได้อย่างวิเศษ
ปริมาณที่ได้ 200 ซี.ซี. (7 fl.oz)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 300 กิโลแคลอรี
- วิตามิน ซี : 415 mg
- แคลเซียม : 30 mg
v i t a m i n v i t a l i ty
เครื่องดื่มแก้วนี้อุดมไปด้วยวิตามิน เอ และ ซี ซึ่งช่วยป้องกันหวัดได้อย่างดี
นอกจากนี้ผลไม้ประเภทมะนาว (Citrus fruits) ยังช่วยลดเสมหะได้อย่างวิเศษด้วย
ส้ม 2 ผล
แครอท 125 กรัม (4 ออนซ์)
ปอกส้มโดยคงเส้นใยที่เกาะอยู่บนกลีบส้มให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ คั้นน้ำส้มและแครอท
แล้วเทเสิร์ฟทันที
ปริมาณที่ได้ 200 ซี.ซี. (7 fl.oz)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 188 กิโลแคลอรี
- วิตามิน เอ : 34293 iu
- วิตามิน ซี : 151 mg
- แมกนีเซียม : 44 mg
- สังกะสี : 0.4 mg
p i c k - m e - u p
เครื่องดื่มแก้วนี้เป็นแหล่งของวิตามิน เอ ซี บี 1 บี 4 และโปแตสเซียมที่ดีเลิศ
นอกจากจะช่วยเยียวยาอาการเจ็บป่วยจากการเดินทาง และอาการคลื่นไส้เพราะแพ้ท้องได้ตามธรรมชาติแล้ว
ยังเชื่อว่าขิงช่วยในส่วนของระบบย่อย และ ช่วยให้ร่างกายสู้กับอาการหวัดได้เป็นอย่างดี
แครอท 200 กรัม (7 ออนซ์)
แอปเปิ้ลเขียว 1 ผล
ขิง 1 ซ.ม. (0.5 นิ้ว)
น้ำแข็งก้อน
คั้นน้ำแครอท แอปเปิ้ล และขิง จากนั้นเทใส่แก้วแล้วเติมน้ำแข็งก้อน
ปริมาณที่ได้ 250 ซี.ซี. (8fl.oz)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 127 กิโลแคลอรี
- วิตามินเอ : 60833 iu
- วิตามินซี : 30 mg
- เหล็ก : 0.9 mg
- แคลเซียม : 59 mg
f r i s k y s o u r
ถ้าคุณรู้สึกอ่อนล้าและรับประทานอาหารไม่ได้สัดส่วน ระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะเริ่มอ่อนแอลงและง่ายต่อการที่หวัดและไข้หวัดใหญ่จะคุกคาม
แต่ถ้าเริ่มมีอาการแม้เพียงเล็กน้อย เครื่องดื่มที่มีมะละกอ มะนาว กระเทียม
หรือขิง เป็นส่วนผสม อาจช่วยได้มากทีเดียว
มะละกอ 150 กรัม (5 ออนซ์)
ส้มเกลี้ยง 150 กรัม (5 ออนซ์)
ราสเบอร์รี่ 150 กรัม (5 ออนซ์)
มะนาว 0.5 ผล
น้ำแข็งก้อน
มะนาวฝานบางๆ สำหรับประดับตกแต่ง
ตักเนื้อมะละกอตามปริมาณที่กำหนด แล้วคั้นเอาน้ำพร้อมกับส้มเกลี้ยง (ที่ปอกเปลือกโดยคงเส้นใยที่เกาะบนกลีบของส้มไว้ให้มากที่สุด)
และผลราสเบอร์รี่ บีบน้ำมะนาวลงไปแล้วคนให้เข้ากัน เทใส่แก้วเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งก้อน
และประดับด้วยมะนาวฝาน
ปริมาณที่ได้ 200 ซี.ซี. (7 fl.oz)
คุณค่าทางอาหาร
- พลังงาน : 193 กิโลแคลอรี
- วิตามินเอ : 810 iu
- วิตามินซี : 188 mg
- selenium : 4.05 mg
- สังกะสี : 1.09 mg