Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์20 สิงหาคม 2550
ไอ-โมบาย พระเอกตัวจริงฐานพลังกลุ่ม "สามารถ"             
 


   
www resources

โฮมเพจ สามารถเทลคอม
โฮมเพจ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

สามารถเทลคอม, บมจ.
สามารถ ไอ-โมบาย, บมจ. - SIM
Mobile Phone




ไอ-โมบาย เจิดจรัสเล่นพระเอกตัวจริง ฐานพลังหลักอาณาจักร "สามารถ" พลิกแผนปรับโมเดลธุรกิจ ปรับโครงสร้างองค์กร โฟกัสธุรกิจนี้เป็นพิเศษเหนือธุรกิจหลักตัวอื่น

ในห้วงที่ที่สถานการณ์ของเศรษฐกิจและการเมืองยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก ภาคเอกชนเจ้าของธุรกิจของใหญ่ต้องมีการเฝ้าจับตามองถึงโอกาสทางธุรกิจที่จะสามารถกอบโกยได้ในภาวะไม่ปกติ และนำไปสู่การปรับตัวให้เข้ากับถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่อย่างกลุ่มสามารถ คอร์ปอเรชั่นได้มีการปรับโมเดลธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดอยู่ตลอดเวลา

ภาพดังกล่าวสะท้อนให้เห็นจากผลประกอบการของกลุ่มสามารถ โดยภาพรวมของผลประกอบการของกลุ่มสามารถในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา กลุ่มสามารถฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,493 ล้านบาท ลดลง 50% มีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจ 122 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งบริษัทฯ มีเงินคืนจากการปรับปรุงการกลับรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 60 ล้านบาท

ขณะที่รายได้รวมในครึ่งปีแรกมีทั้งสิ้น 10,762 ล้านบาท กำไรสุทธิ 266 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ครึ่งปีรวม 17,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,633 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กำไรของเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการขายหุ้นสามารถไอโมบายให้กับเทเลคอมมาเลเซีย

"หากไม่นับรวมกำไรที่ได้จากการขายหุ้น เรามีกำไรในการดำเนินธุรกิจจริง ๆ ลดลง 10% สาเหตุมาจากการที่บริษัท สามารถ เทลคอม จำกัด (มหาชน) มีรายได้น้อยกว่าที่คาด เนื่องจากไม่มีโครงการจัดซื้อจากภาครัฐ จากเดิมคาดว่ารายได้จะลด 20% แต่กลับลดเกือบ 50%อย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้น ทั้งในแง่รายได้และกำไร คาดว่าในครึ่งปีหลังเมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองมีความชัดเจน เราจะสามารถพลิกและสร้างรายได้กลับคืนมา" วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขยายความถึงภาพการดำเนินงานของกลุ่ม

ปัจจุบัน บริษัท สามารถ เทลคอม จำกัด (มหาชน) มีโครงการประมูลอยู่ในมือแล้วรวมมูลค่ากว่า 5,200 ล้านบาท เช่น อินเทอร์เน็ตโรงเรียนและโครงการ เอเอ็มอาร์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น ทั้งยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างประมูลเพิ่มเติมในครึ่งปีหลังนี้มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท

สถานการณ์ในปีนี้ทำให้กลุ่มสามารถต้องปรับลดเป้าหมายรายได้ลงเหลือ 25,000-26,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 35,000 ล้านบาท เนื่องจากโครงการภาครัฐชะลอตัวอยู่แล้ว นอกจากนี้ยอดขายของบริษัท สามารถ ไอโมบาย จำกัด (มหาชน) ลดลงเช่นกัน

ภาพรวมการดำเนินงานในรอบครึ่งปีแรก 2550 สามารถ ไอ-โมบายจำหน่ายมือถือไปแล้วรวมกว่า 2 ล้านเครื่อง คิดเป็นยอดขายเฮาส์แบรนด์ 1,300,000 เครื่อง สามารถเพิ่มยอดขายภายในประเทศขึ้นเกือบ 50% โดยเฉพาะโทรศัพท์เคลื่อนที่แบรนด์ไอ-โมบายที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 28% หรือ 670,000 เครื่อง จากตลาดรวม 2,400,000 เครื่อง ทั้งยังได้เร่งขยายเครือข่ายร้านค้าและให้บริการ ล่าสุดมีเอาท์เล็ททั้งสิ้นรวม 436 แห่ง แบ่งเป็นภายในประเทศ 395 แห่ง ต่างประเทศ 41 แห่ง

ขณะที่รายได้จากกลุ่มคอนเทนต์มีสถิติการเติบโตสูงสุดนั้นตั้งแต่เปิดให้บริการ ไม่ว่าจะเป้นบริการ บัก1113, 1900 และ บักทูโมบาย รวมถึงบริการใหม่เช่น ไอ-ลิงก์ที่มีปริมาณการใช้สูงกว่า 1 ล้านครั้งในปัจจุบัน นอกจากนี้ ในครึ่งปีแรก ไอ-โมบายยังได้ขยายเข้าสู่ตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เช่น อินเดีย และบังคลาเทศ รวมทั้งลาว ซึ่งบริษัทฯ มียอดขายเป็นอันดับสอง คือ 42% ของมูลค่าตลาดมือถือ สรุปรายได้รวมไตรมาส 2 เท่ากับ 3,597 ล้านบาท กำไรสุทธิ 133 ล้านบาท จ่ายปันผลหุ้นละ 18 สตางค์

ถึงแม้ว่าสามาร ไอ-โมบายโดยภาพรวมแล้วดูมีสถานการณ์ที่ไม่แตกต่างจากบริษัทอื่นในเครือ แต่สามารถ ไอ-โมบายยังมีความแน่นอนของการรับรู้รายได้ที่ดีกว่า ทำให้ทางทีมผู้บริหารของกลุ่มสามารถเลือกที่จะโฟกัสการทำรายได้ในครึ่งปีหลังนี้มาที่สามารถ ไอ-โมบายเป็นพิเศษ

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มสามารถจึงมีการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในของสามารถ ไอ-โมบายใหม่ ซึ่งวัฒน์ชัย ได้ให้ทิศทางการขยายธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า ทางกลุ่มมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ใหม่ ด้วยการแยกบริษัทและทีมงานที่ดูแลธุรกิจในกลุ่มอย่างชัดเจน ประกอบด้วย ธุรกิจมือถือเฮาส์แบรนด์ "ไอ-โมบาย" ที่ให้ทางบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลการทำตลาด และปรับบริษัท สามารถเซอร์วิส จำกัด ให้มาดูแลการทำตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่อินเตอร์แบรนด์แทน

"เดิมที่เรามีทีมการตลาดดูแลโทรศัพท์ทุกแบรนด์ร่วมกัน แต่หลังจากนี้ไปเราจะปรับให้มีทีมเฉพาะที่ดูแลตลาดแบรนด์ ไอ-โมบายโดยเฉพาะ และอินเตอร์แบรนด์แยกจากกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นการปรับการดูแลสินค้าทางด้านผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนขึ้น"

ส่วนช่องทางจัดจำหน่ายยังคงเหมือนเดิม คือ กระจายสินค้าผ่านช่องทางอย่างร้านไอ-โมบาย ผ่านดีลเลอร์ต่างๆ เหมือนเดิม แต่ยอดรายได้จะกระจายไปตามบริษัทที่รับผิดชอบการทำตลาดในแต่ละแบรนด์

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวครั้งนี้ก็เพื่อรองรับการเติบโตสู่ตลาดโลก และจะเน้นการพัฒนาสินค้าในเชิงลึกและการสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นอกเหนือจากมือถือภายใต้แบรนด์ ไอ-โมบาย ให้เป็นที่รู้จักทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้แบรนด์ ไอ-โมบาย ในประเทศจาก 28% เป็น 34% ภายในสิ้นปีนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us