เมื่อธุรกิจ eCommerce เติบโตอย่างต่อเนื่องจากแรงผลักดันของผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงไป
ตรงกันข้ามมีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการซื้อสินค้าทางออนไลน์ แต่ยังไม่วางใจเรื่องความปลอดภัย
ราวกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา The Secret Service และ FBI ของสหรัฐอเมริกาตรวจพบว่า
มีบัตรเครดิตถูกแฮกเกอร์เข้าสู่ระบบความปลอดภัย หลังจากผู้ถือบัตรนำไปซื้อสินค้า
และกระบวนการดังกล่าวถูกโจมตีหลังการทำธุรกรรมผ่านร้านค้า
ด้านมาสเตอร์การ์ดออกมาเปิดเผยว่า ถูกแฮกเกอร์เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลจำนวน
8 ล้านบัญชี รวมถึงบัตรเครดิตที่ใช้ระบบชำระเงินผ่านมาสเตอร์การ์ดอีก 2.2
ล้านใบถูกโจมตี ขณะที่วีซ่าได้รับผลเช่นเดียวกันถึง 3.4 ล้านใบ
เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่บัตรพลาสติกได้รับความเสียหายที่เกิดจากบรรดาแฮกเกอร์
อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการระบบชำระเงินทั้งมาสเตอร์การ์ด และวีซ่าพยายามหาวิธีป้องกันเพื่อลดความเสียหายให้กับผู้บริโภค
Verified by Visa เป็นระบบเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ต
เพื่อลดโอกาสการลอบนำหมายเลขบัตรเครดิตและวันหมดอายุไปใช้ ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี
และการทำธุรกรรมทางการเงิน
โดยออกแบบขึ้นมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจ สะดวก ปลอดภัยให้กับผู้บริโภคในการนำบัตรวีซ่าไปใช้
สำหรับการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกับการใช้บัตรวีซ่าซื้อสินค้าตามร้านค้าปกติ
"เมื่อนำบริการ Verified by Visa มาใช้ในตลาดอย่างเต็มที่แล้ว คาดว่าจะสามารถช่วยลดปัญหาการลักลอบใช้หมายเลขบัตรลงได้มากกว่า
50%" ไมเคิล เคียนีย์ หัวหน้าธุรกิจ eCommerce วีซ่า เอเชีย แปซิฟิกบอก "เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับร้านค้าผู้รับบัตรในเรื่องการได้รับเงินค่าสินค้าจากธนาคาร"
นอกจากระบบดังกล่าวจะช่วยลดการลักลอบนำบัตรไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว
ยังลดการถกเถียงจากเจ้าของบัตรกรณีที่เจ้าของบัตรไม่ได้เป็นผู้นำบัตรนั้นไปใช้
โดยให้เจ้าของบัตรวีซ่าใส่รหัสส่วนตัวเพื่อแสดงตนว่าเป็นเจ้าของบัตรจริงในขณะทำการซื้อสินค้าทางออนไลน์
"บัตรวีซ่าหรือข้อมูลบัตรที่ถูกขโมยมาไม่สามารถนำมาใช้ได้ในร้านค้าที่ร่วมให้บริการ
Verified by Visa" เขากล่าว
สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งจากผลการศึกษาวิจัยของ Asia Market
Intelligence เมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับทัศนคติ ความสนใจในการซื้อสินค้า และความปลอดภัยในการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
พบว่ามากกว่า 3 ใน 4 ของผู้แสดงความคิดเห็นทั้งหมด 1,000 คน กังวลถึงการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัยในการให้หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว
และ 66% ต้องการซื้อสินค้าจากร้านค้าทางอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการ Verified
by Visa
รายงานของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็ก ทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)
พบว่าความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยสำหรับการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต เป็น
1 ใน 3 ปัจจัยหลัก ทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะไม่ซื้อสินค้าบนช่องทางดังกล่าว
"ระบบนี้ช่วยเปิดตลาดสู่กลุ่มลูกค้า ที่ไม่มั่นใจในความปลอดภัยของการซื้อสินค้าทางออนไลน์
พวกเขาต้องการความรวดเร็ว ง่าย และปลอดภัย" คมกริช ศิริรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป
Thaiticketmaster.com ผู้ให้บริการจองและซื้อตั๋วเข้าชมการแสดงคอนเสิร์ตผ่านอินเทอร์เน็ตเล่า
ด้านไรอัน เชียว ผู้อำนวยการ FarEastFlora.com ร้านจำหน่ายดอกไม้ออนไลน์ชั้นนำในสิงคโปร์
กล่าวว่า "พวกเราเชื่อว่าการตอบสนองความต้องการของลูกค้าสำคัญ คือ การทำให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยเมื่อซื้อสินค้ากับเรา
เมื่อพวกเขามั่นใจมากเท่าไรเราสามารถขายสินค้าเพิ่มได้มากขึ้นเท่านั้น"
นอกเหนือไปจากประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรวีซ่าจะได้รับแล้ว Verified by Visa
ยังมีส่วนทำให้ธุรกิจ eCommerce เติบโตได้ในอนาคต เนื่องเพราะความไม่มั่นใจของผู้บริโภคถูกขจัดไป
สังเกตได้จากปริมาณการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
มีอัตราเติบโตเฉลี่ยกว่า 80% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
สำหรับปริมาณการซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวในประเทศไทย ขยายตัวกว่า
60% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยจากการสำรวจของ
AC Nielsen ปีล่าสุดพบว่าคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป 1.2 ล้านคน และมี 20%
ที่มีประสบการณ์ซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้
"ธุรกิจ eCommerce ในไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 50% ต่อปีใน
3 ปีข้างหน้า โดยมีแรงสนับสนุนจากผู้คนที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น และจำนวนประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้น"
สมบูรณ์ ครบธีรวงศ์ ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทยและอินโดจีนชี้
"การเพิ่มความปลอดภัยเป็นปัจจัยช่วยให้ธุรกิจนี้เติบโตยิ่งขึ้น"
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ธนาคาร กรุงเทพ, เอเชีย, ไทยพาณิชย์ และบัตรกรุงไทย
นำระบบ Verified by Visa ไปให้บริการแก่ลูกค้า "จากที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ของไทยเข้ามาร่วมใช้บริการ
แสดงถึงความมุ่งมั่นของธุรกิจ eCommerce ในไทยที่จะเติบใหญ่อย่างมั่นคง"
เคียนีย์บอก
หากพิจารณาธุรกิจ eCommerce ในประเทศไทย ทุกวันนี้ธนาคารพาณิชย์ดูเหมือนจะมีบทบาทและเป็นองค์กรสำคัญต่อการเติบโตอย่างมาก
เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำเสนอต่อลูกค้าผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"การนำเสนอบริการ Verified by Visa แก่ร้านค้าที่ทำธุรกิจออนไลน์จะช่วยให้สามารถตรวจสอบได้ว่า
ผู้ทำรายการซื้อสินค้าเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริง เช่นเดียว กันพวกเรามองโอกาสในการทำธุรกิจ
eCommerce ที่เพิ่มขึ้นโดยมีระบบความปลอดภัยนี้รองรับ" โชค ณ ระนอง ผู้จัดการสายบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ
อธิบาย
สำหรับลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มหลังจากเข้าสู่ระบบ
Verified by Visa เพราะหากธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บเพิ่ม นั่นหมายถึง การเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความล้มเหลวของธุรกิจ eCommerce
"ระบบของวีซ่าช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น"
จันทิมา จตุรภัทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดลูกค้าบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์บอก
"การลักลอบนำข้อมูลบัตรเครดิตไปใช้ซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตส่งผลให้ธุรกิจ
eCommerce ไม่เติบโตเท่าที่ควร"
การมอบความคุ้มครองใหม่ล่าสุดของวีซ่าครั้งนี้ พวกเขาเชื่อมั่นว่าจะไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเหมือนเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอีก
เพราะหากเกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นมา ย่อมเป็นสิ่งขัดขวางการเติบโตและเป้าหมายในการทำงาน
ที่ต้องการให้ผู้บริโภคหันมาใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าแทนเงินสดให้ได้มากที่สุด