Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 สิงหาคม 2550
ปตท.สบช่องบาทแข็งผุดโรงแยกก๊าซ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ปตท., บมจ.
Oil and gas




ปตท.เตรียมชงบอร์ดลุยโรงแยกก๊าซฯ หน่วย 6 มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ในปลายเดือนนี้ หลังผ่านอีไอเอ เพราะเป็นช่วงจังหวะที่เหมาะสม หลังค่าเงินบาทแข็ง ชี้ไตรมาส 3 ทิศทางราคาน้ำมันสูง 65-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมาร์จินปิโตรเคมีจะยังคงดีอยู่

นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมเดินหน้าก่อสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วย 6 ทันทีหลังจากได้รับอนุมัติผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เมื่อเร็วๆ นี้ โดยจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในปลายเดือนนี้ ซึ่งเป็นการลงทุนในจังหวะที่ดีในช่วงค่าเงินบาทแข็ง

โรงแยกก๊าซฯ 6 จะมีกำลังการผลิต 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ใช้เงินลงทุนประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2553 โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยจะป้อนก๊าซฯใช้เป็นวัตถุดิบในโรงโอเลฟินส์ของบริษัท พีทีทีพีอี จำกัด ในเครือปตท.ที่มีกำลังการผลิตเอทิลีน 1 ล้านตัน/ปี

นอกจากนี้ จะมีการเสนอขออนุมัติบอร์ดบริษัทฯเพื่ออนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาล โดยคาดว่าจะจ่ายปันผลในอัตราใกล้เคียงกับปี 2549 ที่จ่ายปันผลระหว่างกาล 5 บาท/หุ้น เพื่อตอบแทนนักลงทุน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บัญชีและการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปีนี้ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศน่าจะอ่อนตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจประเทศที่ชะลอตัว ทำให้ปตท.ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการลงทุนใหม่ๆในอนาคต แต่ราคาน้ำมันตลาดโลกในช่วงนี้ถือว่าสูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ที่ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 65-70 เหรียญสหรัฐ และค่าการกลั่นยังดีอยู่ ธุรกิจปิโตรเคมีก็ยังมีส่วนต่างราคาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์(สเปรด)ที่สูงอยู่และความต้องการเม็ดพลาสติกยังดีอยู่

"ปตท.มีแผนการลงทุนที่ชัดเจนใน 5ปีนี้ (2550-2554)อยู่แล้ว 2 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ซึ่งช่วงนี้ปตท.คงต้องพิจารณาว่าจะมีผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับไทยหรือไม่จากภาวะเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคงไม่มีผลกระทบต่อปตท.มากนัก ซึ่งที่ผ่านมา การเติบโตของปตท.จะผูกกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ"

นายจิตรพงษ์ กล่าวถึงการพิจารณาแต่งตั้ง ไม่น่ามีปัญหานายประเสริฐ น่าจะกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท.ได้อีกวาระหนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและทำงานในตำแหน่งนี้มาเป็นเวลา 4 ปี ซึ่งน่าจะสานต่องานที่ทำอยู่นี้ได้ต่อไป ซึ่งนายประเสริฐก็มีสิทธิและคุณสมบัติครบถ้วน เพราะการดำเนินตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท.สามารถดำรงตำแหน่งได้ 2 วาระๆ ละ 4 ปี ซึ่งตามกระบวนการน่าจะเร่งให้เร็วนี้ที่สุด เพื่อไม่ให้สุญญากาศในการทำงานของปตท.

PTTCH ปรับสเปรดขึ้น666 เหรียญ/ตัน

นายอดิเทพ พิศาลบุตร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTCH)กล่าวว่าขณะนี้ราคาเม็ดพลาสติกHDPE ปรับตัวสูงขึ้นมากอยู่ที่ 1.4 พันเหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ส่วนต่างราคาแนฟทาและเม็ดพลาสติก(สเปรด)อยู่ที่ 666 เหรียญสหรัฐ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมเมื่อพ.ค.ที่ผ่านมาถึง 31 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากความต้องการใช้เม็ดพลาสติกยังขยายตัว และมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานหลายแห่ง โดยในไตรมาส 4/2550 คาดว่าสเปรดจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากโรงงานที่ปิดซ่อมบำรุงเปิดเดินเครื่องผลิต

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้สกุลบาทจำนวน 8,000 ล้านบาทในเดือนก.ย.นี้ อายุหุ้นกู้ 5-10 ปี โดยจะเสนอขายให้สถาบันประมาณ 80% ที่เหลือให้รายย่อย ทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นจาก 0.19 เท่าเป็น 0.4 เท่า โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ จะนำมาใช้ลงทุนโครงการผลิตเอทิลีน 1 ล้านตันของบริษัท พีทีทีพีอี จำกัด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสเปรดจะปรับตัวดีขึ้นแต่ปีนี้ คาดว่ารายได้ของบริษัทจะต่ำกว่าปีที่แล้ว 2-3% จากเดิมที่มีรายได้รวม 7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากต้นปีบริษัทได้หยุดซ่อมบำรุงโรงงานทำให้กำลังการผลิตหายไป

นายอดิเทพ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2552-2553 เชื่อว่าราคาเอทิลีนจะอ่อนตัวลงมา เพราะมีกำลังการผลิตใหม่จากตะวันออกกลางเข้ามา แต่ราคาเม็ดพลาสติกยังดีอยู่ โดยมีความต้องการใช้เติบโตเฉลี่ย 4-5%ต่อปี และการก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมีในตะวันออกกลางสูงกว่าไทย 3เท่า เชื่อว่าผู้ผลิตตะวันออกกลางจะไม่ดัมป์ราคาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้สเปรดเม็ดพลาสติกHDPE อยู่ที่ตันละ 500 เหรียญสหรัฐ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us