Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 สิงหาคม 2550
ไฮเออร์ดันไทยฮับเอเชียแปซิฟิคเทคโอเวอร์รง.ซันโยปีนี้หวังรายได้โต40%             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์

   
search resources

Electric
ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย), บจก.




“ไฮเออร์” ลั่นเตรียมประกาศศักดา วางไทยเป็นฮับของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและตะวันออกกลาง หลังเทคโอเวอร์โรงงานซันโย พร้อมเดินหน้าสร้างแบรนด์ในไทย หวังเปลี่ยนความคิดผู้บริโภคใหม่ ส่ง “ตู้เย็น” เรือธงทำศึก หวังเบียดแชร์ในตลาดได้ 6-7% และทัพขบวนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกหลายรายการ มั่นใจสิ้นปีนั่งรับเงินเข้ากระเป๋ากว่า 6,000 ล้านบาท

นายชวี จื้อหลง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และประธาน บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ไฮเออร์มีแผนทำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และตะวันออกกลางอย่างเป็นทางการ โดยได้เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกในภูมิภาคดังกล่าว หลังจากเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ได้เข้าซื้อกิจการ บริษัท ซันโย ยูนิเวอร์แซล อิเลคทริค จำกัด (มหาชน) ซึ่งกลายมาเป็นฐานโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ของไฮเออร์ในปัจจุบัน ภายใต้ชื่อ บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มั่นใจว่าหลังจากที่มีฐานการผลิตในไทยครั้งนี้แล้ว จะทำให้การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและในภูมิภาคดังกล่าว จะมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้น

สำหรับโรงงานดังกล่าว นอกจากจะผลิตตู้เย็น ที่สามารถผลิตสูงสุดได้ถึง 2.4 ล้านเครื่องต่อปี ขณะนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 8 แสนเครื่อง ส่วนเครื่องซักผ้าจาก 2 แสนเครื่อง ขณะนี้ทำได้ 1 แสนเครื่อง ซึ่งทางโรงงานกำลังมีแผนที่จะเพิ่มไลน์การผลิตและประกอบสินค้าในกลุ่ม แอลซีดีทีวี และ ตู้แช่ อีกในไตรมาสสี่ของปีนี้ด้วย ขณะที่ในปีหน้ามองว่าจะเริ่มผลิตเครื่องปรับอากาศในไทยได้ โดยกำลังการผลิตกกว่า 80% ของทุกสินค้าเป็นการส่งออก ในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น

นายทวีศักดิ์ เกียงไกรเกียรติ กรรมการ บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ไฮเออร์ได้มีโรงงานในไทย ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจในไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการซัพพอร์ตสินค้า จากเดิมที่มีเฉพาะบริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ฝ่ายขายเพียงอย่างเดียว

“ไฮเออร์ พร้อมที่จะทำตลาดในไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และตะวันออกกลางหลังจากนี้ไป ขณะที่การทำตลาดในประเทศไทย ได้วางโพซิชั่นนิ่งแบรนด์ใหม่ ชูความเป็นโกลบอลแบรนด์ให้ลูกค้าได้รับรู้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ในการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ หลังจากที่ผ่านมาผู้บริโภคคนไทยส่วนใหญ่ยึดติดว่า ไฮเออร์ มีภาพลักษณ์เป็นแบรนด์จีนมาโดยตลอด”

สำหรับสินค้าที่จะใช้เป็นหัวหอกในการทำตลาด คือ ตู้เย็น เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับระดับโลก จึงคาดว่าปีนี้จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 6-7% จากมูลค่าตลาดรวมตู้เย็น 1.2 ล้านเครื่อง และมั่นใจว่าอีก 5 ปีนับจากนี้จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดตู้เย็นได้ โดยจะต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาดนี้ไม่ต่ำกว่า 20% ส่วนเครื่องซักผ้าบริษัทฯจะมีการเพิ่มไลน์อัฟสินค้ามากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดน้อยอยู่ก็ตาม นอกจากนี้บริษัทฯยังมีการทำตลาดในส่วนของ แอลซีดี ทีวีด้วย ซึ่งราคาในการจำหน่ายจะใกล้เคียงกับแบรนด์เกาหลี หรือต่ำกว่าเล็กน้อยที่ 10%

ด้านการทำตลาด ปีนี้บริษัทฯใช้งบการตลาดเพียง 50-60 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจะใช้ในช่วงไตรมาสสี่นี้ถึง 40 ล้านบาท เนื่องจากไฮเออร์จะเริ่มทำตลาดแบบครบวงจรอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสินค้าใหม่แก่ตัวแทนจำหน่าย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์อื่นๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ

ส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย จะมีสินค้าวางจำหน่ายครบทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์นเทรด และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 200 ราย ซึ่งทางบริษัทฯจะใช้นโยบายควบคุมราคาเข้าช่วย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่า ไม่ว่าจะซื้อสินค้าไฮเออร์ที่ช่องทางใด ก็จะซื้อในราคาเดียวกัน

ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นเฉลี่ยเพียงปี 20-30% โดยในปี 2549 มีรายได้รวมเกือบ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้หลังมีโรงงานในไทย คาดว่ารายได้จะเติบโตแบบก้าวกระโดด 30-40% หรือคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท โดยมียอดขายหลักมาจากตู้เย็น 80% และอีก 20 % มาจาก เครื่องซักผ้า แอลซีดีทีวี และตู้แช่ไวน์

ส่วนในปีหน้า บริษัทได้วางงบการตลาดเพิ่มเป็น 150 ล้านบาท เนื่องจากเป็นปีที่ทางไฮเออร์รับเลือกเป็น ออฟฟิศเชียล สปอนเซอร์ ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคในปีหน้าที่ประเทศจีน จึงคาดว่าจะมีแผนการใช้สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งในการทำตลาดเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยในการสร้างการรับรู้แบรนด์ในระดับโลกและในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี หรือคาดการณ์ว่าปีหน้าจะมีรายได้อย่างน้อย 7,000 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us