|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
อายิฯ เร่งขยายโปรดักส์ไลน์กาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ ปิดทางคู่แข่งรายเก่า-รายใหม่อย่างคิรินยักษ์แดนปลาดิบชิงชิ้นเค้ก 8.9 พันล้านบาท อัดฉีด 50 ล้านบาท ปั้นเบอร์ดี้ ริช แอนด์ สมูท รสชาตินุ่ม กลมกล่อม ขยายฐานคอกาแฟรสนุ่ม พร้อมปรับหน่วยขาย 400 ทีม ทะลวงร้านค้า สิ้นปีหวังเบอร์ดี้โต 7% รั้งตำแหน่งผู้นำตลาดครองแชร์ 70% และเป็นสินค้าเรือธงดันรายได้รวมโต 10% กวาด 2 หมื่นล้านบาท หลัง 7 เดือนพลาดเป้าโตแค่ 10%
นายพิเชียร คูสมิทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเบอร์ดี้ เปิดเผยว่า แผนการตลาดเบอร์ดี้ต้องการขยายสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นบริษัทฯจึงได้เปิดตัวกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ ริช แอนด์ สมูท หรือเบอร์ดี้แถบเขียว รสชาตินุ่ม กลมกล่อมของกาแฟนม เพื่อขยายฐานลูกค้าที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟรสนุ่ม เนื่องจากฐานลูกค้าของเบอร์ดี้หลักมาจากกาแฟโรบัสต้าหรือรสเข้มข้น 80% ในขณะที่กาแฟรสนุ่ม
“ก่อนหน้านี้บริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าใหม่มิ้ลค์กี้มียอดขายคิดเป็น 10% ของรายได้รวม และก็ยังไม่สามารถขยายฐานลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวได้ โดยพบว่าปัจจุบันคอกาแฟดื่มกาแฟรสนุ่มคิดเป็น 30% เมื่อเทียบกับผู้ที่ดื่มรสเข้มข้นคิดเป็น 70%”
สำหรับงบการตลาดเบอร์ดี้ ริช แอนด์ สมูท บริษัทฯวางไว้ที่ 50 ล้านบาท จากงบรวมกลุ่มกาแฟเบอร์ดี้ 500 ล้านบาท นำร่องด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง โดยเรื่องแรก”Color Bar”เน้นในเรื่องของจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีแถบเขียว เพื่อสร้างการจดจำ ส่วนเรื่องที่สอง”The Way” เน้นการสื่อสารถึงรสชาตินุ่ม กลมกล่อม พร้อมกับตอกย้ำแนวคิดของ “โก ฟอร์ เวย์” (Go for Way) พาใจไปสู่ฝัน รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ การชงชิม เพื่อใหม่กลุ่มเป้าหมายทดลองชิม
แนวโน้มตลาดกาแฟกระป๋องมูลค่า 8,900 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 5% ทั้งนี้จากสภาพตลาดที่มีขนาดใหญ่ ทำให้มีคู่แข่งหน้าใหม่หลายรายสนใจที่จะเข้ามาทำตลาด ไม่ว่าจะเป็น คิริน ผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งเครื่องดื่มชาเขียว น้ำผลไม้ และกาแฟพร้อมดื่ม สำหรับตลาดกาแฟกระป๋องในประเทศไทย ยังมีช่องทางการตลาดอีกมาก ส่วนตลาดกาแฟพรีเมียมยังไม่ได้รับการตอบรับที่ดีมากนัก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคยังไม่ได้ โดยคำนึงถึงราคาเป็นปัจจัยหลัก แต่ในฐานะที่เบอร์ดี้เป็นผู้นำตลาดจะต้องเป็นผู้สร้างเซกเมนต์และขยายโปรดักส์ไลน์ใหม่ๆ ให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภค
นายพิเชียร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้บริษัทฯต้องปรับทีมขายสินค้าโดยรวมราว 400 ทีมใหม่ โดยเน้นการเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น อย่างน้อยต้องมากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน ขณะเดียวกันท่ามกลางตัวแปรมากมาย บริษัทฯจึงต้องปรับเปลี่ยนแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาด ทั้งนี้เพื่อรักษาช่องทางจำหน่ายโดยเฉพาะตู้แช่และร้านโชวห่วย เนื่องจากเจ้าของจะเลือกสินค้ามาวางในตู้อย่างมากสุด 3-4 แบรนด์ และน้อยที่สุดคือ 2 แบรนด์ เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันโชวห่วยและตู้แช่คิดเป็นสัดส่วน 60% ส่วนร้านค้าสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรดคิดเป็น 40%
สำหรับการเปิดตัวเบอร์ดี้ ริช แอนด์ สมูท ในปีแรกคาดว่าจะมียอดขายโดยรวม 6% และผลักดันให้แบรนด์เบอร์ดี้มีอัตราการเติบโต 7% รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่ง 70% จากมูลค่าตลาด 8,900 ล้านบาท สำหรับทรีอินวันในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 50% หรือมีส่วนแบ่ง 10% จากมูลค่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้คาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโต 20%
ผลประกอบการในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมานี้ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 15% โดยมีอัตราการเติบโตเพียง 10% ทั้งนี้เป็นเพราะผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง อย่างไรก็ตามในสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% หรือมีรายได้ 20,000 ล้านบาท โดยการเติบโตมาจากสินค้าหลักที่สร้างรายได้ มากกว่าสินค้าภายใต้แบรนด์ใหม่ อาทิ กลุ่มกาแฟเบอร์ดี้ซึ่งในแบรนด์หลักที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของยอดขายรวมปีนี้
|
|
|
|
|