งาน Bangkok International Motor Show ปีนี้ อาจมีความหมายมากกว่าการจัดในหลายๆ
ครั้งที่ผ่านมา เพราะเป็นการจัดเนื่องในโอกาสครบรอบ 24 ปีของการจัดงานมอเตอร์โชว์ในประเทศไทย
และเป็นการครบรอบอายุ 60 ปี ของปราจิน เอี่ยมลำเนา
แม้จังหวะเวลา และสถานที่จัดงานยังคง เดิม แต่ก็มีความพยายามที่จะจัดให้งานยิ่งใหญ่
เพื่อเป็นเกียรติกับทั้ง 2 เหตุการณ์ดังกล่าว
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว การจัดงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ สีสันกลับน้อยลงไปมาก
มีการวิเคราะห์ว่า ที่บรรยากาศเป็นเช่นนี้ อาจจะด้วยเหตุผลหลายประการ โดยเฉพาะสงครามในตะวันออกกลาง
ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีผลให้แนวโน้มของเศรษฐกิจทั่วไปไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควร
ประกอบกับในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีที่ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีความคึกคักมาก
ค่ายรถทุกค่ายต่างออกรถรุ่นใหม่มาประชัน ทำให้เมื่อเวลาก้าวล่วงมาถึงตรงนี้
แต่ละค่ายจึงไม่สามารถงัดกลยุทธ์เด็ดๆ ออกมาได้ทัน
บ้างก็มองว่า ตลาดรถยนต์ที่กลับขึ้นไปคึกคัก อย่างสุดขีดในปีก่อน ยอดขายรถรวมพุ่งขึ้นไปถึงกว่า
4 แสนคัน จึงย่อมเป็นธรรมดาที่ตลาดในปีนี้ จะต้อง ชะลอตัวลง เพื่อรอจังหวะการกลับมาคึกคักใหม่อีกครั้งในอีก
1-2 ปีข้างหน้า
งานมอเตอร์โชว์ปีนี้ จึงสามารถใช้เป็นดัชนีชี้วัดสถานการณ์ดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง
แม้ค่ายรถแทบทุกค่าย และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์หลายแห่ง
ให้ความ ร่วมมือเข้าร่วมออกบูธแสดงสินค้าเป็นจำนวนถึงกว่า 30 บูธ
แต่ค่ายรถหรูราคาแพง อย่าง Rolls-Royce และ Bentley ที่เคยสร้างความฮือฮา
ด้วยการนำรถราคาแพงระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป มาโชว์เมื่อปีก่อน กลับไม่ได้เข้ามาร่วมออกบูธในปีนี้ด้วย
ด้านรถต้นแบบที่เคยเป็นจุดดึงดูดผู้คนให้เข้าไปชม เพราะ เป็นการแสดงถึงนวัตกรรมใหม่ๆ
ของค่ายรถ ในปีนี้ก็มีการนำมาโชว์ให้ดูเพียงไม่กี่คัน ที่น่าสนใจเห็นจะมี
TOYOTA RSC (Rugged Sport Coupe) ซึ่งเป็นต้นแบบรถเก๋งขับเคลื่อน 4 ล้อของค่ายโตโยต้า
กับ MITSUBISHI PAJERO EVOLUSION ซึ่งเป็นรถต้นแบบรุ่นใหม่ของมิตซูบิชิ
ข้อที่น่าสังเกตคือ รถที่ถูกนำมาเป็นจุดขายเด่นๆ ของปีนี้ กลับเป็นรถประเภท
SUV และรถสปอร์ต ซึ่งแตกต่างจากปีก่อน ที่ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
โดยค่ายวอลโว่ เป็นรถรุ่น XC 90 ซึ่งถือเป็นการเปิดตัว SUV ครั้งแรกของค่ายนี้
ขณะที่ฟอร์ดเป็นรถรุ่น EVEREST ซึ่ง เป็น SUV ที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย
ส่วนเกียได้นำรุ่น SORENTO มาแสดงเป็นจุดขาย
ขณะที่รถสปอร์ต มีการนำมาแสดงจากหลายค่าย อาทิ บีเอ็มดับเบิลยู Z 4 มาสด้า
RX 8 และนิสสัน 350 Z
จะมีที่สวนทางก็คือ ค่ายเจเนอรัล มอเตอร์ ที่เปิดตัว รถเชฟโรเลต OPTRA
ซึ่งเป็นการทำตลาดรถเก๋ง 4 ประตูเป็นครั้งแรก หลังจากประสบความสำเร็จจากเชฟโรเลต
SAFIRA ซึ่งเป็นรถ MPV มาตลอด 3 ปี ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดด้วยตัวเองในประเทศไทย
ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ค่ายเดมเลอร์ไครสเลอร์ และยนตรกิจ ที่ได้เปิดตัวรถเมอร์ซิเดส
เบนซ์ CLK-Class Cabriolet และรถโฟล์กสวาเกน New Beatle Cabriolet ซึ่งเป็นรถเปิดประทุนทั้ง
2 รุ่น เพราะถูกมองว่าอาจไม่ประสบความสำเร็จนักสำหรับตลาดในประเทศไทย ซึ่งมีอากาศร้อน
และมลภาวะตามท้องถนนที่สูงกว่าตลาดในแถบยุโรปและอเมริกา
งาน Bangkok International Motor Show ปีหน้า น่าจะมีสีสันมากกว่าในปีนี้